?เป็นเอก โลโก้แห่งความเข้าใจยาก?

เป็นเอก" โลโก้แห่งความเข้าใจยาก?

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2549 20:16 น.

กลายเป็นภาพยนตร์ที่เป็นที่จับตาขึ้นมาทันทีสำหรับภาพยนตร์แนวทริลเลอร์เรื่อง "Invisible Waves" หรือในชื่อไทยว่า "อินวิซิเบิล เวฟส์ : คำพิพากษาของมหาสมุทร" ผลงานใหม่ของ "ต้อม เป็นเอก รัตนเรือง" บนความร่วมมือของ ไทย, เนเธอร์แลนด์, ฮ่องกง, อิตาลี และเกาหลีใต้...

...ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่เป็นหนังไทยเรื่องแรกในรอบ 45 ปีที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสายประกวดภาพยนตร์เบอร์ลิน อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ครั้งที่ 56 (ในอดีตมีหนังไทยที่เคยเข้าสายประกวดที่เบอร์ลิน 3 เรื่อง คือ หนังสั้น "นิ้วเพชร" - รัตน์ เปรสตันยี (2502), "นางทาษ" - พระองค์เจ้าอนุสรณมงคลการ (2503) และ "แพรดำ" - รัตน์ เปสตันยี (2004)) กรณีที่หนังถูกอดีตนายกสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ "เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ" ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่หนังไทย รวมถึงกรณีที่ได้รับการคัดเลือกให้ฉายเปิดเทศกาลงานภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ 2549 (Bangkok International Film Festival 2006 : BKKIFF ระหว่างวันที่ 17 - 27 กุมภาพันธ์) ในปีนี้

นอกจากตัวงานจะได้รับการจับตาแล้ว ในส่วนของตัวผู้กำกับเองก็เป็นที่จับตาเช่นกัน เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าตัวนั้นทำออกมาทีไรเป็นต้องเจ๊ง, ดูไม่รู้เรื่อง แถมยังมีเสียงวิจารณ์ออกมาด้วยว่า สาเหตุที่เจ้าตัวทำหนังเรื่องนี้ก็เพื่อที่จะต้องการลบคำสบประมาทที่ว่าทำหนังตลาดไม่เป็นนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ถามไถ่ไปยังเจ้าตัว "ต้อม" บอกว่าโดยส่วนตัวนั้นไม่ถือว่าคำพูดดังกล่าวเป็นคำสบประมาทแต่อย่างใด ที่สำคัญสาเหตุที่ตนเองทำหนังเรื่องนี้ออกมาก็เพราะอยากทำส่วนใครจะมองว่าเป็นหนังตลาดหรือไม่ตลาดก็คงจะแล้วแต่มุมมอง

"ไม่รู้ว่าใครไปเขียนในเว็บไซต์เอาไว้แล้วทำเครื่องหมายคำพูดว่า ผมเป็นคนพูด มีรูปเราด้วยนะว่าจะทำเรื่องนี้ทำหนังแมสทำยังไง เราไม่ได้พูดซะหน่อย ใครพูดนะเขียนมั่ว ก็เห็นคนชอบมาถามเราว่าหนังเรื่องนี้หนังแมส เราไม่เคยพูด

เราทำหนังเพราะเราอยากทำ ไม่เห็นมีใครมาสบประมาทเราเลย การที่เขาว่าเราทำหนังแมสไม่เป็นเราไม่ถือว่าเป็นคำสบประมาทนะ ไม่ได้มาล้อชื่อพ่อเรานิ ไม่เหมือนกัน

ยอมรับทำหนังทีไรเป็นต้องเสี่ยงกับการขาดทุน พร้อมกับออกอาการงง กว่าที่คนจะดูหนังตัวเองสนุก - เข้าใจ ก็ต่อเมื่อออกจากโรงฯ กลายเป็นแผ่นแล้ว
"จนบางทีผมรู้สึกว่าเราน่าจะทำหนังแผ่นไปเลย ทีหลังก็ไม่ต้องเข้าโรง หรือไม่ก็ทำหนังแผ่นก่อนแล้วค่อยเข้าโรง ไม่รู้นะครับหนังผมคล้ายๆ กว่าจะรับรู้ว่าหนังสนุกมันก็ออกแล้ว หรือว่าเข้าโรงมันให้โอกาสนิดเดียว จริงๆ นะหนังผมมัวแต่ฟุตเวิร์ก กว่าจะต่อยมันก็เป็นแผ่นไปแล้ว ตอนต่อยมันต่อยอยู่ในแผ่น อันนี้เป็นความเจ็บปวด

แม้จะกลายเป็นโลโก้ของคนทำหนังที่เข้าใจ ทว่าโดยส่วนตัวแล้วเป็นเอกบอกว่าหนังของเขานั้นดูไม่ยากเลย โดยเฉพาะกับเรื่องล่าสุดที่เจ้าตัวบอกว่าค่อนข้างจะมีความป็อปมากยิ่งขึ้น
"ไม่ยากนะ ถ้าดูเรื่องต้มยำกุ้งรู้เรื่องหนังผมก็สบายๆ หนังผมไม่เครียดเป็นหนังตลกดูสนุก คืออย่างนี้ครับก่อนเราลงมือทำหนังทุกเรื่องก่อนจะเริ่มเปิดกล้องเราก็นึกถึงบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมทุกเรื่อง แต่ที่นี้ระหว่างทางเราควบคุมไม่ได้ไง มันค่อยๆ เปลี่ยนไปจนกลายเป็นหนังแบบที่มันเป็นนะ ตอนแรกที่ตั้งใจทำหนังนะอยากให้เป็นแบบนั้น

"เรื่องนี้มันก็มีทั้งคนชอบไม่ชอบนะครับ คือที่ผ่านมามันก็ดีที่ว่าคนชอบมันเยอะกว่าคนไม่ชอบ เราคิดว่าหนังเรามันคงมีคนดูอยู่ประมาณนึง จำนวนนึง ไอ้ที่มามากน้อยมันคงอย่างคล้ายๆ มันมีชื่อเราอยู่ หนังเราคล้ายเทปของพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ขายก็ได้ประมาณอย่างนี้ แต่โอเคเรื่องนี้มันจะป็อปมาหน่อย แต่ส่วนมากมันจะอยู่แถวๆ นี้ล่ะครับ แถวๆ 80 ล้าน

ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของเจ้าตัวในการทำหนังให้ตลกหลังเคยแอบลองๆ มาแล้วแต่ไม่โดนใจ
"ในเรื่องนี้แอบตั้งใจท้าทายเล็กๆ ก่อนลงมือทำ เรื่องที่แล้วที่ทำมันมีอะไรที่เราไม่พอใจว่าตรงนี้ทำไมเราทำแบบนี้ เรื่องที่แล้วเรื่องรักน้อยนิดมันก็วูบวาบ มันแบบอยู่ๆ ผู้กำกับเกิดกลัวขึ้นมาเลยแวะตลก จะไปจี้ๆ ตลกๆ ไปเลยมันก็ไม่ไป พอเราดูแล้วเราไม่ชอบมากๆ เราก็เลยเอานะคราวนี้เราจะทำอย่างนี้ให้ได้ เรื่องมันไม่ค่อยว่อกแว่กเลยทำให้หนังดูสนุกขึ้น ดูง่ายขึ้นด้วย"

"อีกอย่างจากเรื่องก่อนๆ ที่เวลาอะไรไม่ได้ดั่งใจเราก็จะตกใจ แต่เรื่องนี้ทีมงานจะเกลียดเราน้อยลงครับ...

จะเป็นอย่างที่เจ้าตัวพูดไว้หรือเปล่าต้องคอยติดตามกันต่อไป ("Invisible Waves" กำหนดเข้าฉายวันที่ 2 มีนาคม)


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์