“โบว์ แวนดา” แจงดราม่าโยง “อาน้ำอ้อย” ย้ำ!! ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยังเคารพเหมือนเดิม!!

"(หัวเราะ)ไม่ได้คุยกันนานมากแล้ว โบว์คิดว่าต่างคนก็ต่างมีเหตุผลและต่างคนก็ต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง หลังจากช่วงนั้นไม่ได้คุยไม่ได้เจอกันเลย ซึ่งกับตัวคุณพ่อ(ผศ.สงวน)เองตอนที่ให้สัมภาษณ์โบว์ก็ไม่ได้คุยกับคุณพ่อ ปกติเวลาโบว์มีปัญหาอะไรจะไม่ค่อยให้คนในครอบครัวรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่คุณพ่อให้สัมภาษณ์ก็ตามนั้นเลยค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเราเป็นลูกสะใภ้แล้วคุณพ่อต้องมาซัพพอร์ตเราหรือเข้าข้าง โบว์คิดว่าคุณพ่อพี่ปอมีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่พอค่ะ"

"ไม่มีค่ะ ไม่เคยมีและที่ผ่านมาเรื่องเงินเรื่องทองก็ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในชีวิตโบว์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องเงินเรื่องทองมันสำคัญที่สุดในชีวิต แต่เรื่องเงินเรื่องทองมันไม่ได้สำคัญที่สุดในชีวิตโบว์ ฉะนั้นเงินไม่ได้มีส่วนสำคัญในการแตกหักในครั้งนี้ แต่เป็นทัศนคติอาจจะไม่ตรงกันอะไรประมาณนี้ ไม่มีใครผิดหรอก แต่สิ่งที่โบว์ทำไปทุกคนก็ด่าโบว์ว่าโบว์หยาบๆ คายๆ แต่ก็บอกตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป แล้วก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน ไม่มีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง คือมีงานหรือไม่มีงานในวงการมันไม่ใช่ว่าเฮ้ย! เราต้องมี มันไม่ใช่ คืออย่างที่บอกไปว่าตัวเราเจออะไรมาเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวคุณปู่คุณย่าหรือครอบครัวโบว์มันผ่านภาวะนั้นมาแล้ว คือมันก็ทำให้โบว์ได้คิดและก็ทำให้โบว์โตขึ้นเยอะ และมองว่าเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต"

"โบว์ไม่ได้รับเองด้วยค่ะ ที่ผ่านมาไม่อยากจะเป็นกระแสเพื่อที่จะเรียกงาน โบว์คงไม่เอากระแสที่ไม่ดีแบบนี้มาทำให้ครอบครัวโบว์เจ็บปวดหรืออะไร โบว์ไม่ต้องการ คือถ้าไม่ใช่งานในวงการ โบว์คิดว่าเราก็ทำมาหากินอย่างอื่นที่เราถนัดได้ อย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องของความคิดไม่ตรงกันแค่นั้น แต่ก็ยังเคารพคุณอาเหมือนเดิม ถามว่าจะมีการมาปรับความเข้าใจกันใหม่มั้ย ไม่น่ามีค่ะ แต่ถึงขั้นว่าจะไม่เผาผีกันเลยรึเปล่า มันไม่ขนาดนั้น แต่ว่าเราเลือกอยู่ในจุดที่เราสบายใจ เลือกในจุดที่เรามีความสุข ครอบครัวเรามีความสุข คนรอบข้างเรามีความสุขและคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยายมีความสุขแค่นั้นพอ ทุกวันนี้เราก็ยังห่วงใยคุณอาอยู่ แต่ว่าคนเรามันมีทางเลือกที่ว่าจะยืนอยู่ตรงจุดไหนแล้วให้มันสบายใจกันทั้งสองฝ่ายมากกว่า"

"ไม่นะคะ เราก็พยายาม อย่างแฟนคลับทุกคนโบว์ก็จะบอกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของโบว์ เพราะฉะนั้นอย่าให้ความรู้สึกข้างใดข้างหนึ่งหรืออะไรมาทำความรู้สึกที่เคยมีดีๆ ต่อกันทั้งสองฝ่ายมาทำให้มันรู้สึกแย่หรืออะไร ทุกคนมีเหตุผลค่ะ แต่เราไม่สามารถมาอธิบายเหตุผลให้คนทั้งโลกเข้าใจได้ว่าเราทำไปเพราะอะไร รู้อยู่ว่าทำไปแล้วโดนด่าแน่นอน และวันที่ลงไปคิดเลยว่าโดนด่าแน่นอน อกตัญญู เนรคุณ เห็นแก่เงิน ช่วงนั้นก็เก็บตัวอยู่ในบ้านอาทิตย์หนึ่ง ถามว่าเครียดมั้ย เครียดเพราะปัญหาที่ผ่านมามันก็เครียดอยู่แล้ว พอมาเจอปัญหานี้ก็เครียดเข้าไปอีก แต่ก็บอกกับตัวเองว่าที่เราทำมันถูกต้องและเดี๋ยวมันก็ผ่านไป"

"เนรคุณมั้ง(ยิ้ม) แล้วก็อกตัญญู แต่ถามว่าโดนด่าขนาดนี้ร้องไห้มั้ย เรื่องโดนด่าโดนว่าไม่ร้องหรอกค่ะเพราะว่าโดนมาเยอะแล้ว แต่ที่ร้องไห้มันก็ร้องในสิ่งที่เราไม่อยากทำ แต่มันต้องทำ ร้องไห้ในมุมมองที่ว่าถึงเวลาที่มันต้องทำ เพราะเราไม่อยากทำร้ายใครอยู่แล้วค่ะ ไม่อยากโดนด่า แต่ว่าเมื่อคนมันถึงที่สุดแล้วมันก็ต้องลุกขึ้นมาปกป้องตัวเองและก็วันนี้ก็ไม่อยากให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ เพราะว่าเดี๋ยวมันจะเกิดผลกระทบกับอีกฝั่งหนึ่ง เขาก็ใช้ชีวิตของเขาดีแล้วและก็ต่างคนต่างทำมาหากิน ยังยืนยันว่าไม่อยากให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นและก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ ไม่อยากให้ประชาชนต้องมารับรู้เรื่องราวแบบนี้ซึ่งมันเป็นเรื่องราวส่วนตัวของโบว์"

"โอ๊ย! อยากตีปากคนที่พูดจังเลย(ยิ้ม) ไม่มีหรอกค่ะ สามีก็ไม่มีหรอกค่ะ ยังคงเป็นพี่ปออยู่แบบนี้แหละค่ะ"

"โบว์มีวุฒิภาวะมากพอและมีสมองพอที่จะไตร่ตรองก่อนว่าใครเป็นอย่างไร ถ้าโบว์เชื่อหรือหูเบา ป่านนี้โบว์คงไม่มีความเป็นตัวโบว์แล้วค่ะ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ที่คนรู้จักโบว์ครั้งแรกเนี่ยก็เห็นอยู่ว่าคนรอบข้างโบว์เยอะขนาดไหน ถ้าโบว์ไม่เข้มแข็งพอ คิดเองไม่เป็น คิดเองไม่ได้ป่านนี้ก็คงจะเลอะเทอะ ไม่มีจุดยืนในชีวิตแล้วค่ะ"

"อืม....โบว์ว่าต่างคนต่างอยู่ดีกว่าค่ะ ทุกคนมีจุดยืนของตัวเอง ถามว่าที่โพสต์ไปคือตัดขาดกันอย่างชัดเจนเลยมั้ย คือตอนโพสต์โบว์ไม่ได้บอกว่าเป็นใครนะคะ แต่พอหลังจากนั้นคุณอาก็ออกมาให้สัมภาษณ์ วันนี้โบว์เองก็กำลังสัมภาษณ์ในเรื่องที่คุณอาให้สัมภาษณ์ แต่ที่โบว์โพสต์ไปตอนนั้นโบว์ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร"

"เรื่องความสัมพันธ์มันยังคงอยู่ ทุกครั้งที่น้องถามถึงคุณอาโบว์ก็จะบอกน้องว่าคุณอาไปทำงานนะค่ะ คุณอาไม่มีเวลาหรืออะไรแบบนี้ อย่างที่บอกว่าโบว์ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ อยู่ดีๆ จะมาหาเรื่องให้คนด่าโบว์มันก็ไม่ใช่เรื่อง แต่ก็ยังยืนยันว่ามันถึงเวลาที่จะต้องปกป้องตัวเองแล้วแหละ"

"จริงๆ ที่ช่องก็ไม่ได้อะไรนะคะ ไม่ได้ว่าจะต้องเรียกเราเข้าไปทำงานหรือว่าอะไร ส่วนที่งานบอลช่อง 3 ที่ผ่านมาไม่เห็นโบว์กับมะลิไปร่วมงานด้วย จริงๆ ปีที่แล้วก็ไม่มีนะ ปีนี้ก็ไม่มี มีแค่ปีที่เราเสียพี่ปอไป แค่นั้นแหละค่ะ ก็คือทางช่องยังให้เกียรติพี่ปอ ยังนึกถึงพี่ปอ แต่พอหลังจากนั้นช่องก็ไม่ใช่ว่าจะมาบอกเราว่าต้องมาอยู่ตรงนี้ๆ แค่ว่าผู้ใหญ่ที่ช่องเขายังคงติดตาม ยังเอ็นดู และให้กำลังใจเหมือนเดิมค่ะ ถามว่าโบว์จะกลับไปร่วมงานกับช่องอีกมั้น ถ้าเรื่องงาน เรื่องช่อง หรือเรื่องที่ผู้ใหญ่ทุกคนให้โอกาสโบว์ ก็ยินดีค่ะ ยังคงความคิดไว้เสมอว่ามีโอกาสดีๆ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิเสธ"

"ก็ยังคงอยู่ที่ผู้ใหญ่(ยิ้ม) ผู้ใหญ่ใจดีทั้งหลายนะคะ เพราะโบว์ก็ยังต้องตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินเพื่อดูแลคนในครอบครัวต่อไป แต่หลักๆ ตอนนี้ก็ยังโฟกัสธุรกิจ แต่ที่หลักๆ เลยโฟกัสเรื่องลูก เรื่องธุรกิจ เรื่องครอบครัว ส่วนเรื่องสามีใหม่ไม่มีในหัว"