เมื่อ คาสโนว่า ถูก สวมเขา

  “ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่เข้ามา”

สำหรับ “เจ๊เขียว” ไม่รู้สึกโสภากับเทศกาลนี้ซักเท่าไหร่ เพราะมันตอกย้ำวัยที่แก่เพิ่มขึ้นอีก 1 ปี หลายคนอาศัยโอกาสนี้ บอกตัวเอง “คิดใหม่ ทำใหม่” หาผัวใหม่ หาเมียใหม่ เอ๊ย ม่ายช่าย “รักเดียว” ได้ก็ดีที่สุด แต่ถ้าทำไม่ได้ ค่อยคิดหาผัวใหม่ เมียใหม่แต่ถ้าประเถทยังเป็นผัวเป็นเมียกันอยู่ แล้วเสือก “สมสู่” กับ “ชู้” อันนี้เขาเรียก “อุบาทว์จัญไร”

เมื่อฉบับก่อน “เจ๊เขียว” ได้แฉความฉาวโฉ่ของ “คาสโนว่าหน้าหม้อ เอ๊ย หน้าหล่อ” กับ “นางเอกโอโม่”

บอกว่าตอนนี้กำลัง “เล่นโม่แป้ง” กันอย่างเมามันแต่ถ้าใครถามก็ตีหน้าตายบอกเป็น “พี่น้อง” แต่ละคำว่า “ท้องติดกัน” ไว้ ในฐานะที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วสำหรับคู่นี้จะอย่างไรก็ยังเรียกว่าเป็น “เล่นชู้” กันอยู่ดี เพราะ “คาสโนว่าหน้าหล่อ” กับ “เมียผีเจาะปาก” ยังไม่ได้หย่ากันดังนั้นต่อให้ฝ่าย คาสโนว่า มันจะพล่ามพูดวันละร้อยหนกรอกหู น้องหนูโอโม่ว่า “รักจริงหวังแต่ง” แต่ในความจริงก็ “แต่งงาน” กันไม่ได้ เพราะทาง “เมียปลาร้าค้างปี” ยังมีทะเบียนสมรสเป็นเครื่องต่อรองอยู่

ถ้าอยากได้ “ทะเบียนหย่า” เร๊อะ...ไม่ยากส์

เอาเงินมากองตรงหน้า 20 ล้านบาทเมื่อไหร่...เอา “ผัว” ไปเลยดูเผินๆ เหมือนฝ่าย “อีเมียปลาร้าหน้าสวย” จะน่าสงส๊านน่าสงสาร แต่ความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่เลยล่ะค่ะ
ทำไมน่ะเหรอ ต้องฟัง “เจ๊เขียว” สาธยายซะก่อนแล้วจะหนาวช่วงผัว คาสโนว่าหน้าหล่อ เหม็นเบื่อออกไปตะเวนหา “ของเน่า” บริโภคตามใจอยากนั้นฝ่าย “นังปลาร้าหน้าสวย” ก็แสบสันพอกันแอบย่องออกหลังบ้านกลับไปหา “แฟนเก่า”แกล้งเอาปัญหาความเจ้าชู้ของผัวตัวดีไปปรึกษาหาทางแก้แต่ปรึกษาไปปรึกษามา ชีดันเสือก “แก้ผ้า” ซะเนี่ยพูดถึง “ตัณหาราคะ” เข้าใครออกใครซะที่ไหนพอได้เสพไปแล้วล่ะก็ “เลิกยากส์”

ยิ่งคู่นี้เป็น “ถ่านไฟเก่า” ที่กลับมา “เขี่ย” กันใหม่ด้วยแล้ว
 
เขี่ยกันเพลินทีเดียวเชียวล่ะค๊าเจ๊ว่าเรื่องนี้ “ไม่แฟร์” สำหรับฝ่ายผัว คาสโนว่าหน้าหล่อ เหมือนกันนะคะเพราะนอกจากจะ “โง่ดักดาน” โดน “สวมเขา” ยังไม่รู้ตัวแล้วตัวเองก็ยังโดนสังคมด่าอยู่ฝ่ายเดียวเลยว่า “ชายชั่วมากราคะ”อย่างไรก็ตามต่อมาฝ่าย “ชายชู้ถ่านไฟเก่า” เกิดสำนึกตัวกลัว “ต้นงิ้ว” ประกอบกับว่าตัวเองก็มีลูกมีเมียอยู่แล้วเหมือนกัน จึงกลัว “ครัวแตก”ก็เลยบอกศาลากับ “นังปลาร้าหน้าสวย” ยุติความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวแต่เพียงเท่านั้นโอ๊ย แรกๆ ก็เล่นเอาชีกินน้ำตาต่างข้าวไปหลายวันทีเดียว จนร่างกายผอมซูบเซียว แต่ก็กลายเป็นผลดี เพราะชีกลับมาหุ่นผอมสวยเหมือนตอนก่อนมีลูกอีกครั้งหลังจาก “หายเสียหลัก” กลับมาเป็นผู้เป็นคนใหม่อีกครั้ง ชีก็สลัดความโทรม กลับมาสวยเริ่ด พร้อมด้วยหุ่นเสียวเพรียวลมสมส่วนการรีเทิร์นของชีพลิกโฉมแบบหน้ามือเป็นหลังมือจาก “นังปลาร้า” มาเป็น “นังปลาหิมะ” หอจ๊อน่าเจี๊ยะผู้ชายหน้าไหนเห็นก็อยากจะ “เซี๊ยะ” ทั้งน้าน
ซึ่งในที่สุด “ปลาหิมะ” ก็โดนเซี๊ยะจนได้

เรื่องของเรื่องก็คือตอนกำลังเซ็งที่รู้ความจริงว่า “ผัวตัวดี” หันไป “โม่แป้ง” แก๊งเดียวกัน

และยังมาโดน “แฟนเก่า” เสือกกลัวหนามต้นงิ้ว ทำให้อยากแล้วถลกตูดจากไปอีกชีก็เลยหันมาเปิดร้านอาหารแก้อาการ “ฟุ้งซ่าน”ก็ไม่รู้ว่า “พรหมลิขิตบันดาลชักพา” หรือว่า “นรกสรรหา” กันแน่เพราะบังเอิ๊นร้านอาหารเกาหลีที่ติดๆ กับร้านของชี เจ้าของร้านชื่อว่า จ. ล้อหล่อพอชีเห็นเข้าก็น้ำลายไหล ความที่ “เหินห่างเรื่องอย่างว่า” มานาน ก็เลยเกิดอาการ “สว่าน” เกินห้ามใจชีก็เอาเลย....ดำเนินแผนการ พาเรือนร่างน่าเซี๊ยะเข้าไปหาทำนองขอคำปรึกษาหารือเรื่องธุรกิจแล้วก็อย่างว่า นั่นแค่ข้ออ้างเพื่อหาผอ สระ อัว “ผัว”ปรึกษากันไปปรึกษากันมาก็หา “ผัว” ได้สมใจชีและนอกจากจะได้ “รวมร่าง” แล้วก็มีแววว่า จะมีการ “รวมกิจการ” อีกด้วย ดีไม่ดี 2 ร้านอาจถูกทุบกำแพงกลายเป็นร้านเดียวกัน

ส่วนไอ้ผัว คาสโนว่าหน้าหล่อ ตอนนี้ก็กำลังหลง “เสน่ห์ปลายจวัก” กับ “เสน่ห์ปลายลิ้น” ของ “นางเอกโอโม่” จนไม่มีเวลามาสนใจเมียตัวเองเหมือนกัน

คราวก่อนเคย “ขอหย่า” เมียสาวยื่นข้อแลกเปลี่ยนเป็นเงิน 20 ล้านยังไม่รวมสินสมรส และค่าเลี้ยงดู ซึ่งตกลงกันไม่ได้ ใบทะเบียนจึงคาราคาซังกันอยู่แต่ถึงวันนี้มีเหตุการณ์แทรกซ้อนขึ้นมา อาจกลายเป็นว่าทั้งสองฝ่าย “ต้องการหย่า”เพราะหากปล่อยให้สถานภาพคาใจไม่เคลียร์กันอยู่อย่างนี้ ก็ไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่ายทางฝ่ายผัวจะคบ “นางเอกโอโม่” ออกนอกหน้าก็ไม่ได้ ส่วนทางฝ่ายเมียก็จะเปิดตัว “ผัวใหม่” ก็ไม่งามด้วยเหตุนี้ “ใบหย่า” ของทั้งสองจากสนนราคา 20 ล้าน อาจจะหั่นราคากระหน่ำซัมเมอร์เซล 50 เปอร์เซนต์ เหลือแค่ 10 ล้านบาทเท่านั้น

 หรือดีไม่ดีแจให้ฟรีๆ ไม่เสียเงินแม้แต่แดงเดียวก็ได้แล้วหลังจากนั้นก็เชิญทั้งคู่ “ขึ้นสวรรค์ ลงนรก” กันตามสบาย