เสี่ยตา ไม่กลัวชื่อเสีย ย้ำไม่คิดโกงใคร

ตกเป็นข่าวใหญ่รับต้นปีใหม่เลยทีเดียว

สำหรับกรณีที่ บริษัท อะเบ้าท์ ไอเดีย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฟ้องร้อง เวิร์คพ้อยท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ไม่จ่ายค่าจัดงาน “มหกรรมเกมแก้จน” ที่จัดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน โดยล่าสุดศาลแพ่งได้ตัดสินให้ เวิร์คพ้อยท์แพ้คดี เนื่องจาก มีความผิดตามที่โจทก์ยื่นฟ้องมาจริง โดยให้จ่ายเงินเป็นจำนวน 1.7 ล้านบาทแก่ บริษัท อะเบ้าท์ ไอเดีย ด้าน ปัญญา นิรันดร์กุล บอสใหญ่ เวิร์คพ้อยท์ กล่าวย้ำไม่กลัวเสียภาพลักษณ์ พร้อมชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

ปัญญา เผย ว่า

“ผมขอพูดรวม ๆ แล้วกัน การทำงานอะไรก็แล้วแต่ จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีการว่าจ้างกัน เดิม ทีมีการว่าจ้างกันโดยไม่ได้คุยกับผมโดยตรง ทีมงานไปคุยกันเอง แล้วก็ มีการตกลงเกิดขึ้นตามเหตุว่าเหมาะสมแก่การลงทุนก็ว่ากันไป พอมีเหตุปุ๊บก็มีการถามว่าปัญญาหลบหน้าไปไหน ซึ่งปัญญาก็ไม่เคยหลบ เพราะตอนแรกที่ตกลงกันก็ไม่ได้คุยกับ ผม เขาคุยกับทีมงาน ทีมงานเสนอมาผมก็อนุมัติไปตามหลักการ”


ช่วยขยายความให้ฟังหน่อย?

“การตกลงของการเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีการเสนอโน่นนี่ทั้ง 2 ฝ่าย เหมือนคนแต่งงานกันก็ต้องมีความรักกัน บังเอิญมีอยู่งานหนึ่งเราให้อีกฝ่ายไปทำ เพราะสัญญา กับเขาเอาไว้ว่าจะให้ทำ เขาก็เอาไปขายหมด เพราะเขารับปากว่าจะขายได้ 80 จากจำนวนเต็มร้อย จึงทำให้มีการตกลงกันเกิดขึ้น แต่พอเขาไป ทำการขายแล้วขายไม่ถึง เขาก็จะให้เราไปจ่ายค่าทำงานให้เขาเต็มจำนวน เราจะไปจ่ายได้อย่างไร เพราะการขายทั้งหมดก็อยู่ที่อีกฝ่าย แล้วพอ เขาขายไม่ได้ก็จะมาเอาเงินจากผมออกไปอีก พอไม่จ่ายก็เกิดเรื่อง เพราะต่างคนต่างไม่ยอมกัน ผมก็งงแล้วก็ปวดหัวนะ ความหลักมีอยู่ว่า พอขายไม่ถึงก็มาคิดค่าทำงานกับเรา ตอนขายเราก็ไม่มีสิทธิขาย อีกฝ่ายรับหน้าที่นี้ไป เงินก็เข้ามาทางเขาทางเดียว แล้วผมจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายให้เขา”

...คิดว่าจะจบอย่างไร...

“ก็ไม่รู้จะจบ อย่างไร เขาเป็นคนบอกเองว่าจะเอาเงินมาให้ผม แล้วก็ไม่เอามาให้ ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรผมไม่เคยหลบด้วย ตอนตกลงกันก็ไม่ได้คุยกับผม ไปคุยกับทีมงาน”
 
ศาลชั้นต้นตัดสินให้จ่ายเงิน 1.7 ล้านบาทให้กับฝ่ายตรงข้าม เหมือนกับว่าเราเป็นฝ่ายผิด?

 “เท่าที่อ่านความข้อมูลต่าง ๆ เขาบอกว่าจำเลยต่าง ๆ ไม่มีความผิดใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าบริษัทได้ชื่อเสียงในการทำงาน ก็เลย อยากให้ไปเพิ่มค่าใช้จ่ายในเรื่องการทำงานประมาณ 1.7 ล้านบาท ซึ่งต่างคนก็ต่างไม่พอใจอีก ก็ คงต้องว่ากันต่อไป ผมอยากให้ย้อนกลับไปดูที่ มูลเหตุนะ ถ้าตอนแรกเขาบอกเราว่า เขาอาจ จะขายได้หรืออาจจะขายไม่ได้ การตกลงก็คง ไม่เกิดขึ้น ใครจะไปทำ สุดท้ายพอทำไม่ได้ก็ ไม่รับผิดชอบ แล้วจะมาเอาค่าจ้างอีก” ...ข่าวนี้ ก่อให้เกิดผลกระทบกับภาพลักษณ์บริษัทมั้ย... “ไม่เสียหายอะไร เพราะคนที่รู้ว่าจริง ก็จะเข้าใจทุกอย่างครับ”.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์