“ปู ไปรยา” เผย!! อากาศยังเปลี่ยนเลย คงถึงเวลาต้องลาจาก “พี่โก้” ผู้จัดการส่วนตัว แล้ว!!

"มีทีมมาดู แต่ไม่ได้เป็นผู้จัดการนะ เป็นทีมผู้ช่วยค่ะ ทีมงานเป็นคนไทย แต่ก็มีคนให้ปรึกษาช่วยกันทำงานหลายอย่าง

ถามว่าทำไมไม่ให้พี่โก้ดูงานที่ไทย ปูว่าสุดท้ายพอวิสัยทัศน์กว้างเราดึงพี่โก้อยู่แล้วเครียด เวลาปูทำงานเพื่อสังคมปูเต็มที่ เวลาไปวิ่งมาราธอนพวกกิจกรรมพวกนี้มันใช้เวลาค่อนข้างเยอะ และโปรเจ็กต์ที่ปูจะทำต่อจากนี้ใช้เวลาเยอะกว่านี้อีก ซึ่งปูอยากให้พี่โก้ได้โต ได้เจอคนอื่น และได้ใช้ชีวิตได้สร้างตัวเขาด้วย

ปูเดิมพันที่จะเดินไปข้างหน้า เราไม่เอาคนอื่นมาพ่วง คือกว่าเราจะถึงหมายเราต้องเอาตัวเองให้ถึงก่อน ปูคิดเรื่องนี้มานานแล้ว ก็คุยกับพี่โก้ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเขาดีหรือไม่ดี เพราะเขาเป็นคนดี แต่เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในการทำงาน ณ เวลานี้ความต้องการอยู่ตรงไหน

สำหรับพี่โก้ปูจะบอกว่าการลาจากจากคนมันไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะลาจากด้วยเหตุผลนะ แต่คนเราจะโตได้ก็ต้องใจเด็ดนะ คนเราไม่เคยเดินไปข้างหน้า ก็จะไม่รู้ว่าการสูญเสียคืออะไร ในเมื่อเรากล้าที่จะสูญเสีย เราก็ต้องที่จะสู้ต่อ"

"ก็คุยดีอยู่แล้วว่ามีอะไรให้ช่วยคือยินดีช่วยเสมอ เขาเป็นพี่สาวปูนะ พี่โก้เขาเป็นดี และปูก็เชื่อว่าพี่โก้ก็รักปู ถามว่าการลาจากเป็นเรื่องที่เศร้าไหม เศร้า แต่คนเรา ขนาดอากาศยังเปลี่ยนเลย กาลเวลามันก็เปลี่ยน สถานะก็เปลี่ยน วาระก็เปลี่ยนค่ะ ปูกับพี่โก้เราสร้างมาด้วยกันนะ ในวันที่สร้างมาด้วยกันก็ขึ้นมาด้วยกัน ปูคิดแล้วว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูก"

"อยู่ที่ปูจะรับหรือเปล่า ทุกวันนี้ปูไปเมืองนอก ไปเดินพรมแดง ไปรับหนัง ปูทำโน่นทำนี่คือหวังว่าจะมีงานกลับมา หวังว่าคนที่ปูสั่งให้ทำงานเขาจะสามารถต่อรองกับลูกค้าได้ ปูมีพี่วู้ดดี้ มีคุณแมท ให้คำปรึกษา ช่วงนี้เป็นช่วงว่างระบบมีคนช่วยเยอะค่ะ ไม่มีการเข้าสังกัดรุ่นนี้แล้ว แล้วปูบอกเลยการเข้าสังกัด คือการหยามพี่โก้อย่างรุนแรงเลย ปูเป็นผู้หญิงแมนๆ ปูไม่ทำพี่โก้ ปูไม่วิ่งไปหาคนอื่นมา ให้มาทำแทนพี่โก้ ปูไม่ใช่คนอย่างนั้น"

"โปรดักส์ชั่นค่ะ เพราะเดี๋ยวจะทำโปรเจ็กต์ด้วยกันที่นี่ ต้องรอดู ถามว่าจะมาสร้างครอบครัวด้วยกันที่นี่หรือเปล่า ไม่ค่ะ(หัวเราะ) เราทำโปรเจ็กต์ด้วยกันมากกว่า

จริงๆ ปูรู้สึกว่าต่างคนต่างชอบตรงนี้ และปูก็อยากลองทำอะไรใหม่ๆ เหมือนที่บอกปูหาอะไรทำใหม่ๆ ทุกปี 4-5 ปีทีแล้วก็มาราธอน อยากไปเมืองนอกก็ไป โปรเจ็กต์ต่อไปปูอยากทำโปรดักส์ชั่น และเขาก็เชี่ยวชาญด้านนี้มากกว่าปู ปูแค่อยากอยู่เมืองไทย คิดถึงที่บ้าน ก็เลยดึงเขาให้มาใช้เวลาที่นี่หน่อย"

"ปูว่าคนไหนที่เป็นแฟนปูหรือเป็นเพื่อนสนิทปูมีความคิดเห็นอยู่แล้ว พูดจริงๆ นะ ดาราทุกคนเวลาก่อนรับงานมันไม่แปลกที่จะถามคนที่เรารักว่างานนี้เหมาะกับเราไหม การที่เราปรึกษาหลายๆ คนเรื่องการรับงานไม่ผิดนะ เป็นสิ่งที่ถูกแสดงว่าเราชั่งใจว่าสิ่งที่เราทำดีไหม เวลาปูตัดสินใจอะไรเร็วมักจะเป็นข้อผิดพลาดตลอด เลยไม่แปลกถามอยู่แล้ว ถามทุกคนพ่อแม่เราก็ถาม"

"แยกค่ะ การทำธุรกิจกับคู่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว ปูไม่กลัวมีปัญหา อย่างที่บอกปูเป็นคนใจเด็ด ปูกล้าได้กล้าเสีย ชีวตปูผ่านอะไรมาเยอะ ไม่มีอะไรในโลกนี้เที่ยง คนภายนอกดูว่าปูแกร่ง แต่ปูเสียน้ำตามาเยอะนะชีวิตนี้

เวลาปูตัดสินใจปูต้องรักตัวเองให้มากๆ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ถ้าชีวิตนี้มัวแต่กลัวว่าอะไรจะไปรอดไม่รอด กลัวเสียหน้า ชีวิตก็ไปไม่ถึงไหน ก็ลองดูรอดก็รอด แต่ปูค่อนข้างมั่นใจว่ารอด เพราะคนนี้เป็นคนดี"

"งานก็คงต้องอยู่ค่ะ(หัวเราะ) แต่คนนี้ปูค่อนข้างมั่นใจว่ารอดนะ อันนี้พูดตรงๆ ส่วนที่ผ่านมารักๆ เลิกๆ กัน คือคบข้ามทวีปกันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ กลางวันของเราเป็นกลางคืนของเขา กลางคืนของเราเป็นกลางวันของเขา ปูก็เล่นบินไปเมืองโน้นเมืองนี้เมืองนั้น

ปูว่าการเป็นแฟนกับปูก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และบางครั้งปูเป็นคนที่บางเรื่องก็ค่อนข้างเห็นแก่ตัวเหมือนกัน ยอมรับตรงนี้ของตัวเอง ทะเลาะกันบ่อย แต่ช่วงหลังสังเกตดูปูเบาลงเยอะ เขาสลายใจอะไร ปูก็ทำให้เขาสบายใจแล้วมันก็ดีขึ้นเยอะ

เขาฝากบอกพี่ๆ นักข่าวว่าปีหน้าเขามาอยู่กับปูมากขึ้น อาจจะมาช่วยงานการกุศลได้เจอแน่นอน เขาเคยมาแล้วรักประเทศไทยมาก เขารู้สึกว่าปูก็รักที่นี่เขาก็อยากแบ่งเวลามาค่ะ"