บันทึกลูกสาว พยานปากเอก มัดชู้รักคาร่า

หลังจากดารานางแบบ และพิธีกรสาวชื่อดัง คาร่า พลสิทธิ์ ตกเป็นข่าวอื้อฉาวถูกนางภาวิดา หรือ จันทร์วิภา กึงฮะกิจ ภรรยาของนายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ อายุ 43 ปี นักธุรกิจเจ้าของ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ดิเอ็มเพอเร่อร์เฮ้าส์ ให้ทนายความยื่นฟ้อง ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ฐานละเมิดเรื่องครอบครัว และเรียกค่าเสียหายจาก คาร่า เป็นเงินถึง 20 ล้านบาท ขณะที่นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ นักธุรกิจหนุ่มที่ตกเป็นข่าว พัวพันนางแบบสาวและอยู่ระหว่าง ฟ้องหย่านางจันทร์วิภา เผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อคืนวันที่ 9 ก.พ. ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องครอบครัว ไม่อยากพูดอะไรมากนั้น



คาร่าได้ตอบปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ บอก ตอนนี้กำลังปรึกษาทนายอยู่ จึงไม่มีอะไรจะพูด

เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (10 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสัมภาษณ์นางแบบและพิธีกรสาว คาร่า พลสิทธิ์ ซึ่งคาร่าได้รับสาย แต่เมื่อทราบว่าผู้สื่อข่าวจะสอบถามเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น คาร่าได้ตอบปฏิเสธอย่างนุ่มนวล โดยกล่าวว่า ตอนนี้กำลังปรึกษาทนายอยู่ จึงไม่มีอะไรจะพูด ขอบคุณมากที่โทรศัพท์มา ก่อนจะปิดสายจบการสนทนาทันที

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของคาร่า ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น อยู่ในซอยอินทามระ 40 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงและเขตดินแดง กทม. พบว่าบ้านยังถูกปิดล็อกไว้ ทราบจากเพื่อนบ้านว่าคาร่าได้ย้ายออกจากบ้านหลังนี้ ไปอยู่ที่บ้านใหม่ย่านถนนรามอินทรา ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา นานๆครั้งจึงจะกลับมาดูแลบ้านหลังนี้



เผย อีเมล์และ msn เป็นหลักฐานมัดคดีชู้สาว


ด้าน นายสุพรรณ เสือหาญ ทนายความของนางจันทร์วิภา กึงฮะกิจ
โจทก์ในคดีฟ้องนางแบบและพิธีกรคนดัง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าววันเดียวกันว่า คดีนี้ได้ส่งหมายเรียกให้ น.ส.คาร่ามาให้การ เชื่อว่าคงจะต้องมีการสู้คดีกันในศาล โดยตนเตรียมพยานหลักฐาน พยานบุคคล พยานเอกสาร มายืนยันในชั้นพิจารณา ทั้งข้อความทางเอสเอ็มเอสและอีเมล์จำนวนมาก

ขอยืนยันว่าข้อความทั้งหมดเมื่ออ่านดูแล้ว ย่อมเข้าใจได้ว่าทั้ง 2 มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว มีลักษณะความเป็นห่วงเป็นใย และมีความกังวลฉันคนรัก ไม่ใช่การติดต่ออย่างคนทั่วไปหรือการติดต่อทางธุรกิจ หลักฐานทั้งหมดได้มอบให้ศาลไว้ทั้งหมดแล้ว เช่นคำว่าเป็นห่วง กำลังทำงานหนัก เป็นต้น แต่ น.ส.คาร่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว คงจะไม่ใช้ถ้อยคำหวานแหววแบบวัยรุ่นและยังเป็นบุคคลสาธารณะ ไปไหนมาไหนใครก็รู้จัก คนในวงการก็รู้ๆกันอยู่



ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีฟ้องชู้ จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีพยานหลักฐานถึงขนาดคบมีความสัมพันธ์กันบนเตียงนอน เพราะลำพังพยานหลักฐานการติดต่อกัน ระหว่างสามีกับฝ่ายหญิง อาจถูกฝ่ายหญิงต่อสู้ได้ว่าเป็นการพบปะกันฉันเพื่อน นาย

สุพรรณกล่าวว่ามีหลักฐานมั่นคงชัดเจน
คดีฟ้องชู้ไม่จำเป็นจะต้องมีภาพ หรือหลักฐานให้เห็นถึงขนาดชายหญิงมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง แต่เพียงมีหลักฐานว่า มีการแสดงออกต่อกันในที่สาธารณะ มีการส่งข้อความติดต่อกัน ศาลจะชั่งน้ำหนักดูว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันหรือไม่ เรื่องนี้ได้เตรียมพยานหลักฐานกันมานานก่อนที่จะยื่นฟ้อง เชื่อว่าทางฝ่ายคาร่าก็คงมีทนายความฝีมือดี เขาก็คงเตรียมการต่อสู้คดีมาเหมือนกัน แต่บอกได้ว่าหลักฐานเรามิได้มีเพียงเท่านี้ ถ้าถามค้านมาก็จะมีสิ่งที่เตรียมไว้รออยู่แล้ว เพราะการเตรียมคดี และการฟ้องคดีคนที่มีชื่อเสียงต้องมีความพร้อม เนื่องจากหากผิดพลาดไปอาจถูกฟ้องกลับจนหมดตัว จึงมั่นใจและต่อสู้คดีตามกรอบของกฎหมาย

เผยฝ่ายชายเริ่มฟ้องหย่าเมียก่อน เลยทำให้ถูกจับได้ว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกับนางแบบดัง
ต่อข้อถามว่า ในคดีฟ้องหย่าที่นายสุรัตน์ชัย เป็นโจทก์ฟ้องนางจันทร์วิภาได้ให้การอย่างไรและฟ้องกลับอย่างไรหรือไม่ นายสุพรรณกล่าวว่า คดีทั้งหมดนายสุรัตน์ชัย เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ด้วยการฟ้องหย่าและแบ่งทรัพย์สิน ทำให้นางจันทร์วิภาจับได้ว่าทั้ง 2 มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ก็กล้ำกลืนมาตลอด ความจริงไม่อยากจะมีคดีความ แต่เมื่อฝ่ายชายอ้างว่านางจันทร์วิภามีอาการเครียดก้าวร้าว และนำมาเป็นเหตุฟ้องหย่า กลับอ้างว่าขอแบ่งทรัพย์สิน 20 ล้านบาท ซึ่งความจริงมีอยู่ 60 ล้านบาท เห็นว่ามีการปกปิดสินสมรส เพื่อเวลาแบ่งสินสมรสจะได้แบ่งจากเงิน 20 ล้าน

ซึ่งฝ่ายภรรยาอาจได้เพียง 10 ล้าน ความจริงควรได้ถึง 30 ล้านบาท เป็นต้น ดังนั้นในเมื่อมาฟ้องหย่า แน่นอนไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากจะหย่ากับสามี แต่เมื่อฝ่ายชายจะหย่าภรรยาก็ฟ้องกลับขอหย่าและแบ่งทรัพย์สิน 30 ล้านบาท คดีนี้ศาลเคยไกล่เกลี่ยไปแล้วแต่ตกลงกันไม่ได้ในเรื่องจำนวนเงินนี้เอง

ต้องขอโทษที่ไม่สามารถนำนางจันทร์วิภามาแถลงข่าวได้ เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่บอบบาง มีเชื้อสายตระกูลนักธุรกิจ เป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ เมื่อตกเป็นข่าวก็ยิ่งบอบช้ำ ตอนนี้จึงขอเก็บตัวก่อน คดีนี้เราเป็นฝ่ายอดกลั้นมานาน เมื่อถูกเขาฟ้องอาจเปรียบได้ว่าเราเป็นหมาจนตรอกจึงต้องสู้ ส่วนคดีที่ฟ้อง น.ส.คาร่า ฝ่ายจำเลย จะปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นชู้ก็เป็นสิทธิของเขา แต่ลองคิดดูสิว่า น.ส.คาร่าเป็นบุคคลสาธารณะ ถ้าไม่มีพยานหลักฐานเราคงไม่กล้าฟ้อง เพราะอาจถูกฟ้องกลับทั้งทางแพ่งและทางอาญา นายสุพรรณกล่าว

สุดเศร้า ลูกสาวคนกลางเขียนบันทึกทุกวัน เรื่องราว ว่าพ่อเปลี่ยนไปกำลังจะเลิกกับแม่ สงสารแม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าครอบครัว กึงฮะกิจ มีความเป็น อยู่อย่างไร และเมื่อเกิดปัญหาครอบครัวเด็กจะอยู่กับใคร

นายสุพรรณกล่าวว่า ตอนนี้ลูก 3 คนของนางจันทร์วิภา คนโตอายุ 13 ปี คนกลาง 11 ขวบ คนเล็ก 9 ขวบเรียนที่โรงเรียนสาธิตแห่งหนึ่ง ลูกทั้ง 3 คน อยู่กับนางจันทร์วิภา แต่สามีฟ้องขอเป็นผู้เลี้ยงดูลูก ฝ่ายนางจันทร์วิภาไม่ยอม นายสุพรรณยังเผยด้วยว่า เรื่องที่นายสุรัตน์ชัยไปมีหญิงอื่น ลูกก็รู้

โดยลูกคนกลางเป็นผู้หญิง เป็นคนฉลาด ได้เขียนบันทึกเหตุการณ์ระหว่างเกิดเรื่อง โดยเขียนทุกวันถึงพ่อ บอกว่า ช่วงหลังพ่อเปลี่ยนไป เริ่มทะเลาะกับแม่ทุกวัน รู้ว่าพ่อกำลังจะเลิกกับแม่ ไม่อยากให้เลิกกัน สงสารแม่ อยากให้พ่อเหมือนเดิม อยากให้ครอบครัวอบอุ่นเหมือนเดิม เป็นต้น


เผยลูกสาวเขียนบรรยาย พ่อจูงมือผู้หญิงคนหนึ่ง เหมือนเป็นฝันร้าย

นายสุพรรณกล่าวต่อว่า ในบันทึกยังมีข้อความตอนหนึ่งที่เด็กบรรยายถึงเรื่องที่เห็นพ่อเดินจูงมือผู้หญิงคนหนึ่ง โดยบอกว่ารู้สึกเหมือนเป็นฝันร้าย

เมื่อเรามีหลักฐานเป็นบันทึกเหล่านี้ ก็ได้นำไปเสนอให้เห็นว่าครอบครัวนี้เป็นอย่างไร หลังจากทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน ไม่อยากให้ครอบครัวเขาแตกแยก เดิมครอบครัวนี้อบอุ่นมาก ดังนั้น เมื่อนายสุรัตน์ชัยฟ้องหย่า ฝ่ายนางจันทร์วิภาจึงขอใช้สิทธิ์เป็นฝ่ายเลี้ยงดูบุตร


ต่อข้อถามว่า ฝ่ายชายอ้างว่าภรรยาเป็นโรคจิตจะต่อสู้คดีอย่างไร

นายสุพรรณกล่าวว่า แค่นางจันทร์วิภาไปปรากฏตัวในศาล ก็จะทราบได้ว่าไม่ได้เป็นโรคจิต เพราะพูดจาเหมือนคนปกติทุกอย่าง แต่พอรู้ว่าสามีไปคบคุณคาร่าก็เครียด ลองคิดดู ถ้าฝ่ายชายไปคบเด็กเสิร์ฟ หรือนักร้อง ก็คงเลิกกันง่าย แต่นี่ระดับดาราและนางแบบคนดัง เป็นใครใครก็เครียด


ผู้สื่อข่าวถามว่าทั้งสองคนรู้จักกันได้อย่างไร นายสุพรรณกล่าวว่า ทั้งคู่เป็นคนชอบสะสมของเก่า และคาร่ามาช่วยงานเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้บริษัทนายสุรัตน์ชัย จากนั้น นายสุรัตน์ชัยได้ไปช่วยดูแลงานก่อสร้างบ้านให้คาร่าที่ย่านสะพานใหม่ ทราบว่าตอนนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จไป 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับพยานหลักฐานชิ้นสำคัญในคดีที่ฝ่ายโจทก์คือนางจันทร์วิภา ยื่นต่อศาลนั้น มีทั้งข้อความทางเอสเอ็มเอสและอีเมล์ ที่ฝ่ายโจทก์ ได้นำสำนวนส่งต่อศาลมีความยาวหลายสิบหน้า ข้อความส่วนใหญ่เริ่มส่งกันตั้งแต่ต้นปี 2548

โดยนางแบบสาวจะใช้นามแฝงว่า โพลลา ส่งข้อความไปถึงนายสุรัตน์ชัย ว่า วันนี้ฉันเลิกงานตอน 5 ทุ่ม ฝ่ายนายสุรัตน์ชัยส่งข้อความเป็นภาษาอังกฤษ เช่นคำว่า I have a good news I am free เป็นต้น

วันเดียวกัน ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นายสนิท ตระกูลพรายงาม รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนฯ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีที่นางจันทร์วิภา เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.คาร่า พลสิทธิ์ มีความสัมพันธ์ฉัน ชู้สาวกับสามี เรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาทว่า คดีนี้แบ่งเป็น 2 สำนวน คดีแรก นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ เป็นโจทก์ฟ้องหย่านางจันทร์วิภา ภรรยา เพื่อเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรและแบ่งทรัพย์สิน คดีนี้ศาลได้นัดคู่ความมาไกล่เกลี่ยแล้ว แต่คู่ความยังตกลงกันไม่ได้ ศาลจึงนัดสืบพยานในวันที่ 7 มี.ค. 2549 และคดีที่ 2 เป็นคดีที่นางจันทร์วิภาฟ้อง น.ส.คาร่า พลสิทธิ์ โดยศาลได้ส่งหมายเรียกจำเลยมายื่นคำให้การภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหมาย ถ้าไม่ยื่นคำให้การถือว่าขาดนัดยื่นคำให้การ

ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีทั้ง 2 มีทางที่จะนำมารวมพิจารณาและไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่ นายสนิทกล่าวว่าคดีแรกเป็นการฟ้องหย่าแบ่งทรัพย์สิน เป็นคนละประเด็นกับคดีหลัง ที่เป็นเรื่องละเมิดชู้สาว

คงรวมการพิจารณาเข้าด้วยกันไม่ได้ ส่วนการไกล่เกลี่ยในคดีครอบครัว กฎหมายประสงค์ให้คู่ความไกล่เกลี่ยกันอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของคู่ความ โดยเฉพาะคดีหลัง น.ส.คาร่ายังไม่ได้ยื่นคำให้การ หากยื่นเข้ามาก็ต้องดูข้อต่อสู้ว่า จะปฏิเสธหรือไม่อย่างไร จึงยังไม่ สามารถบอกได้ว่าคดีนี้จะไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่ ต่อข้อถามว่าคดีหลังเป็นการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน ศาลมีหลักในการให้ค่าทดแทนอย่างไร นายสนิทตอบว่า ต้องดูตามความสมควร คดีหลังนี้ศาลได้นัดพร้อมในวันที่ 24 เม.ย. 2549 ศาลจะกำหนดกรอบเวลาในการสืบพยาน และดูประเด็นในคำให้การกับพยานหลักฐานแต่ละฝ่ายข้ออ้างข้อเถียงต่างๆ ดังนั้น ในเรื่องไกล่เกลี่ย หาก น.ส. คาร่าปฏิเสธ ก็คงไกล่เกลี่ยลำบาก อาจจะต้องสืบพยาน


ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.คาร่าเป็นบุคคลสาธารณะ ประชาชนให้ความสนใจจะดำเนินกระบวนการพิจารณาเป็นพิเศษอย่างไรหรือไม่

นายสนิทกล่าวว่า จะพิจารณาเหมือนคดีครอบครัวทั่วไป เรื่องการเป็นคนมีชื่อเสียงไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาแต่อย่างใด



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์