ชมพู่ ดี๊ด๊า ปะกบมอส

มาถึงนางเอกมากความสามารถอีกคน “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต”

ที่ตอนนี้มีผลงานมาให้เพื่อนๆ ได้ชมใน ‘แสงดาวแห่งหัวใจ’ ที่ปะกบคู่กับนักร้อง-นักแสดงซุปเปอร์สตาร์ “มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์” ที่ทั้งคู่ได้โคจร มาพบกันเป็นเรื่องแรก แถมมาคราวนี้ ‘ชมพู่’ ยังเผยถึงเรื่องหัวใจให้แฟนๆ ‘ทีวี อินไซด์’ ได้ติดตามอ่านกันอีกด้วย


บทบาทที่ได้รับ ?
 

“ในเรื่องจะเป็นคนดี มองโลกในแง่ดี แต่จะมีภาระ คือ ในเรื่องจะเป็นผู้บริหารธุรกิจธนาคารของครอบครัว คือ ครอบครัวจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็จะมีกันอยู่ 3 คนพี่น้อง ในเรื่องจะมีส่วนที่ดูว่า โตแล้ว บางส่วนก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่ คือ มองโลกในแง่ดี”

ในเรื่องต้องประกบคู่กับ ‘มอส’ เป็นยังไงบ้าง เจอกันครั้งแรก ?

“ไม่เป็นอะไรนะ เจอกันครั้งแรกเหมือนรู้จักกันมานานแล้ว (หัวเราะ) คือ ก่อนหน้านี้เคยเจอกับ พี่มอส มาบ้าง ไปดูคอนเสิร์ตพี่เขา คือ พอดีชมสนิทกับ พี่หน่อง-วินัย ที่เป็นดีเจอยู่ที่กรีนเวฟ แล้วพี่เขาเคยแนะนำให้รู้จักเวลาไปดูคอนเสิร์ต ก็สวัสดีกันตามระเบียบ แต่ว่า พอมาเจอในกองถ่ายก็ประหนึ่งว่า สนิทกันมานานมาก แต่จริงๆ ไม่ได้สนิทขนาดนั้น คือ พี่เขาเป็นคนกันเองค่ะ”

สนิทกันอย่างนี้ กลัวจะมีข่าวรักโปรโมทมั้ย ?
 

“คงไม่หรอก คือไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้น ไม่ได้ไปล้วงลึกเรื่องส่วนตัว พี่เขาเป็นคนที่ให้ความเป็นกันเองกับทุกคน ก็แค่นั้นเองค่ะ”


แล้วถ้าเกิดแฟนคลับอินกับละคร ?

“งั้นก็แสดงว่า เขาแฮปปี้กับละครเรา มองว่า คนดูเขาชื่นชอบกับละครเรา แล้วคงไม่มีสิทธิ์หรอกค่ะ”

แล้วกับหนุ่มที่ควงไปเดินเล่นแถวสยาม ?

“ถ้าเป็นคนที่ปาปาราซซี่ถ่ายได้ คนนั้นเป็นเพื่อนกันจริงๆ ชม จะมีแก็งค์ของชมที่ขายของอยู่ที่สยาม เพราะว่าชมเป็นคนที่ชอบช้อปปิ้ง แล้วเขาก็จะมีแก็งค์ของเขาเหมือนกัน ที่วันๆ ก็มาเปิดดูหนังสือแฟชั่นเพื่อที่จะสั่งซื้อของ แล้วพอดีคุณคนนี้ไปเมืองนอกบ่อย เลยจะฝากเขาซื้อของบ้าง หิ้วของบ้าง คือ แทบจะไม่ค่อยได้เดินด้วยกันเลย แต่วันนั้นแจ็คพ๊อตมาก คือ ชวนกันไปเลือกซื้อกระเป๋าแค่นั้นเอง แล้ววันนั้นดึกมาก แล้วฝนตกหนักด้วย ไม่น่าเชื่อว่าปาปาราซซี่จะขยันมาก”

ถ้าอย่างนั้นแล้ว หัวใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
 

“หัวใจตอนนี้ ธรรมดาค่ะ ว่างอยู่ค่ะ”


อย่างนี้เรียกได้ว่า ชอบชีวิตโสด ?
 

“ถ้าว่ายังชอบมั้ย คือ ตอนนี้มันเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้น ชม ไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะเลือกว่า ต้องชอบ หรือไม่ชอบ ต่อให้ชมไม่ชอบที่จะอยู่คนเดียวตอนนี้ แต่คนที่เข้ามา มันยังไม่ใช่ ชม จะคว้าไว้ทำไม มันก็เสียเวลา เพราะฉะนั้นเราก็ใช้ชีวิตแบบนี้ แต่ถ้าถามว่า ชอบมั้ยมันก็ดี แน่นอนว่า มันต้องดีกว่าก่อนเลิกอยู่แล้ว แต่ถ้าต่อไปในอนาคตมีคนดีๆ เข้ามา แล้วทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น เราก็อยากมี ไม่ใช่ว่า ไม่อยากมี”

ถือได้ว่า ปีนี้เป็นปีทอง มีทั้งละคร พรีเซ็นเตอร์ แถมเพิ่ง ซื้อบ้าน ซื้อรถไป ?

“ไม่รู้เหมือนกันว่า เป็นปีทองหรือเปล่า (หัวเราะ) คือสำหรบชมปีทอง ไม่ได้วัดกันที่วัตถุอย่างเดียว แต่ถ้าถามว่า มันโอเคมั้ยกว่าปีที่แล้ว ชม ยอมรับว่าเป็นปีที่มีอะไรหลายๆ อย่างที่ดีๆ เข้ามาในชีวิตก็ประมาณหนึ่ง แต่ถ้าบอกว่าเป็นปีทองหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน”


แล้วกับธุรกิจร้านทำผม ?

“ก็เรื่อยๆ ค่ะ นี่ก็ 3 ปีแล้ว คือ แน่นอนว่า เราต้องได้ทุนคืนแล้วก็เก็บผลกำไรของแต่ละเดือนเป็นค่าขนม มันเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ร้านชม มี 4 เตียงสระ เก้าอี้ 7 ตัว แล้วมีช่าง 4-5 คน ก็จะทำสตางค์ได้ประมาณหนึ่ง เพราะว่า เนื้อที่มันไม่ใหญ่ เคยคุยกันกับเพื่อนว่า ถ้าเราจะขยายธุรกิจ แล้วเราอยากรวย เราต้องทำร้านใหญ่กว่านี้ คือทำเลร้านชม ถ้าเป็นคนไทย คือ ต้องจงใจมา ก็มีลูกค้าคนไทยนะ เพราะว่ามันเป็นปากต่อปาก แล้วก็ลูกค้าต่างชาติที่อยู่โซนนั้น เพราะโซนนั้นเป็นโรงแรม แล้วก็อพาร์ตเม้นท์ แต่ถ้าเกิดว่า เราอยากได้เงินเยอะๆ ต้องไปทำในที่ๆ คนสัญจร อย่างในห้าง หรือ ไม่ก็มหาวิทยาลัย แต่ว่า ถ้าเป็นในห้าง มันจะต้องใช้เงินเยอะขึ้นมาก”

ไม่กลัวผิดใจกับเพื่อนที่ลงทุนร่วมกัน ?

“ไม่เลย เพราะว่า เราสองคนเป็นคนที่สปอร์ตทั้งคู่ ที่จะกลัว คือ เราเป็นคนสปอร์ตทั้งคู่ จะกลายเป็นว่าไม่คิดอะไรเลย กำไรจะน้อย คือ ไม่มีคนเคี่ยวๆ กันเลย แทนที่จะเคี่ยวกันหน่อยจะได้รวย คือ ไม่คิดเล็กคิดน้อย”

ตอบทุกคำถามอย่างนี้ มิน่า ถึงอยู่ในใจแฟนๆ หลายๆ คน~!!


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นิตยสารทีวีอินไซต์

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์