กันต์ กันตถาวร ชวนทุกคนถอดหน้ากากแล้วชีวิตคุณจะมีความสุข

เป็นพิธีกรหนุ่มที่เนื้อหอมมากที่สุดเวลานี้ สำหรับ กันต์ กันตถาวร เจ้าของฉายา "หน้ากากสามี" ของสาวๆ ทั่วประเทศ ล่าสุดหนุ่มกันต์ได้รับเชิญร่วมเป็นหนึ่งในสปีคเกอร์ ของงาน TEDxChulalongkornU หนึ่งในงานทอล์คสร้างแรงบันดาลใจระดับโลก โดยคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ สยามสแควร์วัน ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด "Strive Forward : The World is Changing, Are You?" ด้วยหน้าที่ที่ต้องกระชากหน้ากากผู้ร่วมรายการเป็นประจำ แต่ในงาน TEDxChulalongkornU หนุ่มกันต์ ได้ให้แง่คิด พร้อมชวนทุกคนถอดหน้ากาก แล้วชีวิตจะมีความสุข

กันต์ เผยว่า "ผมน่าจะเป็นคนที่ถอดหน้ากากคนมากที่สุดในประเทศคนหนึ่ง ผมมองว่าหน้ากากเป็นเหมือนเปลือกที่บดบังตัวตนที่แท้จริงของเรา อย่างคำที่มักได้ยินเสมอๆ สวมหน้ากาก สวมหัวโขน ซึ่งจากการเป็นพิธีกรรายการ The Mask Singer ทำให้ได้เห็นว่าดารา นักร้อง เซเลบริตี้ที่มาร่วมรายการ ก็สวมหน้ากากเช่นเดียวกัน คือหน้ากากที่พวกเขาเลือกจะสวมใส่เอง และหน้ากากที่คนดูสวมใส่ให้แก่พวกเขา โดยตัดสินเขาจากสิ่งที่คนดูคิดว่าเขาจะเป็น โดยไม่รู้ว่าเขามีความสามารถมากกว่านั้น รายการนี้เป็นรายการที่เปิดความสามารถของพวกเขาที่คนดูไม่รู้ เป็นรายการที่สะท้อนให้เราเองได้รู้ว่า จริงๆ แล้วเราเองก็สวมหน้ากากให้ตัวเองอยู่หรือเปล่า ทุกคนมีหน้ากากหน้าเป็นของตัวเอง เป็นหน้ากากที่เราเลือกจะสวมเอง และหน้ากากที่คนอื่นสวมให้

 


กันต์ กันตถาวร ชวนทุกคนถอดหน้ากากแล้วชีวิตคุณจะมีความสุข


เช่นเดียวกับผม คนรู้จัก กันต์ กันตถาวร ว่าเป็นนักแสดงกว่า 10 ปี แต่ความจริงแล้วผมตั้งใจอยากเป็นพิธีกร และจุดเริ่มต้นของการเป็นนักแสดงผมก็ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นพระเอก แต่เป็นบทเพื่อนของเพื่อนพระเอก จนค่อยๆ ก้าวเป็นพระเอก ดังนั้นหน้ากากที่ผมสวมโดยทุกคนเป็นผู้สวมให้คือหน้ากากพระเอก จนเมื่อเกิดจุดเปลี่ยนที่ผมรู้สึกเศร้าใจ และกลับกลายเป็นเรื่องที่ดีของชีวิตคือ ผมเองเป็นคนหนึ่งที่อยากประสบความสำเร็จให้หน้าที่การงาน เพื่อจะดูแลครอบครัวได้ ผมทำงานตลอด 3 ปีไม่มีวันหยุด ถ่ายละครตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงตี 2 ในหนึ่งอาทิตย์ผมถ่ายละคร 3 เรื่อง และยังมีบริษัทที่ต้องดูแลอีก 5 บริษัท

จนวันหนึ่งผมสามารถซื้อบ้านในฝันที่อยากได้ด้วยอายุที่ยังน้อย พ่อแม่ผมมาแสดงความยินดีพร้อมบอกว่าพรุ่งนี้กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนนะ ผมต้องโทรศัพท์ไปขออนุญาตกองถ่ายทำ โดยมีความรู้สึกว่าทำไมต้องขออนุญาต แต่กองละครปฏิเสธ ซึ่งพ่อแม่บอกไม่เป็นไร วันรุ่งขึ้นผมต้องออกจากบ้านเพื่อไปทำงานประมาณตี 5 ครึ่ง ผมพบกับข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ผมบอกแม่ว่าอยากกินแขวนอยู่ที่ประตูบ้าน ผมน้ำตาไหลพร้อมกับคำถามในใจทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำไมถึงกินข้าวกับพ่อแม่ไม่ได้ เราน่าจะมีความสุข แต่เปล่าเลย ผมเองก็สวมหน้ากากเหมือนกัน หน้ากากที่บอกว่าเป็นคนประสบความสำเร็จ แต่เบื้องลึกกลับละเลยคนใกล้ตัว ผมไม่ได้กินข้าวร่วมกับครอบครัวถึง 3 เดือน จนถึงจุดเปลี่ยนด้วยคำว่า "พอ" เพราะผมอยากเห็นรอยยิ้มของคนที่ผมรัก ผมไม่อยากเป็นคนรวยที่สุด แต่ผมอยากเป็นคนที่มีความสุขที่สุด


ผมจึงตัดสินใจเริ่มทำอาชีพพิธีกร พร้อมปรึกษาเพื่อนและคนในครอบครัว แต่ทุกคนกลับบอกว่าอย่าเลย เพราะกว่าจะเป็นพระเอกได้ทำไมถึงจะทิ้งโอกาส และไปเริ่มต้นสิ่งที่ไม่เคยทำซึ่งจะสำเร็จหรือไม่ก็ไม่รู้ ผมถูกตัดสินจากคนรอบตัว ผมจึงคิดว่าผมจะไม่ยอมให้คนอื่นมาตัดสิน ว่าผมทำอะไรได้หรือทำไม่ได้ ผมจึงเบนเข็มเป็นพิธีกรและทำมาได้ 2 ปีแล้ว จาก 1 รายการก็เพิ่มเป็นอีกหลายรายการ มันเป็นความภูมิใจ แม้ว่าผมยังไม่เก่งพอตามชั่วโมงบิน แต่ผมก็จะไม่หยุดพยายาม ผมเชื่อว่าทุกคนมีหน้ากากที่ตัวเองเลือกใส่ และหน้ากากที่คนอื่นใส่ให้ แต่อย่าให้ใครมาบอกว่าเราทำอะไรได้ หรือไม่ได้ ถอดหน้ากากนั้นทิ้งซะ แล้วชีวิตคุณจะมีความสุข ถ้าคุณอยากให้คนอื่นยอมรับในตัวคุณ คุณต้องยอมรับในตัวคุณเองก่อน ถ้าคุณจะมีความสุขได้ คนรอบตัวต้องมีความสุขด้วยเช่นกัน รายการ The Mask Singer จึงเป็นรายการที่ทำให้เราได้ย้อนกลับมามองตัวเอง ครอบครัว และไม่ตัดสินใครจากสิ่งที่เรียกว่าหน้ากาก ดังนั้น ทุกคนครับ...ถอดหน้ากากครับ"


กันต์ กันตถาวร ชวนทุกคนถอดหน้ากากแล้วชีวิตคุณจะมีความสุข


กันต์ กันตถาวร ชวนทุกคนถอดหน้ากากแล้วชีวิตคุณจะมีความสุข


กันต์ กันตถาวร ชวนทุกคนถอดหน้ากากแล้วชีวิตคุณจะมีความสุข

cr.inn


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : u193398009
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 103.58.148.23

103.58.148.23,,host23.148.thvps.com ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล


[ วันพุธ ที่ 15 มีนาคม 2566 เวลา 08:59 น. ]
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์