วันวานบิ๊ก ดีทูบีตามฝัน6ปีเป็นนักร้องบอยแบนต์อันดับ1

ย้อนรำลึกวันวาน"บิ๊ก ดีทูบี" 6 ปีในการเดินตามฝันในฐานะเด็กหนุ่มไร้ชื่อเสียงสู่นักร้องบอยแบนด์ยอดนิมยมอันดับ 1 ของประเทศไทย

หรือความเป็นลูกผู้ชายนักสู้ที่ต้องเผชิญกับอุบัติเหตุไม่คาดฝันที่นำไปสู่การจากไปอย่างไม่มีวันกลับ การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของอดีตนักร้อง หนุ่มบิ๊ก ดีทูบี สร้างความเศร้าโศกต่อวงการบันเทิง และผู้ใกล้ชิดอย่างใหญ่หลวง เพราะตลอดเวลาที่ได้สัมผัสเด็กหนุ่มผู้นี้ ทั้งในฐานะนักร้องดัง สมาชิกบอยแบนด์ชื่อดังที่สุดในประเทศไทย 

หรือบทบาทของเด็กวัยรุ่นที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อครอบครัวด้วยความกตัญญูต่อบิดา-มารดาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 

โดยสิ่งที่กล่าวมาจะเห็นว่า เด็กหนุ่มผู้นี้ทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มาถึงวันนี้ภาพความสุขต่างๆ ทั้งในอดีต และปัจจุบันคงเป็นความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน แม้เวลาจะผ่านไปแค่ไหน ทังนี้ "คม ชัด ลึก" ขอย้อนเส้นทางชีวิตของนักร้องหนุ่มผู้นี้ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา






นายปาณรวัฐชื่อเดิม นายอภิเชษฐ์ กิตติกรเจริญ หรือ บิ๊ก 

เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2525 เป็น ลูกคนเดียวของนายอุดม และนางยุพา กิตติกรเจริญ 

อุปนิสัยเป็นคนขี้เล่น ร่าเริง กล้าแสดงออก 

เริ่มเข้าวงการบันเทิงจากการประกวดโครงการพานาโซนิค สตาร์ ชาลเลนจ์ 

ก่อนที่จะได้เซ็นสัญญากับบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) 

ร่วมกับ นายวรเวช ดานุวงศ์ หรือ แดน และ นายกวี ตันจรารักษ์ หรือ บีม เพื่อทำอัลบั้มเพลงในนามกลุ่มบอยแบนด์ "ดีทูบี" โดยมีอัลบั้มแรกออกมาในปี 2544 ซึ่งถือว่าทำให้ทั้งสามแจ้งเกิดเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ได้รับกระแสความนิยมสูงสุดในขณะนั้น วงดีทูบีมีผลงานอัลบั้มเต็มออกมาเพียง 2 อัลบั้ม นั่นคือ อัลบั้มดีทูบี และอัลบั้มไทด์ 2 ในช่วงที่กำลังดังสุดขีด 

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2546 บิ๊ก ก็ประสบอุบัติเหตุอย่างไม่คาดฝัน 

เมื่อรถยนต์ที่นั่งกลับบ้านโดยมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ขับเสียหลัก พุ่งตกลงไปในคูน้ำข้างถนนศรีนครินทร์ขาออก ทำให้เชื้อโรคชนิดใหม่ที่ชื่อ สูดาเลสชีเลียบอยดิไอ ไปกัดกินสมอง ทำให้เนื้อสมองบางส่วนเสียหาย อาการของบิ๊กในช่วงแรกเป็นไปด้วยดียังรู้สึกตัวดี แต่ไม่นานก็ต้องนอนไม่รู้สติ เพราะสมองถูกเชื้อโรคที่มาจากน้ำเน่าทำลาย 


แฟนเพลงที่ทราบข่าว โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่น ต่างพากันไปเยี่ยมและร้องไห้เป็นกลุ่มจำนวนมาก 

ด้านการรักษาคณะแพทย์พยายามช่วยชีวิตบิ๊กด้วยการให้ยาและผ่าตัดอยู่หลายครั้ง ซึ่งก็ทำได้เพียงช่วยไม่ให้เสียชีวิตเท่านั้น ในขณะที่สมองยังไม่รับรู้ใดๆ อย่างไรก็ตามในช่วงที่ บิ๊ก ล้มป่วยนอนไม่รู้สึกตัวอยู่ที่โรงพยาบาล พ่อและแม่ของบิ๊กได้เปลี่ยนชื่อจริงของนักร้องหนุ่มจาก นายอภิเชษฐ์ มาเป็น นายปารณวัฐ เป็นชื่อที่ขอพระราชทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังคปริณายก เพื่อเป็นการแก้เคล็ดให้ โดยมีความหมายว่า "ผู้ที่มีชีวิตอยู่ตามคำขอ"
 

ทั้งนี้ระหว่างการรักษาบิ๊ก เปลี่ยนการรักษาไปยังโรงพยาบาลต่างๆ หลายครั้ง 

สลับกับการพักฟื้นที่บ้านพักย่านเทพารักษ์ ท่ามกลางการดูแลอย่างดีของพ่อและแม่ที่ยังมีความหวังรอวันที่ลูกชายจะกลับมาพูดคุยรับรู้ได้อีกครั้ง โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านยังคงมีแฟนคลับเฝ้าติดตามและอยากรู้ข่าวคราว รวมถึงนำสิ่งของมาเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ ในระหว่างที่รักษาตัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระมหากรุณาธิคุณรับบิ๊กเป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์อีกด้วย
 

ด้านการดูแลอาการของนักร้องหนุ่มนั้นในแต่ละวันตลอดระยะเวลา 4 ปี 

พ่อและแม่ต่างผลัดกันดูแลบิ๊กที่อาการยังทรงตัว ไม่รับรู้ใดๆ โดยหวังว่าวันหนึ่งลูกจะฟื้นมามีร่างกายที่สมบูรณ์ พร้อมสำหรับการดำเนินชีวิตต่อไป ส่วนกิจวัตรประจำวันของบิ๊กในช่วงที่ผ่านมาเริ่มตั้งแต่ 

บิ๊ก ตื่นนอน เวลาประมาณ 05.00 น. 

หลังจากเช็ดตัว ทำความสะอาดร่างกายแล้ว พ่อและแม่จะจัดที่นอน และพลิกตัวให้บิ๊กเพื่อไม่ให้มีการกดทับและเกิดแผล ตลอดจนดูว่าบิ๊กปัสสาวะ หรือว่าอุจจาระหรือไม่ และคอยสำรวจสีของปัสสาวะอีกด้วย เพราะความผิดปกติของร่างกายอาจบ่งชี้ได้ทางสีของปัสสาวะและอุจจาระ


หลังจากนั้นประมาณ 06.00 น. บิ๊กจะรับอาหารเช้าทางสายยาง พร้อมกับการให้ยารักษา และบำรุง 

10.00 น.จะเป็นเวลาของการให้นม 

12.00 น.จะถึงเวลาอาหารเที่ยง 

14.00 น. ให้นมเปรี้ยวกับน้ำ ซึ่งตลอดเวลาพ่อและแม่ต้องคอยพลิกตัวให้บิ๊กตลอด ในช่วงเย็นเวลา 

16.00 น.บิ๊กจะต้องเช็ดตัว ทำความสะอาดร่างกายอีกครั้ง ก่อนที่จะรับประทานอาหารเย็นและนม ในระหว่างที่บิ๊กนอนหลับ พ่อและแม่จะคอยดูให้นม และน้ำเป็นระยะ



ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 25 ปีของบิ๊ก 

กลุ่มแฟนเพลงเข้าไปมอบของขวัญและให้กำลังใจแก่นักร้องหนุ่ม แม้ว่านักร้องหนุ่มจะไม่ได้อยู่ที่บ้าน เนื่องจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งทราบในขณะนั้นว่าอาการป่วยยังปกติ ไม่มีทีท่าจะทรุดลง และนายอุดม พ่อของนักร้องหนุ่มยังกล่าวด้วยความหวังว่า การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ช่วยชีวิตลูกชายให้กลับมาเป็นปกติได้ใหม่ 

แต่ในที่สุดบิ๊กก็จากไปอย่างสงบ เมื่อเช้าวันที่ 9 ธันวาคม ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง
 

ก่อนที่บิ๊ก จะประสบอุบัติเหตุ อดีตนักร้องชื่อดังเคยใฝ่ฝันอยากมีฟาร์มโคนมของตัวเอง และเป็นผู้กำกับ หรือคนเขียนบท แม้ว่าวันนี้ บิ๊ก จะไม่สามารถสานฝันของตัวเองได้ และไปสู่สุคติแล้ว แต่ภาพความทรงจำดีๆ ที่เคยสร้างจะยังคงอยู่ในใจทุกคน



..หลับให้สบายนะ...บิ๊กดีทูบี ..


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์