เด็กปั้นคนใหม่ของเอ็กแซ็กท์ ณัฎฐ์เทพหัสดิน ณ อยุธยา

เริ่มจะคุ้นหน้าคุ้นตาคุ้นชื่อกันบ้างแล้ว สำหรับ ณัฎฐ์เทพหัสดิน ณ อยุธยา

นักแสดงหน้าใหม่ของค่ายเอ็กแซ็กท์ที่ตอนนี้กำลังท้าพิสูจน์ฝีมือ กับผลงานละครเรื่องแรก "เปลือกเสน่หา" ไปทำความรู้จักกับหนุ่มคนนี้เลยดีกว่า


กระแสตอบรับจาก"เปลือกเสน่หา"

ก็มีทั้งชมและติมาบ้างเล็กน้อย ว่ามีบางฉากดูแข็ง ดูเกร็งไปบ้าง ต้องขอให้เข้าใจนิดหนึ่ง ว่าเป็นเรื่องแรก มือใหม่หัดแสดง แรกๆ อาจจะมีเกร็ง มีเคอะเขิน มุมกล้องอาจไม่ได้ดีพร้อมสักเท่าไรนัก แต่ซีนหลังๆ จะรู้สึกว่าชินกับการแสดงขึ้นเยอะ เรื่องของมุมกล้อง สายตา อารมณ์ก็ดีขึ้นกว่าเดิม อยากขอให้ติดตามไปเรื่อยๆ



ผ่านงานอะไรมาบ้างก่อนหน้านี้ 

หลายๆคนอาจจะคิดว่าเป็นงานโฆษณาบัตรเครดิตของไทยพาณิชย์ แต่จริงๆ แล้วเริ่มแรกผมเดินแบบก่อนตั้งแต่ตอนอยู่ปี 3 ตอนนั้นยังอ้วนอยู่ ตัวหนา ล่ำๆ พอเริ่มเดินแบบก็มีถ่ายแบบในนิตยสารบ้าง จนกระทั่งได้มีโอกาสเข้าไปแคสติ้งในเอ็กแซ็กท์ ตอนนั้นอาจยังไม่เหมาะกับตัวละครตัวไหนก็เลยยังไม่ได้ เราอ้วนอยู่ด้วย จนปลายปีที่แล้ว ผมเรียนจบ และทำงาน ได้มีโอกาสถ่ายโฆษณาในบัตรเครดิต นิตยสาร จนกระทั่งเอ็กแซ็กท์เรียกไปแคสติ้งอีกรอบ เพราะเขาเห็นพัฒนาการของผม อาจจะเป็นเพราะผอมลง และเรียนจบแล้ว เอ็กแซ็กท์จึงตัดสินใจให้เล่นละคร เปลือกเสน่หา เรื่องแรก 


ถูกมองว่าใช้ความเป็นไฮโซเข้าวงการ

คนจะพูดยังไงเราคงไปห้ามเขาไม่ได้ ไม่ได้ซีเรียสว่าเราจะเป็นไฮโซหรืออะไร เพราะผมก็ใช้ชีวิตปกติ ธรรมดา เหมือนคนทั่วไป ไม่เคยใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า อาจจะมีบ้าง ยอมรับว่ามี แต่เราไม่ได้เว่อร์อะไรขนาดนั้น ก็ยอมรับว่าผมเกิดมาในตระกูลที่เป็นไฮโซ เป็นที่รู้จัก คนจับตามอง เป็นอะไรที่อยู่เหนือสามัญชน แต่ผมคือคนธรรมดาทั่วไปที่ใช้ชีวิตปกติ 



ต้องปรับต้องเปลี่ยนตัวเองเยอะไหม

เปลี่ยนนิดหน่อยแต่ก็ยังใช้ชีวิตปกติธรรมดา เพียงแต่ในเรื่องการวางตัวในที่สาธารณะอาจจะต้องระวังมากขึ้น เพราะเราต้องเป็นแบบอย่างให้แก่เด็กและเยาวชนแล้ว ในส่วนของไลฟ์สไตล์ก็ปกติ
 

นิสัยเป็นคุณหนูหรือเปล่า

ตอนเด็กๆยอมรับว่าเป็นเลย เพราะที่บ้านเลี้ยงแบบตามใจ จนเข้ามหาวิทยาลัย ก็ยังติดสบายอยู่ แต่ด้วยความที่ทางบ้านไม่ได้ให้รถมา จะนั่งแท็กซี่ก็ไม่ได้ ค่าขนมไม่พอ เรียนที่ม.มหิดล ศาลายา ค่อนข้างไกล เลยเรียนรู้ที่จะต้องขึ้นรถเมล์ ปี 1-3 ผมนั่งรถเมล์นะ จนปี 3 ปลายๆ ถึงได้รถมือสองมาขับ แล้วก็ถึงได้เรียนรู้ ว่าชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เราอยากได้อะไรต้องทำเอง ที่บ้านเขาจะสอนอย่างนี้ แม้ที่บ้านจะพร้อมอยู่แล้ว แต่ผมก็อยากสร้างอะไรที่เป็นของตัวเอง อยากแบ่งเบาภาระทางบ้าน

วงการบันเทิงถือเป็นความฝันหรือไม่

ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเข้าเมื่อก่อนผมดูในส่วนของโฆษณาที่ลงในนิตยสาร ตอนนั้นบริษัทที่ผมทำ เขาเปิดออแกไนเซอร์ ผมก็จะดูทุกโปรเจกท์ที่เข้ามาในบริษัท ผมต้องครีเอทีฟ ต้องคิด ทำตั้งแต่ต้นจนจบ งานมันหนักจนรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ขอทำในลักษณะพาร์ทไทม์ดีกว่า พอได้เข้ามาเดินแบบ ได้ถ่ายละครแล้วก็ยิ่งชอบ เลยหันมาเอาดีทางนี้

ได้ข่าวมาว่า"บอย" ถกลเกียรติ วีรวรรณ จะปั้นเป็นรายต่อไป 

(อึกอัก) ก็ต้องคุยกับพี่บอยอีกที ตอนนี้ยังพูดอะไรมากไม่ได้ ได้ยินมาเหมือนกัน ก็รู้สึกดีใจ ปลื้ม เพราะเรื่องแรกเราก็หวัง พยายามเต็มที่ที่สุด อยากให้ผลงานออกมาดีที่สุด ถ้าจะมีเรื่องต่อไป ก็อยากขอบคุณพี่บอยที่ให้โอกาส และก็จะทำให้ดีกว่าเรื่องแรก  



คุณบอยติชมอย่างไรในผลงานเรื่องแรกบ้าง

ยอมรับว่ายังไม่ได้คุยกับพี่บอยเลยเคยเจอพี่บอยสามสี่ครั้ง ตอนแรกคือพี่บอยมาแคสติ้งนักแสดงเปลือกเสน่หา จากนั้นก็เจอตามงานแทบจะไม่มีโอกาสเจอที่อื่นเลย


พอรู้ว่าคุณบอยจะปั้นเครียดไหม

คงไม่เครียดรู้สึกว่าเราต้องทำให้ดีที่สุดอย่างที่เขาให้โอกาส ไม่รู้จะเครียดไปทำไม เพราะเครียดแล้วก็แสดงได้ไม่ดี จะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดดีกว่า


ถามเรื่องหัวใจบ้างสิ

(เขิน) ก็ยอมรับว่ามีคนที่คบกันอยู่ คบมาได้ปีกว่าแล้ว เขาเคยอยู่ในวงการตรงนี้แล้ว เลยมีประสบการณ์ แนะนำผมได้ เขาจะแนะนำเรื่องการวางตัว ตรงต่อเวลา การเข้าสังคม แนะนำในสิ่งที่เราไม่รู้ อย่างเรื่องมารยาทในกองถ่าย 


เข้ามาตรงนี้ก็มีข่าวกับ"จั๊กจั่น" อคัมย์สิริ สุวรรณศุข แล้ว แฟนหึงไหม 

เขาก็เข้าใจนะว่าข่าวไม่มีอะไร เพราะเขาก็เคยอยู่ตรงนี้มาก่อน ผมกับเขาเจอกันทุกวัน บ้านใกล้กันมากๆ กินข้าวกัน ดูหนังกันตลอด เขาแค่บอกว่าทำอะไรให้ระวัง เราเป็นผู้ชายอยู่ใกล้ผู้หญิงก็อาจจะเป็นข่าวได้


นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่คนนี้จะถูกใจคุณผู้ชมแค่ไหน ก็ต้องพิสูจน์จากฝีมือเขากันเองแล้วล่ะ 



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์