เลือกที่จะไม่หวือหวา ทว่าอยู่ได้นานแอน ทองประสม

นับเป็นนักแสดงมืออาชีพระดับต้นๆ ของวงการบันเทิง สำหรับนางเอกชื่อดัง แอน ทองประสม

เพราะไม่ว่าเธอจะโชว์ฝีมือการแสดงเรื่องใด มักจะได้รับการตอบรับ และกระแสที่ดีเสมอ ล่าสุดกำลังได้รับคะแนนนิยมอย่างสูง ในบทบาทของ "กานพลู" หญิงสาวที่ทั้งรันทด และสู้คนในเวลาเดียวกัน กับละคร "ลิขิตกามเทพ" นอกจากงานที่โดดเด่นเสมอต้นเสมอปลายแล้ว เรื่องหัวใจกับหนุ่มนอกวงการ "เอ" ทินพันธ์ ตันตินิรันดร์ ที่ยังคงอยู่ ที่ดูนิ่งเฉย ไม่หวือหวาเหมือนคู่อื่น ก็ยังเป็นที่สนใจของผู้คน



ตามเรามาเลยกับหลากหลายเรื่องราวของนางเอกคนนี้

เรื่องงานละคร

ละครเรื่อง "ลิขิตกามเทพ" เพิ่งจะออกอากาศเป็นอย่างไรบ้าง

ละครเพิ่งออกไปได้ 3 วัน ถ้าถามคนดู เขาก็บอกว่าสนุกดี บางคนก็บอก ว่าทำไมนางเอกน่าสงสารจัง ทำไมไม่ฉลาดเลย เขาก็ชอบแซว ว่าทำไมไม่รู้เลยเหรอ ว่าถูกเขาหลอก ก็ถือว่าเพิ่งออกอากาศไปคนดูเขาก็ชอบนะ

เรื่องนี้ดราม่าอีกแล้ว

เรื่องนี้มันจะผสมกัน บางตอนมันก็ขำๆ มีสู้ชีวิต เลย บางฉากมันก็จะเป็นละครคอมเมดี้ แต่บางครั้งมันก็จะมีเศร้า มันเป็นละครสูตรชาวบ้านจริงๆ เรื่องนี้ไม่มีความเป็น "อุ้มรัก" นะแต่เอ๊ะ...อาจจะเหมือนตรงที่นางเอกจะท้องหรือเปล่า (ยังไงเนี่ย)

เจองานหินๆ เยอะ อย่างเรื่องนี้ก็ต้องร้องไห้

ค่อนข้างเยอะ ต้องสู้รบตบมือกับคนรอบตัวเยอะ ไม่ว่าจะเป็น ฮาน่า (ทัศนาวลัย องอาจอิทธิชัย) อ๋อม (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) แล้วก็ป้าขี้งกของตัวเอง ต้องเจอพี่บี (วัลวิภา โยคะกุล) พี่ท็อป (ดารณีนุช โพธิปิติ) แล้วพระเอกร้ายใส่อีกด้วย ถามว่ามีวิธีเรียกน้ำตายังไงน่ะเหรอ แอนก็พยายามคิดถึงเรื่องตรงนั้นที่เกิดขึ้น เราต้องคิดตามตัวละครจริงๆ ไม่อย่างนั้นเราก็ร้องไม่ได้ ต้องคิดว่าเราโดนจริงๆ ต้องคิดว่าเราแย่จริงๆ มันจะไหลออกมาเอง แต่ไม่ได้มาเร็วทุกฉากนะ บางฉากแอนก็ต้องเค้นออกมาเหมือนกัน แต่ก็อยู่ที่บท ถ้าบทส่ง และนักแสดงที่เล่นช่วยกันส่ง มันก็ง่ายต่อการร้องไห้


ชีวิตจริงเคยร้องไห้หนักหนาสาหัสบ้างหรือเปล่า

มันก็อาจจะไม่เหมือนในละคร อย่างแอนสูญเสียยาย แต่มันก็เป็นการร้องคนละอย่าง แต่ถ้าถาม ว่าเรื่องแย่ที่สุดๆ ก็คงเป็นเรื่องยายเรื่องเดียว ที่เหลือที่ร้องหนักๆ ไปร้องในละคร เพราะในชีวิตจริงแอนไม่ค่อยร้องเท่าไร คือเก็บกดก็เลยไปร้องในละคร (หัวเราะ)



ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร ถูกจับตามองตลอด รู้สึกกดดันหรือเปล่า

ก็นิดหนึ่ง แอนก็เครียดนะ บางอย่างคือคนคิด ว่าเห็นแอนเล่นละครต้องสนุกแน่ๆ หรือต้องมีอะไรแน่ๆ ถ้าเขาดูแล้วไม่มี เขาก็จะว้า...แต่ในขณะเดียวกันนักแสดงใหม่ๆ เขาไม่มีคะแนนมา เขาก็จะทำคะแนนได้เรื่อยๆ แต่แอนเหมือนมีคะแนนอยู่แล้ว ถ้าแอนรักษาคะแนนไม่ดี คนดูเขาก็คงจะติดลบในใจ เขาคงไม่ว่าอะไรเรามากเท่าไร แต่ก็อยากเห็นทำอะไรได้มากกว่านี้ อยากเห็นแอนทำอะไรเยอะๆ สู้รบตบมือกับคนอื่นๆ

ถ้าแอนจะมานิ่งๆ เขาก็จะไม่สะใจ ซึ่งแอนก็ชอบ (หัวเราะ) คือคนดูเขาอยากเห็นแอนโต้ตอบมากกว่านิ่ง ถ้าเห็นแอนน้อยๆ คนดูเขาจะอึดอัด อย่างเรื่อง "ลิขิตกามเทพ" เขารู้ว่าเราเป็นซินเดอเรลลาในช่วงแรก เขาก็จะตั้งคำถาม ว่าอย่าบอกนะ ว่าต้องเรียบร้อยแบบนี้ เราก็บอกว่าจะมีแก้แค้นเป็นระยะ เพราะคนดูเขาไม่อยากเห็นเราไม่สู้คน ซึ่งแอนก็ชอบ เพราะว่าได้สู้คน เหมือนได้ระบาย (หัวเราะ)
 

กับเรื่อง "สวรรค์เบี่ยง" ที่กำลังถ่ายทำอยู่ คนก็รอลุ้นเหมือนกัน

อันนี้กดดันหนักมาก อย่างเมื่อวานไปถ่าย "สวรรค์เบี่ยง" ที่ตลาด เจอแม่ค้าเขาก็จะบอก เลยว่าถ่าย "สวรรค์เบี่ยง" ใช่มั้ย เขาก็จะบอกว่ารอดูอยู่นะ จริงๆ กำลังถ่ายอยู่ ยังไม่ได้ออนแอร์ แต่คนถามเหมือนมันออกอากาศแล้ว แต่แอนจะบอกกับเขาเลย ว่าอย่าคาดหวังเยอะนะ ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เราก็รีบออกตัวไว้ก่อน


ได้มาเล่นเรื่อง "สวรรค์เบี่ยง" ที่เคยทำเป็นละครมาแล้ว กลัวการเปรียบเทียบไหม

มันก็ต้องมีอยู่แล้วล่ะ เหมือนตอนที่แอนเล่น "แต่ปางก่อน" แอนก็โดนซะน่วมเหมือนกัน บางคนเขาก็จะชอบเวอร์ชั่นเก่าก็มี บางคนก็ชอบแบบใหม่ เราก็ต้องทำใจ ถ้าเรารับเล่นละครเก่าเอามาทำใหม่ แต่แอนไม่สน ไม่เอามาเป็นประเด็น เพราะถ้าแอนกลัวก็คงไม่รับเล่น มันเป็นโจทย์ที่น่าท้าท้าย เราจะทำยังไงให้น่าสนใจ แต่คิดว่าโปรดักชั่นที่ทำ น่าจะโอเค แต่ถามว่าจะดีเท่า "อุ้มรัก" มั้ย แอนตอบไม่ได้ เพราะมันคนละแบบกัน



กับตำแหน่งผู้จัดรายการ
  นอกจากงานละคร อีกหนึ่งบทบาท แอนยังเป็นผู้จัดรายการด้วย ตอนนี้รายการเด็ก ทั้ง 2 รายการ ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง

ตอนนี้รายการ "อิงลิช ออนทัวร์" กับรายการ "สนามเด็กเล่น" ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี ส่วนต้นปีแอนจะมีรายการเด็กรายการใหม่ชื่อ "โอมเพี้ยง" เวลาออกอากาศครึ่งชั่วโมง จะฉายประมาณเดือนกุมภาพันธุ์ ส่วนพิธีกรคือ น้องเจิน (วรัญญา เจริญพรสุข) ที่เลือกรายการเด็กอีก เพราะทางช่องเห็นว่าเราทำได้

จริงๆ ทางช่อง ทางรัฐบาลเขาก็สนับสนุนรายการเด็ก ก็เป็นจุดที่ทุกคนสนใจอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าอย่าไปคาดหวัง ว่าจะร่ำรวยจากรายการเด็ก แอนว่าทำให้มันดีดีกว่า การทำรายการเด็กลงทุนสูง ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ต้องดูแลมากกว่าผู้ใหญ่ 10 เท่า คือรายละเอียดมันเยอะ ถ้าแอนผ่านรายการเด็กไปได้ เจอรายการอื่นก็ไปรอดแล้วล่ะ (หัวเราะ) เพราะเราเจอโจทย์ที่ยากมาก่อน


ทำเบื้องหน้ามานาน พอมาทำงานเบื้องหลัง เป็นอย่างไรบ้าง
 

ทำเบื้องหน้ามา 18 ปี เบื้องหลัง 2 ปี ถามว่ายากมั้ย มันก็ยากสำหรับแอน ก็ระดับหนึ่ง ถามว่าเป็นของใหม่สำหรับแอนมั้ย มันก็ไม่ได้ใหม่ เพราะเราอยู่ตรงนี้มาตลอด ถามว่าตอนนี้มีความคิดจะเป็นผู้จัดละครหรือเปล่า ตอนนี้คงยัง ขอเล่นละครดีกว่า แอนชอบการแสดง ยังไม่อยากหนีไปไหน



เรื่องชื่อเสียง
 

อยู่วงการมา 18 ปี นอกจากได้ชื่อเสียง เงินทอง แอนได้รับอะไรที่นอกเหนือจากตรงนี้
 

ถ้าถามแอน มันเป็นสวรรค์ชั้นหนึ่งของแอน คือตอนเด็กๆ แอนมีชีวิตอีกอย่างหนึ่ง พอได้เข้ามาวงการแอนได้อยู่ในแดนเนรมิต แอนจะทำอะไรก็ได้ จิตนาการอยากเป็นอะไรเราก็ได้แสดง โลกละครมันสนุก งานเราเป็นงานที่มีความสุขมากสำหรับแอน อันนี้เป็นความสุขที่แอนได้รับ ไม่รู้ว่าจะบรรยายยังไง แอนรู้สึกว่าแอนโชคดีมาก ที่อาชีพของแอนเป็นอาชีพที่สนุก ไม่น่าเบื่อ ประชาชนส่วนใหญ่เขากลับบ้าน ก็ดูละครเรา เราเอ็นเตอร์เทนเขาได้ ดูเราหัวเราะ ร้องไห้ตามเรา แค่นี้แอนก็มีความสุขแล้ว รู้สึกภูมิใจกับอาชีพตัวเอง


ถ้าวันหนึ่งเราอาจจะไม่ได้เป็นนางเอก
 

มันก็ต้องรับสภาพไปเรื่อยๆ เมื่อก่อนแอนเล่นเป็นสาวอายุ 18 ได้ ตอนนี้เราก็ไม่เล่นแล้ว มันเหมือนเรายอมรับไปในใจเราเอง ด้วยประสบการณ์และระยะเวลาในการทำงาน ทำให้เราต้องยอมรับไปในตัว อย่างบทท้อง เมื่อก่อนแอนจะไม่ได้เล่น แต่ตอนนี้แอนก็ไม่รังเกียจ เพราะวัยแอนสามารถรับได้ หรือถ้ามีบทแม่ก็ยินดี มันอาจจะมีบ้างที่คิดว่า โอ๊ย...ถึงเวลาแล้วเหรอ แต่มันก็โอเค หลักๆ แอนรักการแสดงมากกว่าคำว่าเป็นดารา แอนชอบให้คนเรียกว่านักแสดงมากกว่าดารา เพราะคำว่านักแสดงมันดูมั่นคงถาวรกว่าดารา แอนอยู่ได้ในทุกสภาพที่มันต้องเปลี่ยนไป


วางแผนชีวิตในวงการบันเทิงอย่างไรบ้าง
 

แอนก็เล่นละครไปเรื่อยๆ นี่ล่ะ ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ถ้าใช่ชีวิตแบบพอเพียงของแอนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะลำบากอะไร เราไม่ฟุ้งเฟ้อ ทุกวันนี้แอนก็แฮปปี้แล้ว



ทุกวันนี้ถูกตั้งให้เป็น "เจ้าหญิงของวงการบันเทิง"
 

ไม่เคยรู้สึกอึดอัด รู้สึกภูมิใจที่เขาเรียก แต่ไม่ใช่แอนเหลิง เพียงแต่เวลามีใครพูดมา แอนก็จะบอกว่าพี่ต้องเผื่อใจ เพราะแอนก็ คือคนธรรมดา มีด้านมืด เทา หรือขาว คือมีทุกอย่าง เพียงแต่เราควบคุมด้านที่ไม่ดีของเราไม่ให้ไปกระทบกระเทือนใคร จะมีนิสัยอะไรไม่ดี เราก็ไปทำที่บ้าน ไม่พยายามทำให้สังคมเห็น หรือใครเดือนร้อนกับสิ่งที่เราทำ เวลาเขาเรียกเราแบบนี้ แอนก็รู้สึกว่าเขาให้เกียรติเรา
 

จริงๆ การทำอะไร แอนก็ระวังพอสมควร พูดตรงๆ ว่าแอนไม่อยากทำอะไรไม่ดี พยายามที่จะเป็นคนดี ถ้าทำได้ก็จะทำ แอนไม่ชอบทะเลาะหรือมีปัญหากับใคร คิดว่าเรามีความสุข ชีวิตไม่วุ่นวายดี อาจจะไม่มีสีสันหน่อย ไม่หวือหวา อาจจะนิ่งหน่อย แต่ก็แฮปปี้ของเราแบบนี้
 

นางเอกบางคนต้องสร้างภาพตัวเองเพื่อภาพลักษณ์ สำหรับแอนคิดว่าหน้าจอกับหลังจอต้องเหมือนกันหรือเปล่า
 

ลองให้คนดูตัดสินแล้วกันนะ ถ้าหน้าจอเราก็เป็นไปตามบทบาท หรือถ้าเห็นภาพแอนให้สัมภาษณ์ มันก็เป็นไปตามชีวิตจริงแอนนั่นแหละ อย่างบางยุคที่ทุกคนให้การยอมรับในเรื่องบางเรื่อง ซึ่งแอนรู้สึกว่าแอนเป็นแบบนั้นไม่ได้ แอนก็ไม่ได้ลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อที่จะอยู่ในซีน หรืออยู่ในสปอร์ทไลท์ แอนเลือกที่จะถอยออกมาดีกว่า

เพราะมันไม่ใช่เรา เพราะถ้าอยากจะเด่นอยู่ตลอด เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเรื่อยๆ ทุกคนก็คงเห็นแอนในหลากหลายมุม แต่แอนไม่ใช่ ณ ตอนนี้ทุกคนยังเห็นแอนเป็นยังไง ก็ยังเป็นเหมือนเดิม เราเลือกที่จะไม่หวือหวา แต่อยู่กินนานๆ แต่น้อยๆ หน่อย ไม่ร่ำรวย พออยู่ได้ และแฮปปี้ ไม่ใช่ให้ใครมาว่าเราได้ว่า ทำให้สังคมเสื่อมเสีย หรือมองว่าเราเป็นพิษเป็นภัยกับใคร



เรื่องความรัก


ความรักก็ถูกจับตามอง
 

ก็ไม่นะ พอเขาเห็นคนนั้นคนนี้แต่ง เขาก็ถาม ว่าจะแต่งเมื่อไร ช่วงนี้ก็เจอกับเอนะ ตลอดเวลา 7 ปีที่คบกันก็เจอกันตลอด ถามว่าจะมีข่าวดีมั้ย ยังไม่ได้คุยกันเลย ยังอยู่ในจุดที่แอนยุ่งเรื่องรายการ เขาก็ยุ่งเรื่องงานของเขา แอนกับเขาก็มีสัญชาตญาณอะไรบางอย่าง ว่าเราควรจะพูดกันตอนไหน บางทีมันอาจจะเกิดขึ้นในเดือนหรือสองเดือนข้างหน้าก็ได้ หรืออีก 1-2 ปีข้างหน้า แอนก็ตอบไม่ได้ มันแล้วแต่ความรู้สึก มันมาเราก็คุยกันเลย แต่ถ้าเรายุ่งกันอยู่อย่าเพิ่งเลย ต้องหาจังหวะดีๆ ที่มาคุยกัน


7 ปี มีหวาน เสมอต้นเสมอปลายอย่างไงบ้าง
 

คือแอนเสมอต้นเสอมปลาย คือไม่หวานเลย (หัวเราะ) ก็เลยไม่เรียกร้องอะไรกันมากมาย เพราะถ้าหวานตั้งแต่แรกก็ต้องจืดแล้วมั้ง คือถ้าไม่ทำตั้งแต่แรก ตอนหลังไม่ทำมันจะกลายเป็นเรื่องแปลก สู้ทำให้สมดุลตั้งแต่แรกดีกว่า ก็เลยไม่ค่อยเรียกร้องอะไรกันเท่าไร คือคบกันขนาดนี้ เราต้องการความอบอุ่นมากกว่า เราไม่ต้องการองค์ประกอบแล้ว ว่าจำวันเกิดฉันได้มั้ย หรือต้องเขียนการ์ดหวานๆ ให้


หลายคนคิดว่าแอนน่าจะพร้อมใช้ชีวิตคู่แล้ว
 

อย่างที่บอกว่าคนภายนอกเขาจะไม่รู้ว่าชีวิตเรายุ่งอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกไปก่อน คือถ้าเรา พร้อมแล้ว เราพูดครั้งเดียวให้ชัดเจนดีกว่า เดี๋ยวพอเห็นแอนพูดไป พอถึงเวลาไม่มีอะไรคืบหน้า เดี๋ยวก็มาถามว่าเตียงหักรักร้าวหรือเปล่า แอนไม่อยากให้มีอะไรแบบนั้น ก็ชัดเจนไปดีกว่า ถ้ามันใช่ก็ใช่ ถ้ายังก็ยัง


แหม...รักยังมั่นคงขนาดนี้ แฟนๆ มั่นใจได้ว่าเร็วๆ นี้ต้องมีข่าวดีแน่นอนจ้า...



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์