จำไม่ลืม!! กัปตัน ถวายงานหน้าพระที่นั่ง พระองค์ทรงห่วงใย ปชช. ทุกคน

หลังจากที่ไปเข้าร่วมฉากถ่ายทำละครพิเศษ เรื่อง "เราเกิดในรัชกาลที่ 9 เดอะ ซีรีส์" ที่ Acts Studio จ.ปทุมธานี กัปตัน-ภูธเนศ หงษ์มานพ และ เอ้ก-บุษกร หงษ์มานพ สองสามีภรรยาได้เปิดใจถึงการที่เคยได้ถวายงานใกล้ชิดให้กับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

โดยกัปตัน เผยว่า "ผมภูมิใจมากที่ในชีวิตของนักแสดงมันคือที่สุดแล้วที่ได้ทำในสิ่งที่เราถนัดถวายแด่พระองค์ท่าน แต่อีกใจก็ไม่อยากทำ ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ คือ อยากให้เป็นการเล่นละครเทิดพระเกียรติถวายปกติ ซึ่งตอนนี้ยังรู้สึกว่ามันหนัก มันเกิดขึ้นจริงเหรอ ยังอยากให้พระองค์ท่านได้อยู่กับเราไปตลอด ผมเคยมีโอกาสได้ถวายงานหน้าพระที่นั่ง ตั้งแต่เมื่อปี 2547 ครับ แล้วก็เคยถวายงานอีกครั้งต่อในปี 2550 ความรู้สึกผมยังจำได้แม่นเลยครับ ไม่มีวันลืม ไม่เคยคิดว่าในชีวิตนักแสดงคนหนึ่งจะมีโอกาสได้เห็นพระองค์ท่าน ชีวิตนี้ผมได้กราบพระบาทพระองค์ท่าน ซึ่งนั่นทำให้ผมคิดว่า ตั้งแต่วันนั้นถึงผมจะตายผมก็ไม่เสียดายชีวิตแล้ว

ผมยังจำภาพวันนั้นได้พระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่ห่วงใยประชาชนเป็นอย่างมาก ขนาดนักแสดง ซึ่งเป็นตัวประกอบได้มีโอกาสเข้าไปถวายงานพระองค์ท่านยังตรัสถามเลยว่า ทานข้าวหรือยัง พอผมได้เห็นผมก็เลยรู้สึกว่าเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก"

ด้านเอ้ก เผยว่า "ตั้งแต่เกิดมา หนูก็รู้สึกว่าท่านเป็นพ่อที่ดูแลทุกคน แต่ไม่ได้รู้สึกว่าวันหนึ่งถ้าท่านไม่อยู่แล้ว มันจะต้องเป็นยังไง แต่พอมาถึงวันนั้นหนูใจหายมาก หนูก็เชื่อว่าหนูคงเป็นเหมือนประชาชนทุกคน ความเชื่อมั่นความมั่นใจความมั่นคงมันหายไป รวมถึงความปลอดภัยด้วย ความรู้สึกมันเคว้งคว้าง ซึ่งนั่นก็ทำให้หนูได้รู้ว่า ที่ผ่านมาเรามีบารมีของท่านคอยปกป้องคุ้มครองอยู่โดยที่เราไม่ได้รู้ตัวมาก่อน

หนูสงสัยมาตั้งแต่เด็กว่า ท่านเป็นถึงพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ท่านทรงมีทุกอย่าง หากต้องการอะไรก็คงหาได้ แต่ทําไมท่านต้องมาทำอะไรให้เหนื่อยขนาดนี้ หนูเลยรู้สึกว่า ที่ผ่านมาไม่มีสิ่งไหนเลยที่ท่านทำเพื่อตัวเอง ทุกอย่างท่านทำเพื่อพวกเราทุกคน แล้วอย่างหนึ่งที่หนูยึดมากก็คือเรื่องของความพอเพียง ถึงหนูจะเป็นเพียงแค่นักแสดงแต่หนูก็ไม่เคยลืมตัวว่าเราคือใคร หนูจะอยู่กับความเป็นจริง"

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าภูมิใจมากขนาดไหนที่ได้เกิดในรัชกาลที่ 9 เอ้ก เผยก่อนว่า "ภูมิใจมากค่ะ ถึงเราจะไม่ได้มีโอกาสดีเหมือนคนอื่น ที่ได้เข้าไปเข้าเฝ้าและใกล้ชิด ไม่มีโอกาสได้เห็นท่านใกล้ๆ หรือได้กราบแทบพระบาท แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสได้เข้าไปในพระบรมมหาราชวังเพื่อใกล้พระองค์ให้มากที่สุด หนูก็จะไปถึงแม้ว่าจะไม่ได้เห็นอะไรเลย แต่ก็รู้สึกดีใจมาก ทุกครั้งที่ได้เข้าไป ถึงแม้วันนี้ท่านไม่อยู่แล้ว หนูก็อยากจะทำอะไรสักอย่าง รู้ว่าบางทีฉันอาจจะไม่ได้เห็นหรอก แต่อย่างน้อยก็อยากให้คนอื่นได้รู้ว่า เรารักท่านมากแค่ไหน พวกเราทุกคนรักท่านมากแค่ไหน"

"ผมคิดว่าพระองค์ท่านทำให้พวกเราทุกคน แต่ท่านไม่เคยหวังให้ใครมาทำอะไรให้กลับ พระองค์ท่านแค่ต้องการให้ประชาชนของพระองค์ท่านรักกัน อย่างน้อยเราน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่าน ที่ท่านพยายามทำให้ดูเป็นแบบอย่างมาตลอด 70 ปี เราแค่ดำเนินรอยตาม ผมเชื่อว่ามันน่าจะเกิดสิ่งที่ดี และเป็นมงคลกับตัวเราเอง ถ้าหากท่านมองลงมาก็คงจะมีความสุข สิ่งที่ท่านเคยสอนไว้ มันไม่ได้ใช้ได้แค่ในปัจจุบัน ต่อให้ผ่านไปอีกสิบปีหนึ่งร้อยปีพันปี ทุกอย่างก็คงเป็นจริงเหมือนอย่างนี้ ผมจะบอกกับตัวเองว่า ชีวิตนี้เรามีบุญมากเหลือเกินที่วันหนึ่งเรามีโอกาสได้กราบพระบาทพระองค์ท่านและได้ถวายงาน ซึ่งมันทำให้ผมคิดว่าต่อไปในอนาคต ถึงท่านจะไม่อยู่แล้ว แต่ผมก็จะทำให้เป็นแบบอย่างแก่คนรุ่นหลัง ผมจะเข้มแข็งและอดทนในการทำความดี ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อให้สิ่งที่ท่านสอนคงอยู่ตลอดไป" กัปตันกล่าวปิดท้าย


จำไม่ลืม!! กัปตัน ถวายงานหน้าพระที่นั่ง พระองค์ทรงห่วงใย ปชช. ทุกคน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์