‘ดร.เซปิง’ลุยเดินหน้าปลูกผมให้ ‘อี๊ด โปงลางฯ’หวังยุติปมด้อย

โดยดร.เซปิงว่า ทางอี๊ดต้องการความมั่นใจในตัวเองจึงมาปรึกษา ก็แนะนำไปว่าควรเริ่มจากจุดไหนก่อน ซึ่งเริ่มต้นจะเริ่มจากการศัลยกรรมปลูกผมให้มีผมเยอะๆ ก่อน จากนั้นจะทำอะไรต่อค่อยว่ากัน โดยการเตรียมตัวไม่มีอะไรยุ่งยาก ขอเวลาแค่ 3 วันก็สามารถทำได้เรียบร้อย ทางอี๊ดเองก็ได้กำหนดวันมาแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับกระแสที่ตามมาหลังจากนี้ตนไม่ได้กังวลอะไร เพราะไม่ได้ทำอะไรไม่ดี

"จริงๆ เขาทุกข์ใจมานานแล้วนะ ต้องใส่หมวกขึ้นคอนเสิร์ต มีการแสดงต่างๆ ก็ต้องใช้หมวกอำพรางข้อบกพร่อง เพราะฉะนั้นศัลยกรรมไม่ได้หมายความว่าต้องทำให้ตัวเองดูดี แต่มันช่วยเรื่องของการรักษา แก้ไขปัญหาเรื่องของปมด้อยได้ ส่วนเซปิงเอง การทำดีไม่มีต้องกลัวอะไรเลยค่ะ ก็เลยไม่กลัว และก็ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้นเลย" ดร.เซปิงกล่าว

และบอกถึงคดีความว่า ที่ผ่านมาได้ฟ้องหมิ่นประมาทกับทุกคนที่กล่าวหาว่าโครงการเฟซออฟ ไทยแลนด์ (Face Off Thailand) หลอกลวงประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้จึงอยู่ในกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งแม้เรื่องจะดูหายเงียบไป แต่ตนจะไม่ยอมให้เรื่องเงียบแน่นอน ส่วนที่ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะดำเนินการตรวจสอบความผิดกรณีเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง ก็ยังไม่มีมติหรือคำตัดสินใดๆ มาเลย

"เซปิงจะทำให้สังคมได้รู้ความจริง เพราะฉะนั้นทางแพทยสภาเองต้องฝากไว้ด้วยเหมือนกันค่ะ จากที่ไปร้องเรียนเอาไว้นะคะ ทุกอย่างเงียบหายไปหมดเลย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าเซปิงไม่เงียบแน่นอนค่ะ ความถูกต้องในสังคมคงต้องเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ เราเป็นคนไทยคนนึง เราก็มีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิ์ของเรา เซปิงได้ไปร้องเรียนไว้แล้ว คงต้องตามเรื่องแน่นอน เพราะสิ่งที่ไปร้องเรียนไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อสังคม เพราะฉะนั้นการทำเพื่อสังคมถ้าไม่เดินต่อ ถือว่าเราไม่ใช่คนจริง เซปิงเดินต่อแน่นอนค่ะ" ดร.เซปิงกล่าว

และทิ้งท้ายถึงการเตรียมดำเนินการว่า "ก็ใช้สิทธิ์ของเราอย่างเต็มที่ ชื่อเสียงของเราดังไปเป็นระดับโลกแล้วนะคะ คือคนรู้จักโครงการเฟซออฟ รู้จักดร.เซปิงไปทั่วโลก บางมุมเล็กๆ บางคนอาจจะยังไม่เคลียร์ ว่าเฟซออฟหลอกลวงประชาขนยังไง ทุกวันนี้มันปรากฎให้เห็นแล้วค่ะ ทุกคนมีความสุข ก็ไปดูได้ ที่เราทำให้ทุกคนมีความสุขขึ้นมา"