นุ๊ก-สุทธิดา”เคลียร์!หมั้นเงียบ“มหาเศรษฐี”พร้อมแต่งก.ค. นี้

หมั้นเงียบไม่บอกใคร สำหรับอดีตนักร้อง-นักแสดงสาวชื่อดัง “นุ๊ก-สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา” ที่มีภาพว่อนโซเชี่ยลว่าเข้าพิธีหมั้นกับแฟนหนุ่มรุ่นน้องชาวมาเลเซีย “มูฮาหมัด ฮากีม บินอาญซาฮา” อายุเพียง 24 ปี ซึ่งห่างจาก “สาวนุ๊ก” ถึง 15 ปี งานนี้เจ้าตัวได้เดินทางมาเปิดใจในรายการ  “บันเทิง 108” ทาง “ช่อง 8” ถึงเรื่องราวทั้งหมดว่าไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง และจะมีพิธีแต่งงานที่ประเทศมาเลเซียในวันที่ 9 กรกฏาคมนี้ พร้อมทั้งขอแก้ข่าว “สามีมหาเศรษฐี” เผยฝ่ายชายเป็นเพียงคนธรรมดาไม่ได้ร่ำรวยอย่างในข่าว ตกหลุมรักเพราะเป็นคนดี 

        “ก่อนประมาณเกือบปีค่ะ ก็ศึกษาแล้วก็ปฎิญาณตนเข้ารับอิสลามเนี่ยก่อนที่จะเจอกัน” 

        “เป็นชาวมาเลเซียค่ะ ไปเจอกันที่สิงคโปร์ ไปแข็งกีฬาค่ะ เทรนเนอร์ของนุ๊กก็ไปแข่งก็เลยเจอเขา เขาก็แข่งเหมือนกันเขาได้ที่ 1 ค่ะ” 

        “เหมือนมาขอถ่ายรูป ช่วงที่แข่งกีฬา แข่งอยู่ประมาณ 2-3 วัน ก็มาขอถ่ายรูปเราทุกวันเลย แต่ว่าไม่คุยอะไร ตอนนั้นก็มีนักกีฬาหลายๆ คนมาขอถ่ายรูปด้วย ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สนใจเอาแต่ดูกีฬา พอแยกย้ายกันกลับเขาก็อินบ็อกเข้ามาในไอจีเรา” 

        “ใช่ค่ะ ก็คุยกันมาเรื่อยๆ” 

        “ด้วยความที่ตัวเขาเป็นคนที่สม่ำเสมอ ตื่นเขาก็จะไลน์บอก เราก็เลยรู้สึกว่าทำไมผู้ชายคนนี้จริงใจจังเลย ทั้งที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน คุยกันวันแรกเขาก็เอารูปเราไปขึ้นไอจีเขา เวลาทำอะไร ทานข้าวก็จะบอก เข้าห้องน้ำ อาบน้ำ รายงานตลอด แล้วทุกเย็นก็จะสไคล์ฟคุยกันนางน่ารักมากเขาไม่เคยบอกวางก่อนเลย จะ 1 ปีแล้วไม่เคยบอกว่าแค่นนี้นะก่อนเลย ต้องเป็นเราก่อนเสมอ” 

        “เยอะมากค่ะ จริงๆ ด้วยความต่างก็ไม่ได้เป็นปัญหานะคะ แต่ก็อาจจะเป็นประเด็นบ้างเล็กน้อย เพราะว่าในชีวิตก็อยากจะมีคนที่อายุมากกว่าบ้าง เขาอายุน้อยกว่า 15-16 ปีค่ะ” 

        “เป็นทานข้าวที่บ้านค่ะ(บ้านนุ๊ก) แล้วก็มีการสวมแหวนกัน” 

        “วันที่ 9 เดือน 7 ค่ะ (9 กรกฏาคม 2559) แต่งที่มาเลเซียค่ะ” 

        “ถ้านับตั้งแต่เจอกัน ก็พฤษภานี้ เจอกันเดือนพฤษภาค่ะ แต่ว่าคุยกันในฐานะเพื่อนมาประมาณ 3 เดือน” 

        “หลายข่าวหลายกระแสก็พูดว่าแต่งงานกับมหาเศรษฐี แต่จริงๆ แล้วไม่จริงเลย เขามีอาชีพเป็นตากล้อง แล้วก็เป็นคนธรรมดา แล้วก็ไม่ได้มีฐานะอะไร แต่ว่าอย่างแรกที่เราแต่งงานกันก็เพราะว่าอย่างแรกก็อาจจะเพราะว่าศาสนา แต่งเพราะว่าเขาดี อีกอย่างเรามีลูก เราต้องคิดถึงลูกเป็นหลัก คนคนนี้สามารถดูแลลูกเราได้ สามรถดูแลเราได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ซับพอร์ตในเรื่องของเงินทอง แต่เรื่องจิตใจหรือการดูแลในเรื่องของผู้ปกครองเราเชื่อว่าเขาทำได้” 

        “แน่นอนว่าด้วยงานก็ต้องดูว่าใครทำงานอะไร ด้วยงานเราก็คิดว่าน่าจะมาทางเรามากกว่า น่าจะให้เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ ซึ่งเขาก็ถามเราเราดก็คิดว่าเขาเป็นคนเสียสละพอสมควร แม้ว่าเขาไม่ได้มีอาชีพใหญ่โต ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่การที่เขาต้องทิ้งครอบครัว หรือทิ้งสิ่งที่เขาคุ้นเคย”

        “ทางเขาก็ค่อนข้างจะโอเคกับลูกเรา ลูกเราก็โอเคกับเขาเพราะว่าด้วยความที่แม่น่าจะหาเพื่อนให้ลูก(หัวเราะ) ด้วยความที่เขาเล่นกีฬา เราก็เล่นกีฬาเด็กก็เลยจะสนุกเวลาที่เราเจอกันแล้วไปทำกิจกรรมเล่นกีฬา”