บุ๋ม หอม เลิกผัวไม่ทันไร..หนุ่มรุมจีบ

มีหนุ่มๆ เข้ามารุมตอมตั้งแต่ท้องได้ 4 เดือน สำหรับสาวมั่นคนนี้ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี

เพราะความสวยระดับนางงามอย่างเธอ แถมยังเก่งเข้าขั้น อาจารย์มหาวิทยาลัยอย่างนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากจะมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีทำดีกับเธอเพื่อหวังจะมัดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้สาวบุ๋ม ที่ได้เลิกรากับสามีสุดที่รักพร้อมกับครองตัวเป็นโสด และต้องดูแลลูกรักอย่างน้องอันดามัน ให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ทำให้โอกาสที่หนุ่มๆ ที่เคยเข้ามาแจกขนมจีบ จะหวนกลับมาทำความรู้จักกับเธออีกครั้ง

ซึ่งคุณแม่ลูกหนึ่งก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า

“ความจริงเรื่องนี้ ต้องยอมรับว่ามีเข้ามาตั้งแต่บุ๋มท้องได้ 4 เดือนแล้วละค่ะ เพียงแต่ตอนนั้นเรามีครอบครัวแล้ว เราก็ต้องบอกเข้าไปตรงๆ คือไม่ใช่จะยอหรือชมว่าตัวเองสวยอะไรหรอกค่ะ เราทำงานอยู่ตรงนี้ก็ต้องเจอคนมากมายหลายแบบ ในการมองของคนอื่นๆ บุ๋มอาจจะเป็นคนคุยเก่งคุยได้กับทุกคน มันก็เลยมีบ้างที่จะเข้ามา แต่เราก็รู้ว่าเขาเข้ามายังไง เรามีครอบครัวก็ต้องบอกไปตรงๆ เราจะไม่มาทำตัวแบบที่แอ็บไว้ว่า เราไม่มีใคร เพราะถ้าเราทำอย่างนั้นมันจะส่งผลเสียต่อตัวเรา

ครอบครัวเราก็อาจจะไม่มีความสุขได้ถ้าหากเราทำอย่างนั้น

แต่ในตอนนี้เราเป็นโสดแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีคนเข้ามาแล้วเราก็ต้องรับไว้พิจารณานะ เราก็ยังมีงานต้องทำ มีเรื่องต้องคิด เรื่องพวกนี้เราเพิ่งจะผ่านเรื่องราวไม่ดีเกี่ยวกับความรัก จะให้มาคิดอะไรตอนนี้ก็คงไม่ใช่ เรื่องของอนาคตเป็นเรื่องที่เราไปกำหนดอะไรไม่ได้ แต่บุ๋มจะไม่วิ่งหาเพราะเรามีลูกอยู่แล้ว ถ้าจะมาคงต้องให้มาเอง

แต่หลักๆ ตอนนี้ก็คือทำงาน ส่วนตัวของคุณวีก็คงเหมือนกัน

ถ้าหากในอนาคตเขาได้เจอคนที่คิดว่าใช่ เขาก็มีอิสระมากพอที่จะมองคนอื่นได้เหมือนกัน ดีไม่ดีเขาอาจจะมีใหม่ ก่อนบุ๋มด้วยซ้ำ เพราะต้องยอมรับว่า อดีตสามีของบุ๋มเป็นคนน่าตาดี แต่ถ้าเป็นไปได้ ในอนาคตเราก็อยากจะมาเป็นเหมือนเดิม เพื่อให้ครอบครัวเราอบอุ่นเหมือนครอบครัวคนอื่นๆ อีกครั้ง”

ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับประเด็นความรักของนักแสดงสาวกับแฟนหนุ่มที่ยังเหมือนเดิมหรือลดน้อยจนไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว

“อย่างที่บอกว่า เราไม่ได้โกรธกัน ดังนั้นเราจึงยังรักกันอยู่ แต่จะเหมือนเดิมหรือเท่าเดิมหรือเปล่า อันนี้คงไม่หรอกค่ะ เพราะถึงจะเป็นคู่รักที่ยังอยู่ด้วยกัน หรือแต่งงานกันมานานๆ แล้ว ความรักมันก็ย่อมจะไม่เหมือนเดิม บุ๋มเชื่อว่า การที่คนเรารักกันน้อยลง

มันคงไม่ใช่เหตุผลที่คนจะต้องเลิกรากันหรอกบุ๋มว่า

เพียงแต่เมื่อคนเรามาอยู่ด้วยกัน เราก็ต้องปรับอะไรเข้าหากันเยอะ แล้วเมื่อปรับกันไปแล้ว ใช้เวลาในการปรับมาประมาณหนึ่งแล้ว ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่หรือไลฟ์สไตล์อะไรหลายๆ อย่างของเราไปด้วยกันไม่ได้

เราก็ต้องแยกกันไป โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปฝืนความรู้สึก

เพราะที่ผ่านมา บุ๋มก็อดทนและฝืนกับเรื่องนี้มานานพอสมควร เมื่อรู้สึกว่ามันไม่ได้แล้วมันก็ไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไป”