“แนท-เกศริน” เชิ่ดใส่ “นักธุรกิจใหญ่” ตามจีบ

เป็นขวัญใจของหนุ่มๆ ค่อนประเทศ สำหรับสาวเซ็กซี่ “น้องแนท-เกศริน ชัยเฉลิมพล” ที่มาเปิดใจในรายการ “จุดเดือด” ทาง “ช่อง 2” ข่าวลึก บันเทิงร้อน โดยพีธีกรคู่เดือด “อุ๊บ-วิริยะ พงษ์อาจหาญ,โก้-ธีรศักดิ์ พันธุจริยา” ร่วมด้วย “ฝัน-ครุสุดา วันมา” ถึงชีวิตปัจจุบันที่ให้ธรรมะนำทาง ส่วนด้านความรักเชิ่ดใส่ “นักธุรกิจใหญ๋” ที่ตามตื๊อกว่า 5 ปี อ้างไปกันไม่ได้ ฟุ้งอยากได้ผู้ชายจริงใจ 

เพิ่งไปบวชมา ? 

        “คราวนี้ไปนานเลยค่ะ ประมาณเดือนกว่า ก็โอเคเนาะ ไม่ได้ไปบวชอย่างเดียวไปเข้ากรรมฐานด้วย เป็นกรรมฐานที่อดอาหาร เป็นคอร์ส 3 วัน 5 วัน แล้วก็ 9 วันรวมทั้งหมดก็ 17 ซึ่งมันดื่มแต่น้ำเราเลยรู้สึกว่าเราได้เห็นอะไรที่เป็นความทุกข์มากขึ้น” 

ไปบวชเพราะอะไร ? 

        “จริงๆ แนทเข้าวัดบวชเป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราเรียนจันทร์ถึงศุกร์ มันไม่มีเวลาที่จะไปบวชวันปกติเหมือนคนอื่นเขา เราก็เลยเลือกช่วงเวลาที่ปิดเทอมไปบวช ปิดเทอมเราใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในวัด” 

บวชที่ไหน ? 

        “เมื่อตอนต้นปี ประมาณธันวาปีที่แล้วก็ไปเข้ากรรมฐานที่วัดมเหยงค์ ที่นั่นก็ไปอยู่ 28 วัน แล้วก็ล่าสุดไปวัดที่ร้อยเอ็ดวัดป่าธรรมะสุโข อันนี้ไปอยู่เดือนกว่าค่ะ เป็นวัดกันดานมากยังไม่มีอะไรเลยค่ะ” 

ได้อะไรจากการบวช ? 

        “ให้แนวคิด ข้อคิด การดำรงณ์ชีวิต อยู่กับสังคม สังคมเรามันมีทั้งดีและไม่ดี เราทำงานแบบนี้เราก็ต้องเชื่อว่าเราจะทำจิตยังไงให้อยู่กับคนที่เป็นแบบนี้ สภาวะแบบนี้ เพราะว่าแนทมีธรรมไง แนทถึงอยู่ได้ไม่ไปตอบโต้อะไรที่มันแรงๆ การตอบโต้ของแนทบางทีอาจจะไม่เหมือนคนอื่น อาจจะเป็นแนวคิดที่ผสมธรรมะด้วยผสมทางโลกด้วยค่ะ” 

เห็นโพสเรี่องทุกข์ใจในเฟชบุ๊ค ? 

        “มันก็เป็นการสื่อสารให้ใครหลายๆ คนที่มาอ่านโพสของเรา คุณต้องเปลี่ยนความคิดนะ หากคุณไม่เปลี่ยนความคิดของตัวเอง จะเปลี่ยนความคิดคนอื่นมันไม่ได้ บอกเลยว่าแนทพยายามทำตัวให้เป็นดอกบัวที่พ้นน้ำแต่คุณยังทำตัวเป็นดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ คุณอย่าหวังว่าคุณจะเปลี่ยนคนอื่นได้ เพราะตัวคุณเองยังไม่เปลี่ยนตัวเองเลย” 

มีคนที่เข้ามารบกวน เม้นท์ไม่ดี ? 

        “ส่วนใหญในเฟชของแนทไม่มีนะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนดีๆ ทั้งนั้นที่เข้ามา เป็นเปอร์เซ็นน้อยมากเราก็ไม่อยากจะไปพูดถึง ส่วนใหญ่ที่เข้ามาไม่ดีคือส่วนใหญ่เป็นการเอาข่าวเราไปโพสค่ะ แล้วมันก็เป็นกระทู้ขึ้นมามากกว่า” 

น้อยใจไหมโดนว่า ? 

        “ไม่ใช่แนทคนเดียวที่โดนว่า ดาราหลายๆ คน ใครหลายคนทำดียังโดนว่าเลย เพราะฉะนั้นแนทก็เข้าใจยืนจุดเดียวกัน เอาใจเขามาใส่ใจเราแค่นี้เองค่ะ” 

ปลงกับเรื่องพวกนี้ ? 

        “ถ้าเราคิดจะทำงานสายนี้เราต้องรับสภาพ ไม่ใช่ว่าทำงานสายนี้แล้วมาบอกว่ารับไม่ได้ ไม่ใช่ตรบใดที่เรายังทำงานอยู่ทางด้านสื่อ วงการเนี่ยเราต้องยอมรับเลยว่ามันต้องมีทั้งกระแสดี กระแสไม่ดี ส่วนไหนที่ดีก็เอามาเป็นกำลังใจ ส่วนไหนไม่ดีก็ปล่อยมันไป เขาเป็นผู้กระทำเขา แนทก็ไม่คิดว่ากรรมมันจะตกที่แนท กรรมอยู่ที่คนกระทำค่ะ” 

ขอถามถึงความรัก เห็นว่ามีนักธุกิจตามจีบ ? 

        “นานค่ะ นานมาก แต่ก็ยังไม่เลิกราเราก็ไม่รู้ว่าเราไปโดนจิตโดนใจอะไรเขาขนาดนั้น เพียงแต่ว่าเขาไม่ใช่คนไทยด้วยค่ะ เป็นคนที่มาทำธุรกิจในเมืองไทย โตในเมืองไทย เราก็ไม่อยากเอาเขาเข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตเราเนอะ ถ้าทราบก็อยากให้เลิกวุ่นวายเถอะ เพราะว่าต่างคนต่างเส้นทาง แนทคิจะทำงานแล้วก็เรียนหนังสือไม่อยากเอาเรื่องปวดหัวมาใส่สมอง แต่ว่าเขาก็ยังไม่เลิก” 

ตามถึงขั้นไหน ? 

        “ตามเยอะมาก โทรจิก โทรจี้ ส่งข้อความ คือทุกทางที่เขาสามารถติดต่อได้เขาทำหมด แต่เราก็บล็อคทุกอย่าง” 

มีไปไหนมาไหนด้วยกันไหม ? 

        “เคยคบกันมาก่อนค่ะ แล้วเราเห็นว่าเขาเจ้าชู้นิดหนึ่งแล้วเรารู้สึกว่าความเจ้าชู้ของเขาเวลบาเราไม่อยู่กับเขา เรารู้สึกว่าถ้าคุณเจ้าชู้ คุณก็ไปคบกับคนอื่นดีกว่าแต่เขาก็บอกว่าเขาไม่คบใคร แต่ว่าก็ยังเห็นติดต่อกัยนอยู่ เราเลยรู้สึกว่าเออไม่จริงใจก็ไม่เอา เขาก็ตื้อเก่งนะ แต่ว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เป็นคนที่ถ้าสลัดแล้วก็สลัดแนทเป็นคนที่ไม่ใช่เกลบียดเขานะ เราให้อภัยทุกครั้งที่เราให้เขาเข้ามาเพราะเราให้อภัย แต่พอเราให้อภัยแล้วมันไปยืนอยู่จุดเดิม เราก็ไม่อยากจะยุ่ง” 

บล็อคแล้วแต่เขาก็ยังไม่เลิกตาม ? 

        “เดี๋ยวดูข้อความก็ได้ ล่าสุดเพิ่งโทรมาเมื่อวานนี้ เขาโทรมาทุกวัน เราไม่รับเขาคงคิดว่าเราจะเลิกบล็อคเบอร์ เดี่ยวโทรมาใหม่ก็ยังโทรมาอีก” 

ตอนนั้นที่คบกันนานใครไหน ? 

        “ประมาณเดือน สองเดือน สามเดือนก็รู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้ไม่ค่อยจริงใจ ก็เลิกคุยไป แล้วก็กลับมาคุย เมื่อก่อนก็มาคบจริงๆ จังๆ ก็ประมาณเกือบปี แล้วก็เลิกกันไป แล้วก็กลับมาคบอีก รู้สึกเหมือนจะลองคบแต่ไม่ได้คบ แต่มันไปไม่รอด เขาก็ตามไปวัดนะ ตื๊อขนาดว่ายอมนั่งเครื่องไปรับที่วัด ไปส่งที่วัด เขารู้จุดเราว่าเราชอบทำบุญไง เขาชอบไปหาที่วัดจะคอยดูว่าเราจะออกวัดเมื่อไหร่ เขาจะดูว่าเราจะเข้าวัดเมื่อไหร่ นี่คือความดีที่เรามองเห็น นี่คือความดีที่เราให้อภัยเขา แต่สุดท้ายมันก็ยังไปกันไม่ได้”