โต ล้างภาพตัวเอง ตั้งวงใหม่แฮงก์เเมน

ปล่อยให้หลายคนสงสัยกันอยู่นานกับอนาคตในวงการเพลงของ"โต" ณัฐพล พุทธภาวนา

อดีตนักร้องนำวงซิลลี่ ฟูลส์ หลังจากมีปัญหากับเพื่อนๆ ในวงเดิม เลยทำให้เขาหายตัวไปพักใหญ่ๆ ล่าสุดนี้ผู้ชายที่มีเสียงร้องเป็นเอกลักษณ์กลับมาทำงานเพลงอีกครั้ง พร้อมกับสมาชิกใหม่ อันประกอบไปด้วย "เก๋" อรรคพล ทรัพยอาจิน (กีตาร์) "แจ๊ค" พงศ์วิภาค เหมะ (กีตาร์) "เกี๊ยะ" สมนึก ท่าชี (เบส) และ "แสบ" สายัณห์ สุวรรณเมธา (กลอง) ในนามวงใหม่ที่ชื่อ"แฮงก์แมน (Hangman)"
 

โตในฐานะคนตั้งชื่อวงได้อธิบายความหมายของคำว่า เเฮงก์เเมน

ว่ามาจากเกมที่ต้องเติมคำ ถ้าเติมพลาดจะถูกเเขวนคอ ดังนั้นผู้เล่นจึงต้องทำทุกอย่างให้ออกมาดีๆ เพื่อที่ตัวเองจะไม่ได้ถูกเเขวนคอ เกมนี้ก็เปรียบเหมือนกับวงเขาที่ตั้งใจทำงานเพลงชิ้นนี้ให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุดเพื่อจะได้ไม่ถูกแขวนคอ จากนั้นเก๋ได้เสริมถึงเหตุผลที่ใช้ชื่ออัลบั้มเป็นชื่อเดียวกับชื่อวงต่อว่า 

"ชื่อนี้มีความหมายลึกซึ้ง 

ในเรื่องการดำเนินชีวิตของคนเราที่ต้องต่อสู้กับอะไรหลายๆ อย่าง มันคือความจริงที่เเฮงก์เเมนอยากถ่ายทอดออกไป" อธิบายความหมายของชื่อวงเเล้วโต นักร้องนำเเละพี่ใหญ่สุด จึงอาสาเล่าถึงที่มาที่ไปกว่าที่เเต่ละคนจะมารวมตัวกันได้ ว่าเริ่มเเรกเขาทำดนตรีเสร็จก่อน แล้วจึงไปหานักดนตรีมาออดิชั่น ซึ่งคนเข้ามาสมัครเยอะมาก เเต่ไม่ถูกใจสักคน 

จากนั้นจึงได้มาเจอกับเกี๊ยะที่มาสมัครในตำเเหน่งมือเบส

 รู้สึกว่าเขามีสไตล์ดี ส่วนเก๋ จะชอบฝีมือการเล่นกีตาร์ที่คิดว่าสามารถเข้ากับนักร้องได้เเน่ๆ เเต่กับเเสบนั้นประทับใจตั้งเเต่การวางไม้กลองกันเลยทีเดียว เพราะดูเป็นมือกลองมืออาชีพ สุดท้ายจึงได้แจ๊ค มือกีตาร์ เรียกว่า กว่าจะได้สมาชิกครบใช้เวลาในการคัดสรรอยู่ 4-5 เดือน

"คือง่ายๆ ทุกคนที่ผมเลือกนั้น มีความเป็นตัวของตัวเอง

ถ้าใครได้เห็นฝีมือของพวกเขาเเล้ว ต้องยอมรับเลยว่าไม่เป็นรองวงเก่าเเน่นอน เพราะถ้าไม่ดีจริงผมไม่เอาหรอก อีกอย่างการทำงานก็ง่ายกว่าวงเดิมเยอะ ชุดนี้เราไม่มีโกรธ มีงอนกันเลย ทุกคนเป็นมืออาชีพ ที่สำคัญทุกคนยอมรับในสิ่งที่ผมต้องการในอุดมการณ์ที่ไม่ไปเเสดงในสถานที่ขายเหล้า พวกเขาไม่เห็นเงินเป็นใหญ่ อีกอย่างนิสัยพวกเราก็เข้ากันได้หมด เพราะถึงเล่นดนตรีเก่งเเค่ไหน ถ้านิสัยไปด้วยกันไม่ได้ทุกอย่างก็จบ
 

ตอนนี้เราเล่นด้วยกันมา2 เดือนเเล้ว 

ถือว่าลงตัวเร็วมาก ผมค่อนข้างพอใจกับกระเเสตอบรับจากเเฟนเพลง เพราะปล่อยเพลงไปได้ไม่เท่าไรก็เริ่มขึ้นชาร์ตมีคนร้องตามได้บ้างเเล้ว ผมจึงไม่กดดัน ยิ่งเรื่องการถูกเปรียบเทียบกับวงเดิม ผมยอมรับ ว่ามันต้องมีอยู่เเล้ว เเต่ไม่รู้สึกกลัวเลย อยากจะบอกว่าอัลบั้มนี้ ผมฉีกตัวเองจากเดิมเยอะมาก คนละเเนวทางจากซิลลี่ ฟูลส์เลย"

นักร้องชื่อดังพูดถึงเเนวเพลงในอัลบั้มแฮงก์แมนว่า 

เป็นเเนวป๊อปร็อคที่มีดนตรีสวยงาม ภาษาที่ใช้สื่อสารจะไม่บอกตรงๆ ทื่อๆ คือ ให้คนฟังได้คิดตามเอาเอง ดนตรีมีความสุขุมกว่าเดิม รสนิยมของเนื้องานเเตกต่างจากวงเดิมชัดเจน อย่างในภาคดนตรีจะลงตัวที่ไม่มีอะไรเกินไป เกินมา เนื้อร้องทำนองชัดมาก เเต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงก็คงจะเป็นเสียงร้อง เพราะหลอดคอคนเดิมถ่ายทอด
 

"ส่วนเรื่องที่ผมมีภาพลักษณ์เด่นกว่าสมาชิกคนอื่นๆ 

จนสมาชิกใหม่ที่เหลือดูเป็นเหมือนวงเเบ็คอัพนั้น อันที่จริงตอนที่เป็นวงซิลลี่ ฟูลส์ ผมก็เด่นกว่าทุกคนอยู่เเล้วนะ มันเป็นเรื่องปกติที่ตัวนักร้องจะเด่นกว่าคนอื่นๆ ในวง เเต่ก็จะพยายามดันน้องๆ ให้ขึ้นมาข้างหน้าเหมือนกัน ผมไม่อยากให้เขามาเป็นนักดนตรีในวงเฉยๆ เพราะทุกคนคือหนึ่งในสมาชิกเเฮงก์แมน เเละมีส่วนร่วมในการทำงานทุกคน อย่างเก๋กับเกี๊ยะจะทำดนตรีในเพลงสุดท้าย ส่วนผมก็เขียนเนื้อทั้งหมดเหมือนเดิม"
 

ซักไซ้ไล่เลียงเรื่องรายละเอียดของงานเพลงเสร็จเเล้วก็หันกลับมาถามความรู้สึกของเพื่อนร่วมวงคนใหม่ของโตกันบ้าง 

งานนี้พวกเขาพร้อมใจพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต่างคนต่างติดตามผลงานของนักร้องนำคนนี้มานานเเล้ว การทำงานร่วมกันไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมาย เพราะทุกคนเป็นตัวของตัวเอง เเละไม่กลัวถูกเปรียบเทียบกับสมาชิกเดิมของโตด้วย
 

เกี๊ยะเล่าถึงประสบการณ์ทำงานของตัวเองว่า 

เคยเล่นเป็นเเบ็คอัพให้ "พันซ์" วรกาญจน์ โรจนวัชร ส่วนเเสบก็เคยมีวงของตัวเองเเต่ไม่อยากเอ่ยชื่อ ด้านเเจ๊คนั้นมาเคยเล่นในผับมาก่อน เก๋นั้นเคยทำเบื้องหลังโดยเเต่งเพลงให้ อิงค์"อชิตะ ปราโมช ณ อยุธยา และวงเสือใหญ่รวมถึงเคยเล่นอยู่วงทรานซิสเตอร์ มาก่อน
 

สุดท้ายก่อนจากกันสมาชิกวงเเฮงก์เเมนได้ฝากถึงผลงานชุดนี้ของพวกเขาด้วยว่า 

ทุกคนตั้งใจและทุ่มเต็มที่ในการทำงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมา อยากให้ทุกคนลองฟัง ส่วนโต ก็บอกว่า เขาอยากล้างภาพเดิมๆ ของตัวเองทิ้งใหม่ให้หมด และเริ่มต้นกับวงใหม่วงนี้