ชาม ไอยวริญท์ ควงว่าที่สามี เปิดใจรักสุดหวานสู่วันวิวาห์!!!

"ส่วนที่คนคิดว่าประกาศแต่งงานเร็วเพราะมีน้องหรือเปล่า รับประกันได้เลยว่ายังไม่มีน้องแน่นอน อีกอย่างที่ตั้งใจไว้คืออยากแต่งธ.ค.นี้ ซึ่งถ้ามีน้องจริงถึงตอนนั้นคงท้องโตแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้ซีเรียส ยังบอกเจมส์ด้วยว่าอยู่วงการบันเทิงก็จะต้องมีเรื่องอะไรแบบนี้ซึ่งเขาก็เริ่มเรียนรู้ไปเรื่อยๆ" ชามกล่าว

ทั้งนี้ ‘เจมส์' เสริมว่า "จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้แน่ใจว่าจะต้องมาเจอกับอะไร ไม่ทราบว่าสื่อไทยเป็นยังไง ในหัวมีแค่สื่อฮอลลีวู้ดกับสื่อที่ออสเตรเลียซึ่งรู้ว่าเป็นยังไงน่ากลัวขนาดไหน แต่พอได้มาเจอกับสื่อไทยแล้วรู้สึกว่าน่ารักและให้เกียรตินักแสดงมาก ผมดีใจที่ชามได้มาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี หลังจากแต่งงานกันแล้วผมก็ยังอยากให้ชามได้ทำงานในวงการต่อไป เพราะรู้ว่ามันคือความสุขของเขา ส่วนผมก็จะสนับสนุนเขาต่อไป"

ประทับใจอะไรในตัวฝ่ายชาย ชามเผยว่า "ส่วนตัวเป็นคนเรื่องมาก แล้วก็มีลิสต์ยาวมากว่าคนที่ตัวเองจะคบหรือตกลงแต่งงานด้วยต้องสูงกว่า ออกแนวฝรั่ง เป็นนักกีฬา รักหมา เข้ากับครอบครัวได้ เข้าใจวัฒนธรรมประเทศไทยอย่างดี และต้องมาอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งเจมส์เป็นคนที่ได้มากกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ชามเคยวาดฝันไว้ ฉะนั้นก็เลยไม่ต้องตัดสินใจนานในการที่จะต้องตอบตกลง ถามว่าส่วนตัวพร้อมกับการแต่งงานหรือยัง พร้อมนะคะ ปีนี้ก็อายุ 28 แล้ว"

ถามถึงแพลนเรื่องการจัดงานแต่ง ‘เจมส์' กล่าวว่า "ผมแพลนไว้แล้วว่าอยากที่จะมีพิธีแบบไทยด้วย จากนั้นเลยคิดกันว่าจะจัดที่ไหนดี ซึ่งผมกับชามจะเป็นคนที่เอาเรื่องจิตใจมาก่อน สิ่งที่ทำให้เราสองคนมีความสุขมากคือการที่ได้เรียนที่ไอเอสบี รวมถึงเป็นที่ที่เราได้เจอกัน เรียนคลาสแดนซ์ด้วยกัน เคยเต้นและแสดงละครเวทีบนเวทีด้วยกัน จึงตัดสินใจว่าอยากแต่งงานที่นั่นเลย พอดีกับที่ว่าโรงเรียนอนุญาตแล้ว ทั้งที่โรงเรียนอาจจะไม่ได้เปิดกับเรื่องแบบนี้นัก แต่ชามเขาเคยทำเชื่อเสียงให้โรงเรียน ส่วนผมก็เป็นกัปตันทีมฟุตบอลซึ่งทำให้ทีมคว้าแชมป์ระดับเอเชียได้ครั้งแรก ทางโรงเรียนจึงมีความยินดีให้เราสองคนใช้สถานที่"

ตั้งใจจะแต่งภายในปีนี้ไหม ‘ชาม' กล่าวว่า "ตอนนี้รอดูฤกษ์อยู่ค่ะ ยังไม่แน่ใจว่าจะเดือนไหน แต่อยากให้เกิดขึ้นภายในปีนี้เพราะรู้สึกว่าพอมันใช่แล้วก็อยากให้ปุ๊บปั๊บเลย ไม่รู้จะรออะไรอีกทำไม ส่วนเรื่องที่เจมส์จะบินไปออสเตรเลียในวันนี้(21มิ.ย.)นั้น เนื่องจากเขามีธุรกิจอยู่ที่นั่น แต่ว่าเจมส์ได้มีการคุยเรื่องแต่งงานกับคุณพ่อคุณแม่ของชามเรียบร้อยแล้วก่อนที่เขาจะมาคุกเข่าขอชามแต่งงานด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาทำของเขาเองโดยที่ชามก็ไม่รู้มาก่อน ด้วยความที่เจมส์อยู่เมืองไทยมาตั้งแต่ปี 1998 เขาเลยพอจะทราบขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยว่าเวลาจะขอใครแต่งงานก็จะต้องไปขอทางผู้ใหญ่ก่อน"

ถามถึงแหวนที่ฝ่ายชายขอแต่งงาน ‘ชาม' ตอบว่า "ไม่รู้ว่ากี่กะรัต เท่าที่รู้คือเขาบอกว่าอาจจะไม่ได้เม็ดใหญ่มากแต่ก็น้ำดีที่สุดเท่าที่จะหาได้" โดย ‘เจมส์' เฉลยให้ว่า "แหวนเพชรหนัก 3 กะรัตครับ"