ดังแล้วไม่สนุก “มอนด์” เครียดโดนด่าเละ หลังโดนแชร์ภาพคู่แฟนฝรั่งบน BTS เล็งฟ้องคนปล่อยภาพ

“มอนด์”ไม่สนุกด้วยเป็นเหยื่อถูกแอบถ่าย หวั่นสื่อทั่วโลกลงข่าวกระทบงานแฟนหนุ่ม“ทอร์สตัน”โวยหลายสื่อลงข้อมูลเท็จ หวังคนถ่ายภาพออกมาขอโทษ หากกระทบชีวิตมากๆ เล็งดำเนินการฟ้องร้องคนปล่อยภาพ       

พิเศษสุดๆกับการได้เปิดหน้าพูดคุยแบบสดๆในรายการโทรทัศน์ที่แรกอย่าง“แฉแต่เช้า”ทางช่องGMM25 ที่เปิดโอกาสให้ได้ระบายทุกความรู้สึกแบบไม่มีกั๊กกับบุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของโลกโซเชียลสำหรับคู่รักเพศที่  3 ชาวไทยและหนุ่มฝรั่งหน้าตาดีจากประเทศเยอรมัน“มอนด์-นพรุจ แก่นดี”และแฟนหนุ่ม“ทอร์สตัน”  ซึ่งกลายเป็นกระแสฮือฮากับภาพที่ถูกแอบถ่ายระหว่างนั่งบนรถไฟฟ้าBTSจนทำกระทบความรู้สึกของทั้งคู่กับการวิจารณ์อย่างสนุกปากของผู้คนในโลกออนไลน์ แถมยังมีสื่อออนไลน์ทั้งประเทศไทยและต่างประเทศมากมายลงตีข่าวของทั้งคู่ทั้งแง่ดีและแง่ลบ จิกกัดแกมหยอกหรือตีแผ่ข้อมูลแบบผิดๆจนเจ้าตัวจำต้องเลือกรายการสักหนึ่งรายการเพื่อขอเคลียร์ข่าวและระบายทุกความอึดอัดใจที่อดทนกับกระแสต่างๆที่กล่าวถึงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อยุติและเตือนสติเรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในประเทศไทย ตรงชัดทุกคำถามที่นี้ทีเดียวไปฟังกันเลย

“จริงๆม่อนทราบตอนเย็นวันศุกร์ แต่มันเคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้วโดนแอบถ่ายเหมือนกัน ก็เลยบอกกับแฟนว่าช่างมันเถอะ ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งไปนั่งดื่มในร้านๆหนึ่ง มีคนวิ่งแห่มาขอถ่ายรูป ก็เลยคิดว่ามันน่าจะไปกันใหญ่แล้ว เขาก็เลยเปิดรูปต่างๆให้ดู ตอนนั้นมันโดนแชร์ไปถึงฟิลิปปินส์ละ เว็ปไซต์ชื่อดังอะไรสักอย่าง เขาเริ่มมีอีเมลล์เชิญไปออกรายการหนึ่ง”

“ใช่มี 3-4 รายการที่ฟิลิปปินส์ ก็เริ่มเช็คข้อความ เช็คอะไรต่างๆมาเรื่อยๆ ก็เริ่มกังวลแต่ก็ไม่ได้เครียดแบบว่าไม่ไหว กินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่คือเรากลัวว่ามันจะผลกระทบอะไรรึเปล่ามากกว่า”

“เขาก็ให้ทำ Video conference ไป เพราะตอนนั้นแฟนเขาไปทำธุรกิจที่อีกประเทศหนึ่ง ไม่ใช่เยอรมันเพราะถ้าเยอรมันเราสามารถดีลอย่างนั้นได้ อยู่ที่อื่นมันติดต่อยาก ก็เลยคิดว่าต้องข้ามไป แล้วก่อนหน้านี้มอนด์กับแฟนไม่พร้อมด้วย อย่างที่ออกมาในวันนี้ก็ปรึกษากันก่อนว่าควรมามั้ย แต่ที่ออกมานี้ไม่ได้จะมาต่อยอดความดังทั้งนั้น แต่คือข้อมูลที่ออกไปมันผิดทั้งหมดเลย เขาบอกว่าเขาสัมภาษณ์กับเราอะไรเงี้ย แต่จริงๆเราไม่เคยคุยกับใครเลย เคยคุยเมื่อวันก่อนที่หนึ่ง แล้วก็ที่นี่เป็นที่ที่สอง นอกนั้นไม่เคยคุยกับอื่นเลย มีกับพี่แจ๊คอันนั้นก็แค่คลิป 1นาที ไม่ได้มีรายละเอียดอะไร”

“อย่างชื่อของมอนด์ก็เป็นนามสกุลแก่นดี สะกด Kaendi ปกติทำอย่างนั้นมานานมากแล้ว แล้วก็ยังไม่ได้แต่งงาน แล้วก็แฟนไม่ได้เป็นนายแบบ มอนด์ก็ไม่ได้มีอาชีพหากินอยู่ที่เยอรมัน ก็อยู่ที่นี่แต่บินไปบินมาบ่อยไปหากันนั่นแหละครับ เพราะว่าเขาเพิ่งเรียนจบเพิ่งได้งานทำ เขาก็ไม่มีเงินมอนด์ก็ไม่ค่อยมีเหมือนกัน ก็เลยตกลงว่าต้องสลับกันนะ”

“เขาเป็น Sale engineer ขายเครื่องจักรอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเกษตร”

“ก็คิดอย่างนั้นก่อนว่าทำไมมาด่าทั้งที่ไม่รู้จักเรา แต่ว่าก็ชินน่ะครับคือโดนคนมองมาตลอดต่อให้คบกับแฟนคนเก่าหรืออยู่กับเพื่อนในกลุ่มที่เป็นฝรั่งทั้งหมด ก็จะโดนมองไม่ดีอยู่แล้วคือเรารู้อยู่แล้วแต่ในเมื่อเรารู้ว่าเขาว่าเราในใจมันก็ยังโอเค คือดีกว่ามาเห็นว่าเขียนด่าไรงี้มันก็ค่อนข้างยากนิดนึง แต่ว่าไม่ได้เครียดจนแบบทำอะไรไม่ได้ไม่ใช่อย่างนั้น บางสื่อก็บอกคุณมอนด์ล้มป่วยไปก็ไม่ใช่คือป่วยปกติเพราะเดือนนี้ก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันมาตลอด นอนไม่ค่อยพอ”

“จริงๆก่อนเขาบินกลับก็คุยกันนะ เขาบินกลับวันเสาร์ ก็คือคุยกันบอกเบฟ(คำเรียกแฟน)หรือว่าฉันหน้าตาแย่มากจริงๆ เขาก็ตอบกลับมาขำๆว่า ถ้าหน้าตาคุณแย่มากคุณจะได้แฟนหล่อเหรอ เราก็ขำๆกันคือเวลาเราพูดแบบนี้กับคนอื่นที่ไม่รู้จักเขาก็จะหมั่นไส้ แต่คือถ้าเพื่อนมอนด์หรือคนรู้จักมอนด์จะรู้ว่ามอนด์แบบขำๆ คือไม่ได้ซีเรียสอะไร คืออย่างล่าสุดที่ชี้แจงว่าแฟนเราชอบเราที่หน้าตานะ เพื่อนก็จะขำหรือคนทั่วไปก็จะขำ แต่ว่าก็จะคนเอาไปแชร์เอาไปด่า ตอนแรกเห็นใจแต่พอมาบอกแบบนี้ก็มั่นหน้าไปอีก เราก็เลยไม่พูดอะไรแล้วดีกว่าเงียบๆไป สุดท้ายแล้วก็เลยมาตัดสินใจว่าลองออกมาพูดบ้างมั้ย ทีแรกมอนด์คิดว่าเดี๋ยววันจันทร์มันก็จบเพราะว่าครั้งปีที่แล้วมันเป็นอย่างนั้น ปรากฏว่ามันไม่จบก็เลยคุยกันว่าเอายังไงดี เลือกสักรายการมั้ย เพราะรายการติดต่อเข้ามาเยอะมาก ก็เลยเลือกสักรายการหนึ่งเอาที่แบบไม่แรงมากกลัวว่าจะมานั่งด่าเราอีก ก็เลยคิดว่าน่าจะมาที่นี่แหละ ที่จะอธิบายให้คนอื่นได้เข้าใจหน่อย”

“Attitude อังกฤษ Instinct อังกฤษ แล้วก็มีสื่อของฝรั่งเศสของแมกกาซีนเตตู แล้วก็ลงสำนักข่าวบราซิลเป็นเรื่องเป็นราวนะ ฟิลิปปินส์ดังไปแล้ว คือมอนด์รับโทรศัพท์ไม่หยุดเลยเมื่อวานน่ะ คือเขาบอกเรียกค่าตัวมาเลย ซึ่งมอนด์ไม่รู้ว่าเราทำอาชีพนี้กับนางแบบ ถ้าเชิญนางแบบนายแบบไปออกรายการเราคิดราคาได้ถูกมั้ย แต่ตัวเองไปออก จะไปเรียกราคาเขายังไง ถ้าไปออกแบบไปคุยกันดีกว่า แล้วมอนด์คิดว่ามันไม่ใช่ดังในแง่ดี มันเป็นเรื่องที่เราโดนด่า แล้วมอนด์คิดว่ามันไม่สนุกด้วย ความดังของเรามันไม่สนุก”

“คือแฟนมอนด์มาประเทศไทยเรื่อยๆอยู่แล้ว เราระวังตัวตลอดนะอย่างที่บอกเราห้ามเค้าไม่ได้เราก็ต้องระวังตัว คือเวลาเราพูดแบบนี้ไปคนก็หาว่าเราไม่ได้เป็นดารานะทำไมต้องมาพูดอย่างงั้นอย่างงี้ จริงๆแล้วไม่ใช่ จริงๆก่อนหน้านี้คนก็มองเยอะอยู่แล้ว เราก็เลยระวังตัวไม่อยากให้คนมาเข้าใจผิดว่าเราเป็นแบบนั้นแบบนี้ ก็อยากจะบอกคนที่ชอบทำแบบนี้ว่าอย่าทำเลย คือมอนด์บอกกับไทยรัฐไปเมื่อวานนี้ว่ามันมีเพจพวกแอบถ่ายแบบนี้เยอะ คนนี้หน้าตาดี คนนี้หน้าแย่ คนนี้แต่งตัวแปลก หรืออะไรแบบเนี๊ย คนถ่ายคงคิดว่ามันตลกดีแค่นั้นแหละ แต่เค้าไม่รู้หรอกว่าเวลาเอาไปลงโซเชียลแล้วมันจะถูกแชร์ถูกแบ่งปันไปยังไง ตอนนี้มันน่ากลุ้มใจมากกว่า คือมอนด์กลัวผลกระทบต่อเรื่องงานของแฟนมอนด์อย่างเดียว เพราะข่าวมันก็ไปยุโรปแล้ว”

“ณ ตอนนี้มอนด์ถามเค้าตลอด เค้าก็บอกว่ายังนะตอนนี้ยังโอเคอยู่ เค้าพึ่งบินกลับไปแค่วันเดียวเค้าก็ต้องบินไปประเทศอื่นต่อเพื่อไปทำงาน ยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับคนในออฟฟิศเค้า แต่มอนด์เกรงว่าถ้าเจอกันแล้วมันจะเป็นยังไงเราก็กังวลแทนแต่เค้าก็บอกว่าใจเย็นๆนะไม่เป็นไร แต่ก็ไม่ได้เครียดขนาดที่กินไม่ได้นอนไม่หลับนะยังโอเคยังไหวอยู่”

“ยังไม่เห็นครับ”

“คือจริงๆเพื่อนมอนด์เป็นทนายหลายคนนะ เค้าก็บอกให้ฟ้องเหมือนให้เชือดไก่ให้ลิงดู คือมอนด์เห็นใจเค้านะ คือพูดจริงๆไม่ได้เหน็บแนมหรือด่าเค้านะ เริ่มแรกเลยเค้าคงรู้สึกว่าเอ๊ะอินี่ทำไมมีแฟนหน้าตาดีทั้งที่ตัวเองก็ไม่สวยอะไรแบบเนี๊ย อย่างโพสต์แรกที่เห็นเค้าก็โพสต์แบบนี้แต่มอนด์ก็รู้สึกแบบว่ามันก็เป็นทัศนะคติของเค้าอะ ก็คิดแค่ว่าช่างเค้าเหอะ ณ วันนี้คงยังไม่ฟ้องแต่ถ้าทนไม่ไหวถ้ามีผลกระทบต่อตัวเราเยอะเราก็อาจจะทำอะไรบางอย่างแต่ไม่ได้ขู่นะ (หัวเราะ) ตอนนี้คือมันยังไม่ได้มีผลกระทบต่อเรามากแต่ถ้ามันมีปัญหาเข้ามาก็อาจจะต้องคุยกัน เพราะเพื่อนแคปเจอร์ไว้หมดแต่มอนด์ไม่เก็บเลยเพราะไม่ได้ไปเสาะหาคือถ้าเปิดขึ้นมาแล้วเห็นก็อ่านแต่ไม่ได้ไปเซิร์สหาอะไรทั้งนั้น ”

“ไม่ใช่ฮะ มันคือกำหนดการวันกลับของเค้าอยู่แล้ววันเสาร์เย็น คือมีรายการมาเสนอให้นะว่าให้อยู่ต่อแล้วเดี๋ยวซื้อตั๋วให้ใหม่คือเป็นรายการสดเช้าวันรุ่งขึ้นเลย ก็คือคุยกันแต่ตอนนั้นอะยังไม่พร้อม ส่วนเรื่องตั๋วก็ไม่สะดวกเพราะเค้าต้องบินไปประเทศอื่นต่อ ก็เลยคิดว่ามันจัดการเวลาไม่ได้คือไม่ได้โกรธนะไม่ได้ไม่พอใจ คือเค้าก็ไม่ได้แฮปปี้หรอกแต่ก็ไม่ถึงขั้นโกรธไม่พอใจ เราสองคนก็ไม่ได้รู้สึกโกรธแค้น แค่รู้สึกไม่พอใจที่เค้ามาละเมิดเราไม่ได้รู้สึกโกรธแค้นหรือเกลียดชังหรือโมโหอะไรรุนแรง”

“2ปีกว่าๆ เพราะเจอกันประมาณตุลาฯ ก็ประมาณ2ปีครึ่งฮะ”

“ใช่ คือวันศุกร์วันที่เกิดขึ้นเย็นวันนั้นคือเราเดินทางไปร้านอาหารพอถึงร้านปุ๊ป มอนด์ก็ปิดเครื่องก็ทานข้าวปกติแล้วเค้าก็ขอแต่งงานเค้าก็สวมแหวนให้เรา พอเปิดเครื่องมาเราก็กำลังจะยินดีกันเลยนะแล้วก็ต้องมาเจอแบบเนี๊ย ก็มีเป็นสิบสายเลยที่เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นคือเป็นรายการโทรมา แพลนจะแต่งงานก็คุยกันไว้แล้วก็อาจจะเป็นสิงหาฯนี้แต่ยังไม่มีหน้างานนะคือจะไปแต่งกันที่นู๊นตามกฏหมาย แต่ว่างานอะคุยกันไว้เป็นสิงหาฯปีหน้าที่บ้านเกิดมอนด์จังหวัดสุรินทร์”

“จัดที่ไทยครับ เพราะว่าที่เยอรมันคงจัดเป็นเล็กๆแบบครอบครัวและเพื่อนสนิทเพราะว่ามอนด์ก็มีเพื่อนที่นั่นค่อนข้างเยอะแล้วและครอบครัวของแฟนเค้าดีกับเรามากเพราะเราคบกันมานานแล้ว”

“ย้ายครับ ณ ตอนนี้คิดว่าย้ายนะแต่อยู่ที่เอกสารด้วยแหละว่าจะผ่านรึเปล่า คือทั้งหมดขึ้นอยู่กับเอกสารเลย”

“คือบางอย่างเราก็ห้ามเค้าไม่ได้หรอกแต่อยากให้คิดลึกๆนิดนึงก่อนถ่ายว่าภาพที่ออกมามันจะเป็นยังไง คือตัวเองอาจจะคิดดีเห็นเป็นของสวยของงาม แต่พอมันออกสู่สาธารณะแล้วอะไรที่มันต่อยอดออกไปมันมีผลกระทบ มอนด์อยากให้คิดลึกๆนิดนึงก่อนถ่าย คือถ้าเป็นเพื่อนกันหรือแบบเด็กสมัยนี้ที่เค้าถ่ายแบบเห็นหน้าอกแต่เป็นการถ่ายเองมันก็อีกเรื่องนึง แต่มอนด์ไม่ได้ถ่ายเองไงฮะคือห่วงใยเรื่องการละเมิดมากกว่า อย่างมันมีเพจนึงชื่อเพจ “Contrast” มันทำให้ม่อนใจชื้นขึ้นมาที่เค้าไม่ได้แทคอะไรถึงม่อนในเฟสบุคเลยนะ แต่เค้าทำของเค้าเองเพราะว่าทีมงานของเค้าเห็นว่าเรื่องการละเมิดแบบนี้เป็นสิ่งสำคัญ เค้าก็ทำขึ้นมาเองแล้วเพื่อนมอนด์ก็ส่งมาให้มอนด์ดู มอนด์ก็ไปกดไลค์แล้วก็คอมเม้นท์ขอบคุณครับ ทางเค้าก็ไม่คิดว่ามอนด์จะไปอ่านเจออะไรแบบนี้ คือเป็นความคิดของเค้าว่าอย่าไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของคนอื่นฮะ คือมอนด์ไม่ใช่ดารามอนด์ไม่ชินหรอกเรื่องแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกว่าดังมากไม่ใช่ชมพู่ไม่ใช่อั้ม จะปล่อยวางมันก็ปล่อยไม่ได้ซะทีเดียวเพราะมันไม่ใช่อาชีพเราที่ต้องมานั่งปล่อยวางเรื่องแบบนี้ อยากให้เค้าระวัง อยากให้เค้าคิดลึกมากกว่านี้ฮะ”