‘พี่บอย’ ลาแล้ว!โซเชี่ยล! สืบเนื่องดราม่า ’ปิดเน็ต10ปี’...

หลังจากอยู่ๆ ’บอย โกสิยพงษ์’นักร้อง และ นักแต่งเพลง เจ้าของฉายา’เจ้าพ่อเพลงรัก’ ลุกขึ้นมาอัพข้อความว่า 

‘"หลายๆ ทีผมก็ชอบคิดว่า ถ้าประเทศเราหยุดการให้บริการด้านอินเตอร์เน็ทนี่จะดีไหมหนอ เหตุผลของผมก็คือ1)ตั้งแต่มีการเปิดให้พูดอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัว (หรือเปิดก็ตาม) ผมรู้สึกได้ถึงความดุดัน เกรี้ยวกราด หยาบคาย เคียดแค้น ชิงชังเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ บางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องที่เล็กๆ ถ้าเกิดขึ้นก่อนยุคอินเตอร์เน็ท แต่พอมีการแชร์ การวิจารณ์ในมุมมองๆ ต่างก็เกิดขึ้น ที่วิจารณ์อย่างใจเป็นธรรมก็มี และที่วิจารณ์อย่างเน้นเอาสะใจก็มาก ทำให้เกิดการเห็นต่างแบบรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็นความเกลียดชังฝ่ายที่คิดต่าง เป็นต้น 2)การเผยแพร่เรื่องและภาพและเสียงที่ไม่เหมาะสม กลายเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ง่ายๆ โดยไม่จำกัดวัยวุฒิและคุณวุฒิ ไม่เว้นแม้กระทั่งสื่อหลักๆ มากมาย จนดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่าเอาอย่างมากกว่าน่าจะเก็บไว้ส่วนตัว สำหรับผม 2 ข้อนี้คือข้อหลักๆ ที่อยากจะให้มีการปิดอินเตอร์เน็ทกันทั้งประเทศสัก 10 ปี ..."’

จนกลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนฉ่า! ไปทั่วโลกออนไลน์ ไปเมื่อวานที่ผ่านมา(6 เมษายน 2015) 

อัพเดตล่าสุด ‘พี่บอย’ ก็ อัพข้อความใน facebook อีกครั้ง ระบุว่า ไม่ได้มีเจตนา ให้ตีความลักษณะ นั้น และเพื่อรับผิดชอบกับข้อความดังกล่าว ทำให้ พี่บอย ประกาศ ว่า จะเลิกเล่น โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คชั่วคราว

หลังจากที่ผมแสดงความคิดเห็นว่า(เพราะดันไปอ่านข้อมูลที่คนด่ากันไปกันมาเรื่องโน้นนี้(ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองเลยรับรองแต่เห็นมีคนโยง)มาเมื่อวานจนรู้สึกจิตตก)แบบชวนเพื่อนในเฟสบุ๊คมาถกกันสนุกๆว่าให้ปิดอินเตอร์เน็ทในประเทศสักสิบปีเพื่อการเกลียดชังผู้มีความคิดเห็นต่างได้ลดเบาบางลงไหม(ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้)โดยอยากจะรู้ว่าคนอายุเท่าไรจะคิดอย่างไรบ้าง(โดยเฉพาะวัยอย่างผม)น่าจะสนุกดีที่ได้พูดคุยกัน แต่หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงกลับมีคนเข้ามาร่วมพูดคุยกันอย่างเยอะมาก และหลายความเห็นก็ดูจริงจังและรุนแรงแถงยังโยงไปเรื่องการเมืองอีก และดูเหมือนจะกลับกลายเป็นประเด็นอย่างกว้างขวางเว่อร์ในเวลาอันสั้น ผมจึงได้ลบข้อความเหล่านั้นออกจากเฟสบุ๊ค และได้สำนึกว่าเราจะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งโลกให้เข้ากับเราไม่ได้ แต่น่าจะเปลี่ยนแปลงใจของเราให้เข้าใจโลกน่าจะดีกว่า

แทนที่จะปิดกันผู้อื่นเราน่าจะจำกัดที่ใจเราว่าจะรับข่าวสารประเภทใดให้จิตใจเราไม่ไปอ่อนไหวตามกระแสมากกว่า เลยคิดว่าจะลองปิดตัวเองจากสื่อsocial media ต่างๆดูสักระยะนึง ถ้ารู้สึกดีขึ้นหรือเลวลงก็จะกลับมาเล่าให้ฟังเป็นระยะๆนะครับ

อย่างไรเสียผมต้องขออภัยถ้าผมได้แสดงความคิดเห็นที่เห็นแก่ตัวของผมออกไปด้วยครับ ต่อไปนี้จะระวังความคิดและการโพสต์ให้มากขึ้นฮะ

ด้วยรักครับ

ช่วงนี้ถ้ามีอะไรก็ติดต่อผมทางโทรศัพท์นะครับ ช่วงแรกผมจะลองหยุดใช้ social media สักเดือนนึงดูว่าไหวไหม เพราะส่วนตัวแล้วก็ติดมันงอมแงมเหมือนกัน:)

ขอบพระคุณครับ’