คุณแชน เจ้าของแบรนด์ DVIS โพสต์น้อยใจถึงละคร บางระจัน

คุณแชน เจ้าของแบรนด์ DVIS โพสต์น้อยใจถึง"ละคร บางระจัน"

กลายเป็นประเด็นอีกแล้ว เพราะล่าสุด คุณแชน เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า DVIS เกิดอาการน้อยใจผู้จัดละครเรื่อง บางระจัน ที่ไม่ยอมให้เครดิตตอนท้ายเรื่อง จนต้องออกมาโพสเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า

น้อยใจบางระจัน......คนที่ไม่สำคัญ

ก่อนหน้านี้คิดอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีมั้ย แต่พอวันเวลายิ่งผ่านไปเลยคิดว่าตัดสินใจเขียน อย่างน้อยก็ขอได้ระบายบ้าง

เรื่องมีอยู่ว่า……..
ทางบริษัทผู้ผลิตละครเรื่องนี้ได้พูดคุยและติดต่อให้ตนเองเป็นผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายและทำเสื้อผ้าในละครเรื่องบางระจันที่กำลังฉายอยู่ในขณะนี้ ตั้งแต่กลางปี 2556 ความที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการทำละครฟอร์มยักษ์ขนาดนี้ เราก็ดีใจ ทำการบ้าน อ่านบท วางคาแรกเตอร์ตัวละคร จนผ่านการฟิตติ้ง ออกมาเป็นอย่างที่เห็นในละคร แต่เนื่องจากเป็นละครที่มีผู้แสดงจำนวนมาก การฟิตติ้งจึงแบ่งออกเป็นหลายช่วง คือ ช่วงแรกจะฟิตติ้งพระนางรวมถึงตัวละครหลักทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายพม่าบางส่วนเพื่อให้สามารถเปิดกล้องถ่ายทำและบวงสรวงได้ และก็สามารถผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ เมื่อถ่ายทำไปได้สักระยะ เนื่องจากมีปัญหาภายในทีมเสื้อผ้า ในฐานะที่ตนเองเป็นหัวหน้าทีมทั้งหมดจึงรับผิดชอบด้วยการยุติบทบาทตนเองออกจากการถ่ายทำและมีทีมใหม่เข้ามาสานงานต่อจนจบเรื่อง

ความน้อยใจเรื่องแรกที่เกิดขึ้น คือ ในวันแถลงข่าวรอบสื่อมวลชนที่สยามพารากอน ทางทีมงานก็ไม่ได้แจ้งข่าวหรือติดต่อให้ไปร่วมงานครั้งนั้นเลย ส่วนตัวได้สอบถามไปทางผู้ใกล้ชิดผู้บริหารบริษัทผู้ผลิต ก็ไม่มีใครตอบได้ว่าจะได้ไปร่วมงานหรือไม่ จนกระทั่งฝ่ายการตลาดของสถานีได้มีจดหมายเชิญเข้าร่วมงาน จึงได้มีโอกาสไปชื่นชมความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้ 

ในใจยังคิดเสมอว่า ตนเองแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ยังรักและเคารพทางผู้ใหญ่ของบริษัท เพราะเมื่อครั้งที่ตนเองจัดแฟชั่นโชว์ที่ผ่านมา ท่านก็ยังให้เกียรติสละเวลามาร่วมงานแสดงความยินดี และตนเองก็คิดว่าหากมีโอกาสได้ทำงานร่วมกันอีกก็ยังยินดีเสมอ เรื่องเก่าผ่านไป เรื่องใหม่ดีๆก็มาเจอกันอีกได้ แต่ลึกๆในใจก็ยังคิดว่าทางทีมงานเค้าจะขึ้นชื่อเครดิตให้ตนเองมั้ยหรือไม่ อย่างไร ไม่มีใครตอบได้ และก่อนละครออกอากาศก็ไม่มีใครในทีมงานแจ้งหรือพูดคุยเจรจาใดๆ ต้องรอดูวันที่ละครออกอากาศ

สิ่งแรกที่เกิดขึ้นในความรู้สึกที่เห็นวันแรกของการออกอากาศคือ ละครเรื่องนี้ยิ่งใหญ่มาก ทีมงานทุกคนทุ่มเททำงานกันมากมายกว่าจะสำเร็จออกมาอย่างที่เห็น ชื่นชมไปไม่ได้คิดอะไร จนละครจบ...... ไม่มีชื่อตนเองในเครดิตเลยแม้แต่ตัวอักษรเดียว ลำพังตนเองไม่คิดเท่าไหร่ มีแต่ความรู้สึกน้อยใจว่า ตนเองเป็นคนวางรากฐานมาตั้งแต่ต้น ตัวละครที่โลดแล่นก็มาจากคาแรกเตอร์ที่วางไว้ให้ ชุดต่างๆ ผ้าชิ้นต่างๆ ก็จัดหา จัดทำให้ แต่ทำไมไม่มีใครเห็นคุณค่าของตนเองบ้างเลยเหรอ มัวแต่ชื่นชมปรบมือให้กับคนอื่น แต่ตนเองกลับถูกลืม น้อยใจคิดอยู่ไม่นานคืนนั้นก็มีโทรศัพท์จากคนรอบข้างมากมายถามถึงชื่อเครดิตที่หายไป และบอกถึงเหตุผลต่างๆที่ควรเรียกร้องทวงถามสิทธิ์ในผลงานชิ้นนี้ อย่างน้อยมันก็คือ ทรัพย์สินทางปัญญาที่ก่อเกิดมาจากความคิดของเราที่ปฏิเสธไม่ได้ เส้นของคาแรกเตอร์ โทนสี การนุ่งห่ม ทรงผม เครื่องประดับต่างๆที่เคยกำหนดไว้ ยังถูกนำมาใช้ แม้ว่าช่วงหลังจะมีการปรับเปลี่ยนบ้าง แต่ก็ยังคงอยู่บนเส้นเดิมของการทำงาน

ตนเองสอบถามไปทางผู้ควบคุมการผลิต คำตอบที่ได้ ฟังแล้วเหมือนตนเองเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ไปขอเค้ามีส่วนร่วม ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ 1. ตนเองมาทำในช่วงต้นไม่นาน แล้วมีทีมใหม่มาทำงานต่อจนจบ ซึ่งมีระยะเวลาในการถ่ายทำนาน 2.เกรงใจทางคนใหม่ที่มาทำต่อ เพราะเค้าทำเยอะ จนไม่กล้าขึ้นชื่อในฐานะเป็นผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมกัน และ 3. ถ้าจะขึ้นจริงๆ จะขอให้ขึ้นในตำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่กระทบต่อตำแหน่งออกแบบเครื่องแต่งกาย ฟังแล้วใจหาย ฟังแล้วน้อยใจ ฟังแล้วเหนื่อยกับสิ่งที่เคยทำ ฟังแล้วเหมือนว่าตนเองเป็นเสมือนตัวอะไรสักอย่าง ซึ่งถ้าไม่ทวงถามก็จะปล่อยผ่านเลยไป ด้วยความสงสัยจึงสอบถามคนรอบข้างมากมายทั้งที่ทำงานในสายเดียวกันและต่างอาชีพ ทุกคนลงความเห็นว่าควรจะขอให้ขึ้นในตำแหน่งที่เรารับทำตั้งแต่แรกคือ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ในฐานะที่เป็นผู้วางรากฐานมา เป็นผู้คิดริเริ่มมา เป็นผู้ก่อตั้งมา ไม่สมควรจะดัดแปลงไปสู่ตำแหน่งอื่น อีกทั้งผลงานที่เคยวางไว้นั้นก็ถูกนำมาใช้ทั้งหมด ถึงแม้ระยะเวลาทำงานจะไม่มากหรือระยะเวลาในการถ่ายทำจะยาวนานแค่ไหน แต่เมื่อละครออกอากาศแล้ว ละครก็ยังถูกตัดต่อนับเป็นตอนออกอากาศตามบทละคร ตัวละครที่เคยฟิตติ้งไว้ ยังคงสวมใส่เสื้อผ้าที่เราออกแบบหรือคาแรกเตอร์หลายตัวละครก็ยังคงเป็นไปตามที่เคยสร้างไว้ จึงได้ตอบกลับเหตุผลเหล่านี้ไปทางผู้ควบคุมการผลิตอีกครั้ง

ครั้งนี้ทางผู้ควบคุมได้แจ้งกลับมาว่า ได้คุยกับทางผู้ใหญ่แล้ว และเห็นสมควรว่าจะขึ้นให้ว่า เป็นตำแหน่ง “วางโครงเสื้อผ้าช่วงต้น “ และจะขึ้นให้ 4 เทปออกอากาศ ตนเองต้องขอขอบคุณทางผู้ใหญ่ที่กรุณามองเห็นในงานที่ทำ แต่ตนเองก็ได้แย้งกลับไปอีกครั้ง ด้วยเหตุผลเดิมที่เคยแจ้ง ไม่ได้ดื้อรั้นอยากจะมีหน้ามีตา แต่เพื่อความถูกต้องของงานที่ทำไป ตนเองไม่เกี่ยงหากจะขึ้นชื่อเป็นลำดับที่สองรองจากคนที่มาทำใหม่ ทั้งที่เพื่อนบางคนให้ข้อคิดว่า ถ้าเป็นการทำงานในต่างประเทศ เค้าจะมองและให้เกียรติคนมาก่อนเสมอ เพราะคนนั้นคือคนที่สร้างมาก่อน แล้วคนใหม่ที่มาคือมาเดินทำงานต่อ ลำพังเท่าที่คิดได้ คือ จะขึ้นก่อนขึ้นหลัง เราไม่ว่าอะไร กลับชื่นชมคนที่มาทำงานต่อด้วยซ้ำว่าเค้าเก่งที่สามารถคงเส้นที่เราวางไว้ได้ อีกทั้งยังสามารถดัดแปลงต่อเติมให้สวยงามเหมาะสมขึ้นไปอีก มันคือการทำงานที่เป็นทีมจริงๆไม่ได้แย่งชิงหรือเบียดบังเอาหน้า เอาผลงานคนอื่นมาเป็นของตน หรือดิสเครดิตคนอื่นเพื่อผลงานของตนเอง อันนี้ชื่นชมจากใจ เจรจาต่อรองจนมาถึงบทสรุปใหม่จากทางบริษัทฯว่าจะยืนยันขึ้นตำแหน่งที่บอกให้ แต่จะขึ้นให้ไปตั้งแต่ตอนที่ 10 เป็นต้นไป จนจบเรื่อง

ถึงตอนนี้คิดแต่เพียงว่าจะขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ไม่เป็นไร ถ้าขึ้นก็ขอขึ้นในงานตำแหน่งที่ทำคือ ออกแบบเครื่องแต่งกาย ไม่ใช่ตำแหน่งที่ตั้งขึ้นใหม่เพื่อหลีกทางให้เกีรยติแก่อีกคน ขึ้นชื่อเพิ่มเพียงหนึ่งบรรทัด กับการที่ต้องมาคิดค้นหาตำแหน่งใหม่ เพิ่มอีกสองบรรทัด ถ้ามันต้องวุ่นวายเดือดร้อนมาก ก็ไม่เป็นไร เก็บความน้อยเนื้อต่ำใจไว้คนเดียวได้
ส่วนตัวไม่ได้อยากจะมาโอ้อวดว่าตนเองเป็นคนทำ เป็นคนออกแบบ ละครเรื่องนี้อะไรหรอก แค่อยากจะบอกว่า ตอนที่ทำก็ทำให้เต็มที่ คิดให้ดีที่สุด เมื่อผลงานออกมา ในฐานะคนที่เคยเป็นส่วนหนึ่งก็อยากจะมีชื่อเป็นเครดิตในการทำงานเหมือนกับคนอื่นๆบ้าง เอาเก็บไว้ดูในภายหน้าว่า ครั้งหนึ่งของละครฟอร์มยิ่งใหญ่ระดับนี้ คนตัวเล็กๆอย่างตนก็เคยเป็นหนึ่งในทีมงานที่สร้างสรรค์เนรมิตให้ตัวละครออกมาโลดแล่น ได้เคยใช้ความรู้ความสามารถที่มีกลั่นกรองออกแบบในละครอิงประวัติศาสตร์ของประเทศได้ กี่เที่ยวที่ต้องเดินทาง กี่ครั้งที่ต้องอดนอน กี่ครั้งที่ต้องแบกต้องหาม กี่ครั้งที่ต้องต้มน้ำย้อมผ้าจุ่มขึ้นจุ่มลง บอกตรงๆว่า มันหายเหนื่อยนะ มันหายโกรธนะ มันชื่นใจนะ เวลาที่นั่งดูผลงานของตนเองในละครที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้

แต่ทุกครั้งที่ดูแล้วไม่เห็นชื่อตนเองก็ถามตนเองว่า “นี่เรามันไม่มีค่า ไม่มีเกียรติมากพอที่คู่ควรกับละครเรื่องนี้เลยจริงๆเหรอเนี่ย” .....ก็แค่น้อยใจนะ
ข้อคิดที่ฝากไว้คือ ตึกจะสูงสง่าตระการตาขนาดไหน ใช่แต่ชื่นชมคนออกแบบตกแต่งทาสีให้สวยงาม คนที่ฝังรากวางฐานไว้นั่นเค้าก็คือคนสร้างตึกนี้ด้วยเหมือนกัน

อีกทั้งเมื่อคุณแชนโพสต์ไปก็มีเหล่าบรรดาแฟนคลับต่างคอมเม้นท์มาให้กำลังใจมากมาย

คุณแชน เจ้าของแบรนด์ DVIS โพสต์น้อยใจถึงละคร บางระจัน


คุณแชน เจ้าของแบรนด์ DVIS โพสต์น้อยใจถึงละคร บางระจัน


คุณแชน เจ้าของแบรนด์ DVIS โพสต์น้อยใจถึงละคร บางระจัน


คุณแชน เจ้าของแบรนด์ DVIS โพสต์น้อยใจถึงละคร บางระจัน


คุณแชน เจ้าของแบรนด์ DVIS โพสต์น้อยใจถึงละคร บางระจัน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์