‘เอ-อัญชลี’ ร่ำไห้-ยื้อถึงที่สุดไม่ให้รักล่ม

 หลังมาร่วมเดินแฟชั่นโชว์ในงาน “Flora in the City @ CentralPlaza Pinklao” ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า สองพี่น้อง โย-ยศวดี และ เอ-อัญชลี หัสดีวิจิตร ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กรณี เอ-อัญชลี มีข่าวเตียงหักกับผู้กำกับโฆษณา มด-ฉัตรชัย โดย เอ เผยถึงเรื่องนี้ว่า

 “จากที่มีข่าวออกไป เอยอมรับว่าเรื่องของเรามันเป็นเรื่องที่อ่อนไหวสำหรับการใช้ชีวิตคู่ และยากมากที่จะอธิบายถึงชีวิตคนสองคนได้ ซึ่งตอนนี้เรายอมรับว่าอาจอยู่ในภาวะที่เรามีปัญหากันจริง แต่เราก็พยายามทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น”

 “ยังไม่มีการจดทะเบียนหย่า ซึ่งจะหย่าไหมก็ขอเป็นเรื่องของอนาคต คือ จริงๆ ทุกวันนี้เอ (เสียงสั่น) พร้อมที่จะมีครอบครัว แล้วคุณมดก็เป็นผู้ชายที่ดี แต่อย่างที่ทราบกันว่าเอมีหน้าที่ต้องดูแลลูก ชีวิตเอเกินครึ่งมีเอวี่ติดมาด้วย แล้วงานเรามันก็ไม่เป็นเวลา แล้วเราทำงานหนักทั้งคู่ มันอาจจะมีเวลาที่ไม่ตรงกัน เออาจดูแลพี่มดได้ไม่ดีพอ มันอาจจะเป็นความผิดพลาดของเอ ซึ่งเราก็พยายามที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น เรียกว่าพยายามประคับประคองก็ได้”

 “ซึ่งนอกจากเรื่องเวลาแล้ว เรื่องทัศนคติของเราก็ไม่ตรงกันด้วย จนมันเป็นปัญหาที่สะสมมานานพอสมควร แต่จนถึงตอนนี้ เอก็คิดว่ายังต้องทำหน้าที่ที่ต้องดูแลลูกให้ดีที่สุด เอคงต้องโฟกัสไปที่ลูกให้มากที่สุด”

 จะเป็นการปิดฉากรักไหม “ก็ขอเป็นเรื่องอนาคต ตอนนี้เอยังไม่อยากให้ครอบครัวพังทลาย เรายังอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ส่วนโอกาสที่จะกลับมาเหมือนเดิม ยังไม่รู้จริงๆ จะเรียกว่ายื้อหรือเปล่า ก็ถ้าสำหรับเอก็คงยื้อเพื่อทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น”

 เรื่องนี้ใครเป็นคนผิด “เอไม่โทษว่าใครผิด จริงๆ มันอาจจะเป็นความผิดพลาดของเราเอง ที่ดูแลพี่มดได้ไม่ดีพอ ทำหน้าที่ภรรยาบกพร่อง เพราะส่วนหนึ่งเราก็ต้องดูแลลูก และไม่มีปัญหามือที่สามแน่นอน เป็นเรื่องเวลาและทัศนคติจริงๆ”

 “ส่วนที่หลายคนบอกว่าเป็นเพราะเอตัดสินใจแต่งงานเร็วเกินไปไหม คือพี่มดเป็นผู้ชายที่ดีและเอก็โชคดีที่ได้เจอเขา และอะไรทุกอย่างที่เกิดขึ้นเอว่าเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นแน่นอน เอยังรักพี่มดค่ะ (ร้องไห้) กับปัญหาที่ผ่านมาจริงๆ เอไม่เคยพูดหรือคุยกันเลยกว่า 4 เดือนแล้ว ซึ่งถ้าตอนนี้พี่มดดูอยู่ เออยากจะบอกว่า กว่าที่เราจะเจอกัน มันต้องใช้เวลากว่า 40 ปีเลยนะที่เอเกิดมา เราก็คิดว่าเวลา 2 ปีที่ผ่านมามันยังน้อยไปที่เราจะรู้จักกัน มันอาจจะมีอะไรที่ไม่ตรงกัน อาจจะมีอะไรที่ผิดพลาด แต่ถ้าคนเราจะรักกันจริง มันก็ต้องพร้อมที่จะจับมือแก้ปัญหาไปด้วยกัน”