แตงโม ผู้หญิงที่ผู้ชาย กลัว

หลังจากชีวิตของนางเอกสาววิก 7 สี

“แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ต้องเจอกับมรสุมชีวิตประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่ จนชื่อของเธอถูกถอดจากละคร "รักแท้แซ่บหลาย"เพราะหน้าเสียโฉมพังยับเยิน แต่ดูเหมือนตอนนี้นางเอกสาวจะกลับมา “สดใส” ได้อีกครั้งแล้ว

คงต้องบอกว่าชีวิตของเธออยู่ในช่วง “ฟ้าหลังฝน”

เพราะเธอกลับมาเรียก “เรทติ้ง” โชว์ความเซ็กซี่ ให้โหมกระพือขึ้นมาอีกครั้ง และหน่ำซ้ำยังกระฉ่อนไปทั่ววงการกับ “ความรัก” ที่ถูกจับตามองกับหนุ่มไฮโซ “ก้อง-กรุณ ซอโสตถิกุล” รวมทั้งข่าวคาวที่โผล่ออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

วันนี้ “ดาราเดลี่” เลยขออาสาล้วงลูกสาวคนนี้ ทั้งเรื่องงาน ความรัก และชีวิตส่วนตัว อย่างหมดเปลือกกันไปเลย



งานช่วงนี้มีอะไรบ้าง?

ช่วงนี้ก็ทำงานค่อนข้างเยอะมากเลยค่ะ แต่ก็ดี ดูวุ่นวาย เมื่อก่อนจะคิดว่าทำไมเหนื่อยจัง แต่หลังเกิดอุบัติเหตุพอเราได้นอนพักนานๆ แบบไม่มีอะไรทำพอได้ทำก็แฮปปี้ดี ชีวิตเริ่มวุ่นวายเหมือนเก่า ตอนนี้ถ่ายละครอยู่ 2 เรื่อง แต่เดือนหน้าจะมีของเป่าจินจง เรื่องมือที่ไกวเปล แต่คงยังไม่ได้เข้าไปฟิตติ้งเพราะคงยังไม่เริ่มถ่ายในเร็วๆ นี้ ต้องเล่นคู่กับ พี่นิว วงศกร

แต่เรื่องนี้ตอนแรกวางตัวไว้เป็น “จอย-ศิริลักษณ์” นะ?

ไม่รู้ว่าตอนแรกเค้าวางตัวใครไว้ แต่ตอนเล่นกาษนาคาได้ยินว่าเค้าจะทำเรื่องนี้ แต่เราไม่รู้ว่าใครบ้างที่จะมาเล่น ส่วนของโมเค้าเพิ่งจะถามคิวไปเมื่อ 1-2 เดือนที่แล้ว

ตอนแรกโมคิดว่าถามคิวเพื่อไปเสนอช่องอีกที

แต่พอไปถามเค้าอีกทีคือช่องเคาะมาแล้วว่าเป็นเรากับพี่นิว ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงๆ แล้วเป็นอย่างไรเพราะว่าไม่มีโอกาสได้คุยทั้งกับอาตู่และคุณแดงก็คือได้รับคำสั่งมาว่าได้เล่นเรื่องนี้ และรู้ว่าได้เล่นกับพี่เปิ้ล จารุณี เพราะบทในฝันอยากจะเล่นอะไรที่เกี่ยวกับแม่-ลูกอยู่แล้วด้วย ตอนแรกคิดว่าอยากเป็นแม่แต่ไม่ใช่แม่ตอนแก่นะ แต่หมายถึงเรื่องราวมีความผูกพันกับแม่-ลูก อยากจะถ่ายทอดตรงนั้น ถือว่าเป็นงานที่น่าประทับใจมากที่ได้ร่วมงานกับพี่เปิ้ล



กลัวมีปัญหาตามาไหม?


อันนั้นเราไม่รู้เลยว่าอันไหนกระแส อันไหนคือเรื่องจริง แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องของเราด้วยก็ไม่อยากจะยุ่งดีกว่า เราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรด้วยเพราะเรื่องนั้นมันก็เรื่องของเค้า ก็ใช้ชีวิตของเราไปวันๆ พอได้รับคำสั่งก็แฮปปี้ดีใจกับสิ่งที่เราได้ก็ทำงานไป ไม่กดดันเลยเพราะไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเรื่องนั้นมันเป็นอย่างไร เคยอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ แต่ไม่เคยเข้าไปอ่านรายละเอียดว่าใครพูดอะไรบ้าง


มันไม่ใช่เรื่องของเราเพราะฉะนั้นมันก็ไม่เกี่ยว

ก็ไม่ขอพูดอะไรดีกว่า เพราะเราไม่รู้ขอมูลที่แท้จริง พูดไปก็กลายเป็นว่าเดี๋ยวไปปั่นป่วนอีก จริงๆ แล้วควรจะภูมิใจมากกว่าที่สุดท้ายแล้วมันมาลงตัวที่เรา และที่สำคัญร่วมงานที่นี้มาบ่อยครั้งมาก เราก็แฮปปี้มากที่ได้ทำอีกถึงจะถ่ายนานแต่คุณภาพทุกคนต้องรู้ว่าคุณภาพจริงๆ



แล้วข่าวที่ว่าทาง “เป่าจินจง” จะตัดหางโมละ?


“ยังไม่เคยได้ยินกระแสนี้เลยว่าเป่าจินจงจะตัดใคร เพราะว่าหลังจากออกจากโรงพยาบาลก็ยังไปถ่ายกาษานาคาอยู่เลย และถือว่าเป็นโรงเรียนฝึกเราเลยเพราะเกิดมาจากดาราวีดีโอและเป่าจินจงเค้าให้โอกาสค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเรื่องไหนถือว่าเป็นบุญคุณจริงๆ เมื่อเราถูกรับมอบหมายให้ทำเราก็ทำเพื่อตอบแทนบุญคุณด้วย”


ขอถามเรื่องความรักบ้าง?


“มีแต่พวกมาหยอดๆ แหย่ๆ เค้าไม่กล้ามาจีบเราหรอกจริงๆ แล้ว ผู้ชายกลัวไม่รู้ว่าทำไมแต่ก็ดีแล้วแหละ คือหนูวางตัวไม่ให้คนเค้ามาเปิดตัวเอง เวลาคนเข้ามาก็จะรู้จุดประสงค์เค้าจริงๆ แล้วก็คงอยากจะจีบ แต่คุยไปคุยมาแล้วก็ปิดโอกาส พูดจาแบบฎิเสธแต่มีวิธีพูดจาให้เค้ารู้ว่าเราไม่ได้เปิดให้ใครนะ เพราะฉะนั้นก็ค่อยๆ หายไปเอง คนนอกวงการไม่ค่อยมีใครกล้า แต่คนในก็พอมีกล้าบ้างนิดๆ”



เข้ามาจีบแบบไหน?


เป็นพวกฟอร์มหมาแก่ เค้าเรียกว่ามามุขเด็ก แต่เธออย่ามาเลยมันน่าอาย แบบเพิ่งเลิกกับแฟนอะไรแบบเนี่ยก็ไล่ไปดีกับแฟนซะ มันก็มีวิธีของเราก็แล้วแต่จะว่าไป ยังไม่อยากไม่มีแฟน ตอนนี้ปิดสนิทเลยเพราะเราอายุมากขึ้น อะไรๆ มันก็เปลี่ยนไปมีความคิดเปลี่ยนไป คือโมตอนเด็กๆ คาดหวังกับเรื่องพวกนี้วางแผนไว้เป็นสเต็ปๆ เลยมันคือความคิดของเด็ก


แต่พอโตขึ้นมาแล้วมันอาจะไม่ได้เป็นไปตามนั้น

เรามีความคิดว่าความรักมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ตอนนี้จะ 23 แล้ว คงจะมาคบใครแบบคบๆ เลิกๆ แล้วหาตัวจริงไม่ได้สักที แล้วมาถึงวันนึงเราควรจะมีครอบครัวก็ยังไม่เจอใครสักที โมขอใช้เวลาช่วงนี้ดูว่าใครมีความจริงใจค่อนข้างเยอะ เหมาะสมกับเราคือไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ดีที่สุด แต่เอาแค่เหมาะสมมันจะอยู่ด้วยกันยืดและเป็นคนสุดท้ายจริงๆ ดีกว่า



แล้วกับ “ก้อง-กรุณ” ละ?


“กับพี่ก้องก็คือถ้าตัวโมว่างจากงาน เพราะตัวโมไม่ค่อยจะมีเวลาว่างเลย ถ้าเกิดพอมีเวลาว่างก็อาจจะไปทานข้าวกันบ้าง แต่ก็ยังรักษาระดับความเป็นพี่น้องอย่างนี้เอาไว้เพื่ออะไรหลายๆ อย่างมันจะเป็นอะไรที่ดี โมเข้าใจ ว่าเค้าไม่ได้มาจีบโมในลักษณะนั้น อันนั้นเป็นเรื่องของอนาคตเค้าไม่ได้มาจีบที่จะมุ่งไปในทางชู้สาวเพื่อจะเป็นแฟน


คือมันไม่ได้เป็นในเชิงลักษณะนั้น

ไม่ได้เชิงว่าเป็นเพื่อนเพราะคำว่าเพื่อนมันมีความแบฉวยอยู่ในนั้น  แต่คำว่าพี่-น้องมันเหมาะสมที่สุดเราไม่ได้คิดร้ายต่อกัน ไม่ได้หวังอะไรซึ่งกันและกัน คือเรามีความหวังดี ใครมีอะไรก็ปรึกษากันได้ ตอนนั้นกับตอนนี้รู้สึกเท่าเดิม เราก็มีกำแพงของกันและกันอยู่ ซึ่งต่างคนไม่อยากจะมีแฟนมันเป็นอย่างไรก็ว่าไปอย่างนั้น



อย่างนี้หรือเปล่าถึงมีข่าวเม้าท์ว่า “ก้อง” เป็นอีแอบ?


(หัวเราะ) มีคนบอกเยอะมาก ก็ต้องไปถามเค้าเองค่ะ หนูก็ชอบแซวเค้าเหมือนกัน เพราะเค้าชอบใส่เสื้อกล้ามบ่อยๆ พี่เค้าก็บอกว่าเคยมีคนมาถามเค้าเรื่องนี้เหมือนกัน ก็ไม่เป็นหรอกค่ะ พี่เค้าก็เคยมีแฟนมาก่อนนะ โมยืนยันว่าเค้าไม่เป็นค่ะ พี่เค้าไม่ซีเรียสหรอก แต่อาจจะแอบหงุดหงิดนิดนึงว่า อะไรแต่งตัวมากก็หาว่าเป็นเกย์ด้วยเหรอ


คือพี่เค้าให้คำจำกัดความว่า เมืองนอกเนี่ยผู้ชายแต่งแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติมาก

แต่ที่เมืองไทยมันเป็นส่วนน้อย ก็เลยโดนจับตามอง จริงๆ เค้ามีความเป็นลูกผู้ชายมากๆ เลยนะ เค้าคงเปลี่ยนการแต่งตัวไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเราก็ติดภาพที่เค้าแต่งตัวแบบนี้ไปแล้ว จะให้เค้าเปลี่ยนไปแต่งสไตล์ฮิพฮอพ หรือ ขาเดฟก็คงไม่ได้หรอกค่ะ นี่มันเป็นตัวของเค้าที่สุดแล้ว พี่เค้าชอบซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นมาก ผิวขาวมากด้วย อาจจะเป็นเพราะผิวด้วยแหละคนเลยเข้าใจเค้าผิด


แต่ถึงขนาดจับมือกันไปเข้าสปา “เสริมความงาม” เชียวนะ?


"โอ๊ย...ไม่มีหรอกค่ะ เค้าไม่ชอบนวด เค้าชอบเรื่องแฟชั่นมากกว่า  แล้วเค้าเป็นคนดูแลตัวเองดีอยู่แล้ว เค้ายังเคยบอกเลยว่าผู้ชายดูแลตัวเองก็ได้ ไม่แปลกหรอก เค้าเป็นเกย์ไม่ได้เพราะเค้าชอบการแต่งตัวก็จริง แต่เค้าชอบร็อคสตาร์ บางทีเค้าก็แอบใส่เสื้อผ้าผู้หญิงด้วย อย่างกางเกงที่เค้าใส่ก็เป็นไซส์ผู้หญิง เพราะเค้าตัวเล็ก ชอบใส่เครื่องประดับเยอะๆ ด้วย บางทีก็เป็นของผู้หญิง โมยังเคยซื้อมาฝากเลยค่ะ”



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี ดาราเดลี่


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์