สงสาร ! นางเอกปลาบู่ทอง โดนเบี้ยวจากดาราฟันน้ำนม

“........สงสารแต่แม่ปลาบู่ อาศัยในอยู่ในฝั่งคงคา นางเอื้อยเป็นลูกกำพร้า ถึงเวลามาร่อนรำ ร่อนแต่รำแก่ หรือแต่รำอ่อน เอารำมาร่อนให้แก่แม่ปลา...”

 สกู๊ปพิเศษวันนี้ เว็บไซต์ teenee.com  ขึ้นต้นด้วยเพลงละครโทรทัศน์ ปลาบู่ทอง ที่วันนี้เป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในแวดวงบันเทิง

กรณี โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้ร่วมหุ้นทำค่ายมวยกับอดีตนางเอกชื่อดัง เอ๋ อัจฉรา ทองเทพ เพราะมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว และ เอ๋ก็เคืองมากที่ดาราฟันน้ำนมคนนี้ไร้น้ำใจ

 “เอ๋เคืองนะ เคืองมากด้วยแต่ไม่ได้โกรธโตโน่ ที่เคืองเพราะว่าไม่หุ้นแล้วทำไมไม่มาคุย ก่อนหน้านี้ มาได้ทุกวัน คือที่เคืองเพราะถ้าเขามีน้ำใจมาช่วยดูหน่อยก็ได้ คือเอ๋ยังไม่เป็น เหมือนอยากให้สานต่อให้จบ มาให้คำปรึกษาเอ๋ก็ได้

จากที่เคยคุยกัน พอเอ๋ไม่ตกลงตามเงื่อนไง พอโทร.ไปหาเขาก็บอกติดถ่ายละคร เคยพูดไปว่าเมื่อ 18 ปีที่แล้ว พี่เอ๋ดังกว่าโตโน่อีกนะ เอ๋ อัจฉรานางเอกปลาบู่ทองเลยนะ ดังสุดๆ ในเมืองไทย อีก 10 ปีข้างหน้าโตโน่ก็จะอยู่ในสภาพเป็นอดีตเหมือนกันนี่แหละ”  

จากคำพูดของเอ๋ อัจฉรา หลายๆ ท่านที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปคงจะจำกันได้ว่า ละครปลาบู่ทอง ในปี พ.ศ. 2537 โด่งดังมากๆ กลายเป็นละครตอนเช้าที่มีเด็กๆ ตื่นมาดูกัน และถือเป็นละครโทรทัศน์จักรๆวงศ์ๆ ของค่ายสามเศียรที่มีเรตติ้งดีมากในประวัติศาสตร์

ปลาบู่ทองเวอร์ชั่นของ เอ๋ อัจฉรา โด่งดังกว่าปี 2552 ที่ได้ มีน - พีชญา วัฒนามนตรี มาแจ้งเกิดในบทนี้ และครองตำแหน่งนางเอกยอดนิยมช่อง 7 ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ละครเรื่องปลาบู่ทอง ถูกสร้างขึ้นมาแล้วหลายครั้ง โดยในครั้งแรก พ.ศ. 2508 ได้ทำเป็นภาพยนตร์ 16 มม  มีนางเอกชื่อ ภาวนา ชนะจิต , พ.ศ. 2510  เยาวเรศ นิศากร เป็นนางเอก, ปีพ.ศ. 2522 ลลนา สุลาวัลย์ เป็นนางเอก  , ส่วนปีพ.ศ. 2527 เพ็ญยุพา มณีเนตร เป็นนางเอก ,และปี  2537 ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ 35 มม แต่ไม่โด่งดังเท่ากับ  เอื้อยกับอ้าย ในปีเดียวกัน

ช่วงนั้น เอ๋ อัจฉรา ถูกคนทั้งประเทศเรียกว่า เอื้อยกับอ้าย มีงานโชว์ตัวราวกับซุปตาร์ในสมัยนี้ แต่หลังจากนั้นก็ถึงสัจธรรมของชีวิตของดาราที่ร่วงโรยตามกาลเวลา

ทว่ากรณีเอ๋ อัจฉรา น่าเห็นใจตรงที่เธอป่วยด้วยโรคพุ่มพวง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และก็โรคหัวใจ ส่วนคู่กรณี โตโน่ ภาคิน ย้อนกลับไปไม่กี่ปีเขาแจ้งเกิดด้วยการประกวดเดอะสตาร์ แต่ช่วงหลังๆกระแสของโตโน่ก็แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด และ ชัดเจนขึ้นเมื่อมีข่าวไม่ดีออกมามากมาย

สุดท้ายนี้ผมขอทิ้งท้ายด้วยคำพูดบาดใจของเอ๋ อัจฉรา ที่บอกว่า “18 ปีที่แล้ว ดังกว่าเยอะ ส่วนโตโน่อีก 10 ปีข้างหน้าก็จะเป็นเหมือนกัน”  ในเรื่องนี้คนที่กำลังนอนก่ายหน้าผาก คือ อดีตพระเอกนักร้องดาวรุ่งโตโน่ ภาคิน

ดังนั้นคงต้องติดตามกันต่อไปว่าประชาชนจะใช้ตรรกะหรือเหตุผลอะไรในการตัดสิน และเห็นใจใคร มากกว่ากัน !