“ดีเจมะตูม” เปิดใจครั้งแรกกับคำถาม....เป็นดีเจที่ไหน ?


“ดีเจมะตูม”  เปิดใจครั้งแรกกับคำถาม....เป็นดีเจที่ไหน ?


“ดีเจมะตูม”  เปิดใจครั้งแรกกับคำถาม....เป็นดีเจที่ไหน ?

หากพูดถึงชื่อดีเจมะตูม เราเชื่อว่าหลายๆ ท่านที่เป็นคนเสพสื่อออนไลน์ ,สื่อดิจิตอล ต้องรู้จักเขาแน่นอน เพราะกระแสฮอตฮิตของดีเจมะตูมทำให้คนไทยจำนวนมหาศาล อยากรู้จักชีวิตเขา และเขาก็กลายเป็นที่รู้จักของคนในสังคมทั่วประเทศและต่างประเทศอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ โดยเฉพาะตอนที่ดีเจมะตูม upload คลิปลงใน youtube และมีการเผยแพร่ลงใน social media รวมทั้งการการแชร์ต่อกันมากมาย  กองบรรณาธิการเว็บไซต์ www.teenee.com ได้มีโอกาสต้อนรับ “ดีเจมะตูม”  ในคอลัมน์ “ที่นี่ ห้องรับแขกคนดัง”  เพื่อเปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ยังไม่ได้ไปเปิดใจกับสื่อแห่งไหนมาก่อนเลย ดังนั้น  เว็บไซต์ www.teenee.com จึงเป็นที่แรกในการเปิดใจแบบพิเศษจริงๆ

ดีเจมะตูม เริ่มต้นกล่าวว่า “มะตูมมีพี่น้อง 2 คน พี่สาว 1 น้องสาว 1 โตที่ต่างประเทศ ไปเรียนที่เยอรมันตั้งแต่อายุ 13 ปี  ส่วนกรณีที่มีคนสงสัยว่าเคยเป็น ดีเจที่ไหนนั้น ดีเจมะตูม กล่าวว่า เป็นเรื่องที่มีคนถามเยอะมากแต่ไม่มีโอกาสที่จะได้ตอบสักที

“เว็บไซต์ www.teenee.com จะเป็นที่แรกที่ได้พูดนะครับ มะตูมไม่ได้เป็นดีเจตามคลื่นวิทยุหรือว่าไม่ได้เป็นดีเจที่มีสังกัด  เพราะมะตูมเคยจัดรายการในโปรแกรมแชทอันนึง จนมีคนเรียกกันติดปากว่าดีเจมะตูม คือเราไม่ได้เป็นดีเจที่เปิดเพลง แต่เราเป็นดีเจเน้นการพูด วาไรตี้ มันก็เลยเป็นฉายาที่ติดมา แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มีอาชีพเป็นเป็นดีเจครับ”  

ส่วนงานปัจจุบันที่ดีเจมะตูมทำอยู่นั้น ล่าสุดเยอะมาก ออกงานต่างๆ มีเป็นประชาสัมพันธ์ มีเป็นพิธีกร กำลังเข้าสู่แวดวงการแสดงด้วย ซึ่งตื่นเต้นมาก มีหนังหอแต๋วแตก และก็รับเชิญหนังเรื่องสตรีเหล็กและก็ละครช่อง3 ที่ติดต่อมา แต่ยังไม่ได้สรุป ส่วนบทบาทจะเจ๋งเหมือนในโซเชียลมีเดียไหมนั้น 

ดีเจมะตูม กล่าวว่า “ก็ไม่ต่างจากตัวตนมากซึ่งมะตูมว่าโอเค เพราะว่าเราจะไปแอ๊ปแมนเล่น ก็ไม่โอเค เพราะถึงหน้ามะตูมจะแมนแค่ไหนแต่เราก็มีคาแรคเตอร์ที่เป็นแบบนี้ ซึ่งบทบาทก็ไม่น่าต่างมาก แต่ถ้ามีบทบาทดีๆ เข้ามาก็โอเค เพราะมะตูมเป็นคนที่ชอบการแสดง ตอนที่มะตูมอยู่เยอรมันก็เล่นบรอดเวย์

ส่วน กระแสรักชาติ ที่เห็นตามโซเชี่ยวมีเดียนั้น ดีเจมะตูมกล่าวว่า  อย่างแรกเลยก็คือเราเป็นคนไทย อยากเห็นคนไทยทุกคนสามัคคีปรองดองกัน ไม่อยากเห็นใครทะเลาะกัน คิดต่างอย่างไรก็ไม่ควรแตกแยก เพราะมะตูมอยากเห็นชาติพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้นมานิดนึง ร้อยพ่อพันแม่ ต่างคนต่างความคิด คนที่กินข้าวเหมือนกัน พูดภาษาเดียวกันมีประวัติศาสตร์มาเหมือนกันเพราะฉะนั้นแล้วเราก็ต้องรักษากันไว้นะครับ อยากเห็นทุกคนรักกัน

นอกจากนี้ ดีเจมะตูม ได้เผยเรื่องราวน่ารักๆ กับเว็บไซต์ www.teenee.com ถึงเรื่องหน้าแตกที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมาว่า

  “ถ้าเป็นเรื่องหน้าแตกที่สุดในชีวิตก็คงจะเป็นตอนเด็กๆ มะตูมไม่ได้ใส่ กกน. แล้วกางเกงเป้าขาด แล้วนั่งยองๆ ตอนนั้นเพื่อนเยอะมาก  ก็มีเพื่อนคนนึงทักว่า กระรอกน้อยๆ เราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนเราก้มดูเราก็รู้ว่าของเราโผล่ออกมา สมัยประถม 4 เพื่อนเยอะทุกคนหันมาแล้วหัวเราะเรา แล้วเรารู้สึกไม่โอเค ไม่ออกจากบ้าน 2 อาทิตย์ แล้วไม่ไปโรงเรียนด้วย มันรู้สึกอาย เจอใครไม่ได้ มันไม่ได้ฉีกแค่นิดเดียว คือมันฉีกแล้วมันโผล่ออกมา รู้สึกอาย เดินไปไหนก็จะมีคนเรียกแต่ กระรอกๆ ทั้งที่โรงเรียนและหมู่บ้าน เพราะเหตุเกิดที่หมู่บ้านแล้วก็มีเพื่อนๆ ที่เรียนโรงเรียนเดียวกันมาเห็นด้วย ทุกวันนี้เพื่อนสนิทยังแซวว่ากระรอกน้อยเลย” ดีเจมะตูม กล่าว

ส่วนวีรกรรมขำๆ ที่ดีเจมะตูมแกล้งเพื่อนที่ขำที่สุดและแรงที่สุดก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

 “เคยแกล้งเพื่อนแรงมาก เพราะส่วนใหญ่เพื่อนไม่ค่อยกล้าแกล้งเรา อาจเป็นเพราะเราเป็นคนปากจัดเลยไม่ค่อยมีใครกล้าแกล้ง ตอนนั้นหลอกเพื่อนว่าบ้านเพื่อนไฟไหม้แล้วเพื่อนร้องไห้ ซึ่งบ้านเพื่อนจริงๆ แล้วไม่ได้ไหม้แล้วเพื่อนร้องไห้ คือมะตูมเป็นคนที่รักในการแสดงมากเพื่อนเลยเชื่อ และเมื่อเพื่อนรู้ความจริงว่าเราแกล้ง ก็ตีกัน ( หัวเราะ)  มะตูมเป็นคนชอบแกล้งเพื่อนสนิท คือถ้ารู้จักมะตูมจริงๆ  แต่คือในคลิปมะตูมดูร้ายมากเลย แต่จริงๆ แล้วมะตูมเป็นคนที่ขี้เล่น คุยสนุกมากเลย

ส่วนการออกเดทครั้งแรกของดีเจมะตูมนั้น คนดังแห่งโลกออนไลน์ เล่าว่า 

“ ตอนนั้น แอบปลื้มรุ่นพี่ จำได้ว่าอยู่ม.2 ชอบรุ่นพี่มาก และเดทครั้งแรกของเราตอนนั้นก็คือในโรงอาหาร คือพี่เค้านั่งกินข้าวอยู่คนเดียว เราแค่ไปนั่งข้างเค้าแล้วถามประมาณเรื่องนั้น เรื่องนี้ ว่า พี่อันนี้ทำยังไง อันโน่นทำยังไง ซึ่งเค้าก็รู้ว่าเราชอบ เค้าก็จะพยายามรังเกียจเรา แต่เราก็ไม่แคร์นะ ก็ พยายามที่จะเข้าหาเค้า เพราะว่าวันวาเลนไทน์เค้าเอาดอกไม้ไปให้ผู้หญิงคนนึง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นปฎิเสธแล้วเราก็เดินไปปลอบใจเค้า แล้วเค้าก็เอาดอกไม้นั้นให้เรา ซึ่งดอกไม้นั้นมะตูมยังเก็บไว้อยู่เลย แต่ตอนนี้ไม่ได้ติดต่ออะไรกันเลย ตั้งแต่มะตูมไปเรียนต่อต่างประเทศก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย

ดีเจมะตูมฝากถึงเยาวชนเกี่ยวกับการเล่นโซเชียลมีเดียว่า 

“อยากจะบอกว่าโซเชียลมีเดียทุกวันนี้มันไปไกลกว่ารุ่นพ่อ รุ่นแม่เรา  เนื่องจากรุ่นพ่อรุ่นแม่เราเค้ายังเขียนจดหมายโทรหากัน รุ่นมะตูมยังเพจเจอร์ถือว่าเป็นอะไรที่อินกันมาก แต่สำหรับสมัยนี้มันเป็นอะไรที่ไวมาก การสื่อสารกัน การแชร์ข้อมูลข่าวสารกัน เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่เยาวชนควรทำ นั่นก็คือ สติ ทุกอย่างในการแชร์ข้อมูล แชร์ข่าวสารหรือว่าอัดคลิปหรือทำอะไรก็แล้วแต่ คุณจะต้องมีสติอย่างมาก เพราะว่าถ้าพลาดมันแก้ไขอยากมาก เราแชร์ไปแค่ 5 นาที คนตามไปเป็นพัน เราตามแก้ไม่ไหวหรอก เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าเราพลาดแล้วก็จะเสียทั้งชื่อ ทั้งเวลา ทุกอย่างอ่ะครับ รวมไปถึงครอบครัว เพราะฉะนั้นแล้วอยากให้เยาวชนคิดก่อนแชร์ ไม่ใช่ข่าวอะไรมาถึงเราแล้วก็แชร์ๆ มันไม่ใช่ ต้องคิดก่อนว่าที่มาที่ไปมันยังไง ข้อมูลมันยังไง แล้วก็อยากฝากว่าทำอะไรอย่านึกถึงความคึกคะนองแล้วก็สนุกสนาน เพราะฉะนั้นแล้วมีสติ เมื่อสติมาแล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นในการเล่นโซเชียลมีเดียในทุกวันนี้ครับ

ส่วนสิ่งที่มะตูมอยากพูด อยากบอกกับสังคมมากๆ ในตอนนี้นั้นคือ

  “มีคนตั้งคำถามว่าทำไมเราถึงทำคลิป และมีคนถามมะตูมว่าที่ทำเพราะอยากจะเกาะกระแสเค้าดังหรือเปล่า ซึ่งมะตูมก็ไปห้ามความคิดของคนอื่นไม่ได้ แต่เราทำคลิปออกมาแล้วมันเกิดดังจริงๆ ไง เราก็ไปเถียงเค้าไม่ได้ว่าเราไม่ได้อยากดัง มันดังเอง โอเคมันก็อยากดังมันก็มีส่วนอ่ะครับ เพราะเวลาเราตะโกนเราก็อยากให้เสียงเราไปไกลที่สุดถูกไหม แต่สิ่งที่มะตูมทำไป ไม่ได้ทำไปเพราะเกาะกระแส หรือทำไปเพราะคิดว่ามันเป็นผลงาน แต่เราทำไปเพราะเราคิดว่ามันคือหน้าที่ของลูกคนนึงที่ต้องทำให้พ่อคนนึงเท่านั้นเอง มันเหมือนมีคนมาชี้หน้าด่าแม่เรา แล้วเราก็ต้องโต้ตอบไปในเวอร์ชั่นของเรา เพราะเราก็เป็นแบบนี้ แล้วมะตูมก็เป็นคนที่มีความรู้สึกแบบชอบเอาชนะคน เป็นอะไรที่เบสิคมากในการด่า

แล้วตอนนี้ก็กลายเป็นว่าเจอคนในสังคมมาบอกว่า พี่มะตูมออกมาด่าคนนี้หน่อย พี่มะตูมด่าคนนั้นหน่อย กลายเป็นว่าให้เอาเป็นไอดอลในการด่า ซึ่งประเทศไทยไม่ควรมีไอดอลในการด่านะครับ ไม่ควรมีเลยจริงๆ ซึ่งถ้าคุณยกให้มะตูม มะตูมขอบคุณนะ ที่เค้าเห็นว่าเราด่าเก่ง เราก็เป็นแค่กระบอกเสียงนึงที่ทำให้ผู้หญิงคนนึงย่อยยับ ในสิ่งที่เค้าทำ มันเลวร้ายเกินกว่าที่คนไทยทั้งประเทศจะให้อภัยได้แค่นั้นเอง ซึ่งเราก็ไม่ได้อยากไปเกาะเค้าดัง แต่เราก็ดังพอๆ กับเค้า แต่มะตูมขอดังในด้านดี เพราะฉะนั้นคือสิ่งที่มะตูมอยากจะพูด คนจะสงสัยว่ามะตูมมีสคริปต์หรือด่าสดๆ 

ก่อนที่มะตูมจะลงคลิปทุกคลิปมะตูมคิดก่อน พิจารณาก่อนว่ามันกระทบถึงใครไหม มันพาดพิงถึงใครไหม ย้อนไปดูมะตูมทุกคลิปเลย มันเป็นการกระทำของเราที่มีสติครบ 32 เลย คิดดีแล้วว่าเราจะพูดสคริปต์นี้ คือมะตูมคิดมาเป็นเดือนนะครับ อย่างคลิปล่าสุดมะตูมจะคิดไว้ก่อนเลยว่ามะตูมจะพูดไรบ้าง ไม่ใช่อยู่ๆ จะพูดเลย ตือมะตูมคิดหมดเลยว่ามะตูมจะพูดอะไร คำพูดของเราเนี่ยสำคัญมาก เพราะคนที่ติดตามเราเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันๆ  คือก็อยากจะบอกว่ามะตูมไม่ได้อยากจะเกาะกระแสใครดัง หรืออยากจะพรีเซนต์ตัวเอง ถ้าเกิดจะทำอย่างนั้น มะตูมไม่ต้องด่าเค้าก็ได้ครับ มะตูมด่าดาราคนใดคนนึงก็ได้ มะตูมด่าปัญหารถติดหรืออะไรก็ได้ มะตูมด่าได้เหมือนกัน คนเราเวลาจะด่ามันก็จะด่าได้ 

แต่นี่คือผู้หญิงคนนี้ไม่โอเค มะตูมใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองทำลายคนที่ทำลายหัวใจของมะตูมเท่านั้นเอง ซึ่งในความสามารถพิเศษของมะตูมตรงนี้มันไปติดตาของใครหลายๆ คน มันเลยมีกระแสทำให้เราดังขึ้นมา ซึ่งมะตูมคิดว่าตรงนี้มันเป็นผลพลอยได้มากกว่าครับ มันไม่ได้เป็นสิ่งที่เราคาดหวัง ที่มะตูมจะต้องมานั่ง ณ จุดๆ นี้ก็ไม่ได้คาดหวัง เพราะสุดท้ายมะตูมก็ยังเป็นตุ๊ดเด็กคนนึงที่ต่อให้ไม่มีใครสนใจมะตูมก็ยังจะทำต่อไป ก็ยังจะปกป้องดวงใจของคนไทยต่อไป”


สัมภาษณ์พิเศษโดยทีมงาน .....ที่นี่ ห้องรับแขกคนดัง !!

 




ดีเจมะตูม @TEENEE.COMดีเจมะตูม @TEENEE.COM


ดีเจมะตูม @TEENEE.COMดีเจมะตูม @TEENEE.COM


ดีเจมะตูม @TEENEE.COMดีเจมะตูม @TEENEE.COM


ดีเจมะตูม @TEENEE.COMดีเจมะตูม @TEENEE.COM


ดีเจมะตูม @TEENEE.COMดีเจมะตูม @TEENEE.COM


ดีเจมะตูม @TEENEE.COMดีเจมะตูม @TEENEE.COM

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์