กว่าจะเป็นปูไปรยาในวันนี้

บทพิสูจน์ตัวตนของนางเอก'ซุปตาร์' กว่าจะเป็น'ปู'ไปรยาในวันนี้

เส้นบางๆ ระหว่างคำว่า "ดารา" และ "นักแสดง"  ซึ่งมีหลายคนอาจจะแยกแยะไม่ออกว่า เมื่อเข้ามาโลดแล่นในโลกมายาแล้ว อยากจะให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งใด แต่สำหรับนางเอก "ปู" ไปรยา สวนดอกไม้ เธอได้เลือกแล้วว่าวันนี้เธอขอเป็น "นักแสดง" ที่มีคุณภาพ และพร้อมพัฒนาตัวเองให้สมกับโอกาสสำคัญ ดังนั้นสกู๊ปบันเทิงเลยอยากจะนั่งพูดคุยเพื่อค้นหามุมมองความคิดของสาวคนนี้

@@อัพเดทผลงานตอนนี้

พูดถึงละครเรื่อง

สำหรับละครเรื่อง "สะใภ้หัวแดง" ปูเอง ก็รับบทเป็นผู้หญิงที่ต้องสู้ตลอด เพราะพ่อก็ติดยา และแม่ก็มาป่วย แล้วต้องแต่งงานกับพระเอก แล้วยิ่งมาเจอแม่พระเอก ที่ไม่ชอบเราอีก

การทำงานกับ "เติ้ล" ธนพล นิ่มทัยสุขน่ารัก ทำงานกับพี่เติ้ลสนุกนะ พี่เขาเป็นคนน่ารัก นิสัยดีเป็นคนตรงต่อเวลา คือสนิทกันมาก พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง

กระแสเรตติ้งดีเกินคาด

ดีนะ ละครเรื่องนี้ สำหรับปูเอง ก็ยอมรับว่าดี เรตติ้งดีมากเลย แต่ปูไม่ได้ทำเพื่อเรตติ้ง ปูทำเพื่อประสบการณ์ เลยไม่ได้ใส่ใจว่า เรตติ้งจะได้เท่าไหร่ แต่ก็ต้องขอบคุณแฟนละครที่ติดตามชมสะใภ้หัวแดงมาก เพราะเรื่องนี้ ปูทุ่มเทมากจริงๆ แต่เอาเข้าจริง พอเห็นเรตติ้ง ก็หายเหนื่อยนะ (ยิ้ม)

แล้วเรื่องนี้ใกล้ปิดกล้องแล้วหรือยัง

อีกประมาณ 1 เดือน ถึงจะปิดกล้อง แต่ถ้าปิดกล้องแล้ว ปูขอพักแป๊บหนึ่ง แล้วก็ลุยถ่ายละครเรื่องอื่นต่อเลย

กับเรื่องพรายพยากรณ์

เรื่องนี้ปูต้องประกบกับพี่ออย (ธนา สุทธิกมล) กับพี่ออยเจอกันครั้งแรก คิดว่าทุกอย่างก็น่าจะโอเคนะ ละครก็บวงสรวงไปแล้ว

เริ่มถ่ายทำแล้วหรือยัง

ยังหรอก เพราะกองนี้ เขารอให้ปูเคลียร์ละครเรื่องสะใภ้หัวแดงให้จบก่อน แล้วค่อยมาเริ่มต้นถ่ายทำกัน เพราะถ้าจะให้ต้องมาถ่ายละครพร้อมกัน 2 เรื่อง ปูทำไม่ไหว ปูยอมรับว่า ตัวเองเล่นละครไม่เก่ง แล้วต้องใช้เวลาในการเล่นละคร ปูอยากให้ผลงานของตัวเอง ออกมาน่าจดจำของทุกๆ คน อยากให้เวลาในการพัฒนามากๆ เลยขอให้ถ่ายที่ละครแล้วกัน ซึ่งทางกองพี่วุธ (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) ก็เข้าใจ

ชีวิตการทำงานของ "ปู" ไปรยา

มุมมองการทำงานของปูในวันนี้

ปูไม่ได้ต้องการความโด่งดังอะไรทั้งนั้นแล้ว แต่ที่ปูทำอยู่ทุกวันนี้ เพราะปูมองว่า มันคืออาชีพ มุมมองของปูในการทำงานของปู เมื่อก่อนปูไม่ได้ตั้งใจในการทำงานเลย อาจเป็นเพราะว่ายังเด็ก (ยิ้ม)  แต่ตอนนี้ก็ใส่ใจกับมันมากขึ้น เพราะว่าโตขึ้น และมีความรับผิดชอบ (นึก) จะบอกว่าอย่างไรดี มันเหมือนกับว่า เราเข้ามาทำงาน ในอาชีพนักแสดงตอนอายุแค่สิบต้นๆ ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่า เรารักหรือไม่รัก ถนัดหรือไม่ถนัด แต่ทำมาเรื่อยๆ ก็รู้สึกรักและผูกพัน มันค่อยๆ ซึมๆ มาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต

ย้อนกลับไป ยังจำวันที่เข้ามาเล่นละครครั้งแรกได้ไหม

ปูยังจำได้เลย ว่าเรื่อง ”รักได้ไหม ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน” เล่นคู่กับเชียร์ (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) และพี่น้ำ (รพีภัทร เอกพันธ์กุล)  ตอนนั้นยอมรับเลย ว่าเป็นครั้งแรกในชีวิต แล้วตอนนั้นปูเองยังพูดภาษาไทยไม่ได้เลย ไม่เข้าใจภาษาไทย

คิดว่าตัวเองโชคดีไหมที่ได้ทำงานในวงการ

ปูถือว่า ปูเป็นคนที่โชคดีนะ สำหรับการเดินเส้นทางในวงการบันเทิง เพราะจากเด็กน้อย ที่ไม่ประสีประสา งานละครหรือการทำงานในวงการ แล้วสามารถเดินทางมาอยู่ตรงนี้ได้กว่า 10 ปี มันไม่ได้ใช้เวลาน้อยๆ เลยนะ และในวันนี้ ปูถือมีเกาะป้องกันตัวเองกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

หลักการทำงานของปู

การเติบโตของปูนั้น ในการทำงานปูในวงการนี้  ไม่ได้มองว่า ทำเพื่อตัวเอง หรือทำเพื่อให้มีความสุข แต่มันเป็นการทำงานที่ทั้งหนักและเหนื่อย จะพูดว่าเลือกทางนี้ ก็ไม่ได้ เพราะปูเซ็นสัญญากับช่องไปแล้ว  และจะไม่เคยคิดด้วยว่า การที่เราเข้าวงการมาจะเป็นเรื่องที่เราคิดผิด เพราะตั้งแต่เข้าวงการมา ปูมีเงินเก็บเยอะ มีอนาคตที่ดี ถึงการทำงานของเรามันเหนื่อยแค่ไหน ปูคิดว่าเรามีบุญที่มีโอกาส

มรสุมข่าวฉาวรายวัน

การรับมือกับข่าวคราวที่เกิดขึ้น

ตอนแรกที่เป็นข่าวของปู กับกองละคร ปูไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าปูบ่น เป็นคนงอแง หรือปูไม่สำนึกในบุญคุณอะไรประมาณนี้ บางครั้งเงินมันไม่ใช่ทุกอย่าง ไม่ว่าจะรวยจะจนมันไม่เกี่ยว

จากเรื่องที่เกิดขึ้น หลายคนยกให้ "ปู" เป็นฮีโร่ที่กล้าออกมาพูดความจริง

แต่เปล่าเลย ปูรู้สึกแย่ที่เจอสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป แล้วมันย้อนกลับมาหาตัวเอง แล้วยิ่งเจอหนักปูเลยท้อ ยอมรับเลยว่าท้อ แต่เหนื่อยยังไง ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว แต่ขอให้ได้งานอะไรมา ขอแค่งานที่ได้ทำแล้วไม่สบายใจ  จริงๆ ยิ่งปูมีข่าวเกี่ยวกับการมีปัญหากับกองของช่อง 7 จึงทำให้คนดู มองว่าปูจะหมดสัญญากับช่อง 7 หรือเปล่า จึงตัดสินใจทำอะไรหลายๆ อย่างได้มากขึ้น แต่สำหรับปูคิดว่า เราไม่รู้หรอก ว่าถ้าหากเราจะย้ายไปอยู่ที่ไหน  แล้วมันจะดีหรือไม่ดี แต่ที่จริงแล้ว กับ ช่อง 7 เขาดีกับปูมากเลย ละครก็เป็oละครที่ดี มีคุณภาพ

เหมือนหันหน้าเข้าธรรมะมากขึ้น

ใช่เลยนะ ปูถึงเข้าทางธรรมะมากขึ้น จากแต่ก่อนอาจจะปรี๊ดปร๊าด ใจร้อน ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนคนนั้น ถึงต้องทำกับเราแบบนี้ ร้อนตลอดเวลา แต่วันนี้ การที่เราได้เข้าถึงธรรมะ มันจะทำให้เราพยายามมองหาเรื่องดีๆ ในทุกๆ วัน 

อาชีพนักแสดงเป็นอาชีพในฝันหรือเปล่า

บอกเลยว่า อาชีพนักแสดง นี่มันไม่ใช่ทางของปูเลย อาชีพนี้ขัดต่อการเป็นตัวของปูมาก เพราะปูเป็นคนเก็บตัว ชอบใช้ชีวิตธรรมดาๆ บางทีไปเที่ยวยังลากรองเท้าแตะเลย หน้าก็ไม่แต่ง แต่ปูเข้าใจว่า ปูมีชีวิตอีกส่วนหนึ่ง ที่เป็น ปู ไปรยา ของทุกคน เขาก็อยากเห็นเราในมุมที่สวยงามมาเต็ม (ยิ้ม) ส่วนที่ว่าทำไมยังทำงานในวงการอยู่ ปูมองว่า ตัวเองโชคดีขนาดไหน ที่ได้มายืนอยู่บนจุดจุดนี้ บางครั้งเราอยู่วงการนี้ มันมีเรื่องราวหลากหลายรูปแบบ แต่เราก็เข้าใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

หลายคนมองว่า วงการนี้มีการแข่งขันกันสูงแล้วความรู้สึกส่วนตัวล่ะ

ไม่เคยคิดเลย ว่าการที่อยู่ในวงการนี้ มันจะเป็นการแข่งขัน ปูว่าสิ่งที่น่าเศร้าที่สุดของคนเรา บางครั้งหมกมุ่น อยู่กับการแข่งขันกันมากเกินไป บางคนก็แข่งขันกันในเรื่องของความสวย ปูจะไม่ชอบเลยเรื่องการทำศัลยกรรม แล้วปูก็เป็นคนที่มีจรรยาบรรณในการโฆษณา อย่างครีมที่ปูใช้ ถ้าปูโฆษณาให้เขาปูก็จะไม่มีทางใช้อย่างอื่น หรือแม้แต่คอลลาเจน ก็ตามถ้าเกินกว่ามาตรฐาน ปูก็ไม่ยอมโฆษณาให้หรอกนะ (ยิ้ม) หรือแม้ในเรื่องของการรักษาเวลา ถ้าเกิดคนรู้จักปูจริงๆ เขาจะรู้ว่าปูเป็นคนตรงต่อเวลา แล้วเวลาผิด คือต้องกล้ารับ ปูไม่ชอบคนที่ไม่ตรงต่อเวลา และคนที่ผิดคำพูด

เมื่อได้เป็นนางเอก รู้สึกกดดันกับสิ่งนี้ไหม

การที่ปูเป็นนางเอกทุกวันนี้ ยอมรับว่ากดดันมาก ดังจริงมีชื่อเสียงจริง แต่มันก็แค่ในประเทศไทย ถ้าต่างประเทศ ก็เหมือนคนปกติทั่วไป ดังนั้นอย่าสำคัญตัวเอง ไม่มีใครสำคัญกว่าใคร ทุกอย่างต้องเท่าเทียมกัน

บทบาทที่ปูอยากแสดงมากที่สุด

เอาจริงๆ นะ ปูอยากเล่นบทที่เป็นดราม่าหนัก หรือบทแรงๆ เลย ปูอยากทำงานกับทีมงาน ที่เขาจะมาช่วยเคี่ยวเข็ญและผลักดันปูไปสู่การเป็นนักแสดงที่ดีที่มีความสามารถ ปูไม่อยากเป็นดารา แต่อยากเป็นนักแสดงมากกว่า ไม่ต้องนางเอกก็ได้ ขอให้ได้บทที่ส่งและดี (แล้วพระเอกที่อยากร่วมงานด้วยล่ะ) อยากเล่นกับพี่เวียร์ (ศกลวัฒน์  คณารส) เพราะพี่เวียร์เป็นนักแสดงที่มีความสามารถ และส่งอารมณ์ได้ดีมาก

ถามถึงเรื่องสัญญาหน่อย

สำหรับเรื่องสัญญากับช่อง ปูบอกเลยว่าปูรักช่อง 7 มาก ปูพูดทุกอย่าง อยากให้แยกปัญหาระหว่างค่ายกับช่อง ในวันที่ปูท้อ ปูก็จะคิดว่าเรามาไกลขนาดนี้แล้ว เราจะยอมแพ้ไม่ได้  กลับมาที่สัญญาอีกครั้งนะ เอาจริงๆ ปูก็ไม่ได้คิดจะไปอยู่ไหนหรอก

ตรวจเช็กสภาพหัวใจ

ความรักของปู

มีความสุขมาก (ยิ้มหน้าบาน)  เรื่องนี้พูดจากใจเลยทุกคนก็รู้ว่า ปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว ปูไม่ตามไม่ขออะไรจากโน้ต (วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์) เลย ไม่ต้องคอยถาม คอยหึงคอยเป็นห่วง ว่าโน้ตจะไปไหนยังไง เพราะโน้ตไม่ไปอยู่แล้ว  แล้วอย่างโทรศัพท์มือถือ ถ้าเขาวางไว้ ปูก็ไม่เคยเปิดดูเลยนะ เพราะปูเชื่อใจ และไว้ใจเขา ที่ผ่านมา ปูก็ไม่เคยเห็นว่าเขาจะเจ้าชู้อะไรเลยนะ

เรื่องแต่งต้องให้ "ชมพู่" แต่งก่อน

 ตามข่าวมีคนบอกว่า ถ้าปูแต่งงานก็ต้องให้พี่ชมพู่ (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) แต่งก่อน แล้วปูค่อยแต่ง มันไม่ใช่หรอก จริงๆ คือผู้จัดการปูขอไว้ (หัวเราะ) เอาจริงๆ นะ สำหรับปู ปูคิดว่ามันไม่เกี่ยว คือตอนนี้ปูอายุแค่ 25 เอง ยังไม่อยากคิดเรื่องแบบนี้ อันนี้พูดตามความจริง ว่ายังไม่พร้อมไม่ใช่ว่าปูไม่รักโน้ต  ปูรักโน้ตมาก คือเรื่องแต่งงาน ปูก็คิดว่าโน้ตรอได้ อีกอย่างปูไม่เคยกดดันเขาเลย

นิยามความรักของปู

วันๆ เราคิดแต่ว่า เราควรจะทำอะไรให้ชีวิตคู่ของเรามีความสุข ปูทำอะไร ปูจะบอกให้โน้ตรู้ทุกอย่าง ปูยอมทุกเรื่อง แต่ปูจะไม่ยอมเรื่องนี้เรื่องเดียวคือเรื่องเจ้าชู้ เรื่องมีกิ๊ก ปูไม่ยอม แต่ไม่ใช่ว่าจะไปตบตีกับใคร คือปูจะปิดเครื่องหนีเลย และนี่คือนิสัยของปู ถ้าใครเคยคบกับปู ก็จะรู้ ชีวิตคู่ปูนี่ไม่ได้หวานเหมือนคนอื่นคิดนะ ชีวิตคู่ปูจะสบายๆ ชิลๆ ไม่คิดอะไรมากมาย

ตัวตนของนางเอกสาวที่คุณต้องหลงรัก

รู้จักเธอคนนี้

ชื่อจริง นาตยา ลุนด์เบิร์ก

ชื่อในวงการ  ไปรยา สวนดอกไม้

ชื่อเล่น  ปู

เกิดเมื่อ  24 มีนาคม พ.ศ. 2532

จบการศึกษา  ;  มัธยมศึกษา โรงเรียนนานาชาติ New International School of Thailand (NIST)

ปริญญาตรี มหาวิทยาลัย Oxford Brookes ประเทศอังกฤษ สาขาปรัชญา ธุรกิจ และการเมือง

ผลงานที่ผ่านมา  รักได้ไหมถ้าหัวใจไม่เพี้ยน, สาวน้อยในตะเกียงแก้ว 2, สายน้ำสามชีวิต

ผลงานปัจจุบัน สะใภ้หัวแเดง

ผลงานต่อไป พรายพยากรณ์

ปู ไปรยา