แตงโม ตัดพ้อทำอะไรก็ผิด รับคิดน้อยก่อนโพสต์ไอจี

"แตงโม" ตัดพ้อคนเกลียดเยอะ แถมทำอะไรก็ผิด ยอมรับคิดน้อยไปก่อนโพสต์ไอจี ปัดไม่เคยระรานใครคนอื่น ตอนนี้กลับตัวดีขึ้นกว่าแต่ก่อน

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสาวที่สามารถสร้างความสนใจจากสังคมได้ตลอดเวลาจริงๆ สำหรับสาว แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ล่าสุดได้เจอเธอมาร่วมงาน “RICHDOG POOR DOG Season 4” ที่สยามเซ็นเตอร์ เลยต้องให้เคลียร์ทุกประเด็นสักหน่อย ทั้งเรื่องโพสต์ไอจีต่อว่าการทำงานของเออาร์ค่ายเอ็กแซกท์ ซึ่งเป็นคนดูแล โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์  แฟนหนุ่มของเธอ และเรื่องโพสต์แขวะโอปอล์ว่าเกี่ยวกับเรื่องสีผิว รวมถึงเรื่องที่เรียก “โตโน่” ว่า “สามี” ทั้งที่พยายามบอกกับทุกคนว่า ที่ผ่านมาแค่หมั้น ไม่ได้แต่งงาน

แตงโม เผยว่า  “สำหรับเรื่องไอจีจะมีหลายประเด็นหน่อย เรื่องแรกก็จะเป็นเรื่องของคุณเออาร์คนหนึ่ง อันนั้นก็จบไปนานแล้วในไอจี มันก็ไม่มีอะไรเรื่องก็เงียบมานานแล้ว ฉะนั้นขอเป็นเรื่องอื่นดีกว่า ที่หลายคนจะสงสัยว่าทำไมแตงโมถึงโพสต์ลงไปแบบนั้น จริงๆ โมอาจจะคิดน้อยไปนิดนึง อันนี้ก็ต้องขอประทานอภัยจริงๆ บางทีโมมีความคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ยอมรับความจริงและขอโทษเป็น แต่บางทีสำหรับบางคนอาจจะไม่ได้คิดแบบโมก็ได้ คนเราไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะถนัดคุยแบบส่วนตัว บางคนถนัดคุยที่ไหนก็ได้ โมก็ดันใช้มาตรฐานของตัวเองไปคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนตัวเอง  ฉะนั้นเลยเกิดความผิดพลาดขึ้นมา โมจึงต้องขอโทษที่มันเป็นเรื่องราวที่ไม่ดีเกิดขึ้นมา"


แตงโม ตัดพ้อทำอะไรก็ผิด รับคิดน้อยก่อนโพสต์ไอจี

"ส่วนเรื่องจะมีผลกระทบกับงานของพี่โตโน่  โมว่าในรายละเอียดแล้ว ถ้าคนที่ได้อยู่ในเหตุการณ์แล้วรู้เรื่องราวจริงๆ จะรู้ว่ามันไม่มีอะไร ซึ่งโมก็ได้เคลียร์ทุกอย่างและจบไปแล้วค่ะ สำหรับคนมองว่าแตงโมสร้างเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะดึงโตโน่ออกจากสังกัดของเขา จริงๆ กระแสที่ว่าโมจะดึงพี่โน่ออกมานั้นยังไม่เท่าไหร่ แต่จะมีกระแสที่บอกว่าโมทำเพื่อสร้างกระแสเพื่อตัวเอง
 
โมว่าตัวเองอยู่ในวงการมาระดับหนึ่งแล้ว โมไม่ต้องทำอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตก็ถูกจับให้ไปอยู่ในกระแสเองโดยอัตโนมัติ
 
ฉะนั้นโมรู้สึกว่าตรงนั้นก็เป็นระบบหน้าที่ของมันอยู่แล้วโดยที่โมไม่ต้องสร้างอะไรเพื่อตัวเองเลย ถามว่าจากเรื่องนี้มีผลกระทบทำให้แตงโมกับพี่โตโน่ระหองระแหงกันมั้ย จริงๆ เรื่องนี้กับเรื่องที่โมงอนพี่โน่มันคนละเรื่องกัน แต่พี่โน่คงไม่รู้ว่าโมงอนเขาเรื่องอะไร ส่วนเรื่องที่อันฟอลโล่พี่โน่นั้น เวลาโมงอนโมก็อันฟอลโล่ค่ะ ฉะนั้นเรื่องอันฟอลโล่เป็นเรื่องที่ปกติมาก ไม่ว่าจะงอนกับใครโมก็จะอันฟอลโล่ค่ะ แต่ว่ามันจะมีหน่วยจับผิดอยู่แล้ว แต่พอเวลาดีกันก็มาฟอลโล่เหมือนเดิม ตอนนี้เราไม่ได้เลิกกันค่ะ ในเมื่อเราสองคนช่วยกันสร้างครอบครัวแล้ว การที่จะเลิกกันหรือแยกออกจากกันมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้


แตงโม ตัดพ้อทำอะไรก็ผิด รับคิดน้อยก่อนโพสต์ไอจี

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นพี่โน่ก็ได้ติติงโมแล้วว่าอย่าเอามาตรฐานของตัวเองไปเป็นตัววัดว่า เวลาจะทำอะไรบนไอจีแล้วจะต้องเป็นอย่างที่คิด
 
เพราะคนอื่นอาจจะไม่ได้คิดเหมือนเราก็ได้ แล้วมันจะส่งกระทบที่ตามมาเป็นลูกโซ่ เพราะฉะนั้นก็อยากให้โมพิจารณาหลายๆ รอบก่อนที่จะลงอะไรในไอจี โมก็ต้องขอโทษจริงๆ ที่หลายครั้งโมอาจจะคิดน้อย หลังจากนั้นโมก็ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตัวเองขึ้นมาอย่างเร็วมาก”

ล่าสุดเราก็ไปคอมเม้นต์ในไอจีไปถึงโอปอล์ว่า “คนขาวใส่สีแดงยังไงก็ขึ้น” จนมีคนเข้าไปต่อว่าจำนวนมาก?  

“เรื่องพี่โอปอล์เป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ เหมือนอย่างโมกับพี่แซวกันเล่นๆ แต่อย่างที่บอกว่ามันจะมีหน่วยจับผิดหน่วยเหยียบย่ำอยู่แล้ว แต่ตัวโมกับพี่โอปอล์ไม่มีอะไรเลย คนที่เป็นเอามากและรู้สึกไม่เป็นสุขคือแฟนคลับของเราสองคน ซึ่งโมอยากจะบอกว่าไม่ต้องเป็นอะไร โมกับพี่โอปอล์รู้จักกันมาเป็นสิบปี โมเข้าวงการมาได้ไม่เท่าไหร่ก็รู้จักพี่โอปอล์แล้ว ครั้งแรกที่รู้จักกันโมแซวกันแรงกว่านี้อีก ซึ่งแต่ก่อนนี้ไม่ได้เป็นคนที่ถูกเกลียดมากขนาดนี้ แต่พอวันนี้โมมีครอบครัวโดยที่มีพื้นฐานจากคนที่ไม่เห็นด้วยเยอะ ฉะนั้นก็จะถูกจับตามองว่าอะไรๆ ก็จะผิดไปซะหมด อย่างที่พี่โอปอล์บอกว่าถ้าเป็นคนอื่นไปแซวพี่เขามันก็ไม่เป็นอะไร แต่พอเป็นโมก็จะผิดทุกเรื่อง โมคงต้องเป็นคนที่มีแฮชแท็กเป็นของตัวเองว่า แตงโมผู้คอมเม้นต์ใครไม่ได้"


แตงโม ตัดพ้อทำอะไรก็ผิด รับคิดน้อยก่อนโพสต์ไอจี

ส่วนถ้าคนจะมองว่าแตงโมเป็นคนชอบคอมเม้นต์ระรานคนอื่น คำว่า "ระราน" คือคนที่ทะเลาะกันมีปัญหากันแล้วไม่จบ

แต่โมไม่เคยมีปัญหากับใครเลย ฉะนั้นคำว่า "ระราน" ใช้กับกรณีแบบนี้ไม่ได้  โมเสียใจมากที่ทุกวันนี้ทำอะไรก็ผิดไปหมด เพราะรู้สึกว่าพอโมปรับปรุงให้ดีขึ้น แล้วก็ดีขึ้นในหลายๆ ด้านที่เห็นได้ชัดคือไอจีโมละเว้นเรื่องอื่นๆ ไปได้เยอะมาก เช่น เรื่องการเมือง โมเก็บมันเป็นเรื่องส่วนตัวแล้ว รวมถึงเรื่องการใช้คำพูดที่สุภาพ แต่การที่โมโพสต์คุยกับเพื่อนของตัวเองมันเป็นเรื่องปกติ แต่คนกลับมองว่าโมเป็นจำเลยของสังคม โมก็ค่อนข้างเสียใจว่า ถ้าเป็นคนอื่นก็คงไม่มีอะไร แต่ทำไมพอเป็นโมแล้วถึงได้ผิดไปทุกเรื่อง หรือว่าโมไม่ค่อยได้ออกงานเลยต้องมีข่าวเป็นกระแสออกมา เพื่อให้รู้สึกว่าโมทำอะไรไม่ได้ แต่ทั้งนี้เมื่อโมเริ่มใกล้ชิดกับศาสนามากขึ้น พอโมเป็นคริสเตียนที่ดี มารจะเริ่มทำงาน เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาไม่ว่าจะเป็นการถูกยัดเยียดให้เป็นจำเลยของสังคมหรืออะไรก็ตามถือว่าเป็นบททดสอบจากพระเจ้า

"หลังจากมีข่าว โมพิมพ์ไปบอกพี่ปอล์ผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ดูสิเราสองคนทะเลาะกันโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย พี่ปอล์ก็บอกว่าไม่ต้องคิดมากมันไม่อะไรเลย แกเอาเวลาไปเตรียมตัดชุดมางานแต่งงานชั้นดีกว่า อย่าคิดมาก เพราะชั้นรักแกเหมือนเดิม มันไม่มีอะไร งานแต่งของพี่โอปอล์ โมก็ต้องไปสิ ไม่ไปได้ยังไงคนรักกัน”


แตงโม ตัดพ้อทำอะไรก็ผิด รับคิดน้อยก่อนโพสต์ไอจี

แล้วไอจีอีกอันที่เขียนว่า “ขอบคุณสามี” ตกลงว่าใช้คำว่าสามีกับโตโน่แล้ว?
 
" จริงๆ แล้วตั้งแต่มอบชีวิตเราให้พระเจ้าดูแล นั่นคือการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่แล้ว ส่วนว่าจะเรียกพี่โน่ว่าสามีได้เลยไหม แล้วแต่ใครจะเรียกค่ะ เพราะมันก็มีข้อที่ขัดแย้งกันอยู่คือประเพณีของชาวคริสเตียนเราใช้ได้ แต่คนไทยถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนสมรสก็ใช้ไม่ได้ ฉะนั้นใครอยากเรียกอะไรก็เรียกเลยค่ะ แล้วแต่ หลังจากนี้ก็ลองติดตามโมดูเรื่องการโพสต์ไอจี  แล้วก็ย้อนไปอีกสักระยะหนึ่งประมาณหนึ่งเดือน  ลองดูได้เลยว่าตอนนี้โมเป็นคนใหม่แล้ว”


แตงโม ตัดพ้อทำอะไรก็ผิด รับคิดน้อยก่อนโพสต์ไอจี


แตงโม ตัดพ้อทำอะไรก็ผิด รับคิดน้อยก่อนโพสต์ไอจี


แตงโม ตัดพ้อทำอะไรก็ผิด รับคิดน้อยก่อนโพสต์ไอจี


แตงโม ตัดพ้อทำอะไรก็ผิด รับคิดน้อยก่อนโพสต์ไอจี

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์