ดาราวอนชาวต่างชาติเคารพวัฒนธรรมไทย

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ดาราวอนชาวต่างชาติเคารพวัฒนธรรมไทย

เป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยซิคะคุณขา

จู่ ๆ ตัวแทนจำหน่ายหนัง “องค์บาก” ของประเทศอิตาลีทำใบปิดหนังที่สร้างความเสื่อมเสียกับพุทธศาสนาออกมา โดยเอาเศียรพระไปไว้ที่ปลายเท้าของพระเอกหนุ่มนักบู๊ชื่อดังของไทย จา-พนม ยีรัมย์ ซึ่งภาพดังกล่าวทำให้เหล่าพุทธศาสนิกชนชาวไทยสะเทือนใจมาก งานนี้สหมงคลฟิล์ม บริษัทผู้สร้างหนัง “องค์บาก” เลยไม่รอช้าเดินหน้าส่งทนายไปเจรจากับทางอิตาลีทันที

จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง

แต่สุดท้ายแล้วก็ทำอะไรไม่ได้มาก แหม!เห็นแล้วก็เจ็บใจจริง ๆ จู่ ๆ ก็โดนฝรั่งอั้งม้อที่ไหนก็ไม่รู้มาลบหลู่ศาสนาของเราแบบนี้ อยากจะหาวิธีจัดการให้คนพวกนี้ได้รู้สำนึกซะบ้าง ว่าแล้วลองไปถามบรรดาศิลปินดารากันหน่อยดีกว่าว่า พวกเขารู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ และถ้ามีโอกาสพวกเขาอยากจะบอกอะไรฝรั่งพวกนั้นบ้าง

เริ่มที่ เมษ์-อรวรรษา ฐานวิเศษ กล่าวว่า

ที่ผ่านมาเมษ์ได้ยินข่าวว่า ฝรั่งนำเศียรพระประดับตกแต่งหรือไว้ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ซึ่งในฐานะที่เมษ์เป็นชาวพุทธเวลาได้ยินข่าวแบบนี้ เมษ์ก็ไม่ชอบ รู้สึกเสียใจที่เขาเอาสิ่งที่เราเคารพกราบไหว้ไปทำแบบนั้น แต่ก็ลองคิดในทางกลับกัน เขาอาจจะทำไปด้วยความไม่รู้ก็ได้

เมษ์เชื่อว่าถ้าเขารู้เขาก็คงไม่ทำ

อย่างเขาเองก็คงมีสิ่งที่เขาเคารพเขาก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของเรา ถ้ามีโอกาสเมษ์ก็จะอธิบายให้พวกเขาฟังว่า การกระทำของเขาไม่ถูกต้อง พระคือสิ่งที่คนไทยกราบไหว้ไว้เหนือหัว เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจคนไทยก็เหมือนเขาที่นับถือไม้กางเขน และพระเยซูค่ะ

ด้าน อาร์ต-สัจจากาจ จิตรพึงธรรม เผยว่า

ผมได้เห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เหมือนกันครับ บอกตรง ๆ เลยว่า รู้สึกไม่ดีเลยและยิ่งเวลาเห็นภาพที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก ก็จะรู้สึกว่าทำไมเขาทำกับวัฒนธรรมของเราแบบนี้ เพราะศาสนาและวัฒนธรรมเป็นประเพณีดั้งเดิมที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน สืบทอดกันมาหลายยุค หลายสมัย เป็นที่เคารพนับถือ และถือว่าเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ

คงไม่มีคนไทยคนไหนอยากให้ใครมาทำลายความศรัทธาของเรา

และถ้ามีโอกาสได้พูดคุยกับคนต่างชาติเราคงต้องให้คำแนะนำและบอกถึงเรื่องราวความเป็นไทยทั้งเรื่องศาสนาและวัฒนธรรมของเราให้เขารู้ เพราะด้วยความที่วัฒนธรรมต่างกัน ศาสนาต่างกัน เขาก็อาจทำอะไรที่ไม่เหมาะสมลงไปได้ จะด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม คงต้องชี้แจงให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของไทยให้มาก เพราะชาติเรา ศาสนาเรา ประเพณีเดิม ๆ ของเราคงไม่อยากให้ใครมาย่ำยีหรอกครับ

ฟาก เบนซ์-ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ กล่าวว่า

เบนซ์ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็มีข่าวที่ชาวต่างชาติเอาพระพุทธรูปไปตั้งไว้ในที่ที่ไม่สมควร ไม่ว่าจะเป็นผับ บาร์ ตามขั้นบันได ห้องน้ำ ฯลฯ ทำให้ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธรู้สึกไม่ดี เพราะพระพุทธรูปเป็นสิ่งที่พวกเราชาวพุทธศาสนิกชนให้ความเคารพนับถือ

เบนซ์ว่าต้องทำความเข้าใจกับชาวต่างชาติ

ให้เข้าใจว่า พระพุทธรูปเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาพุทธ ที่พวกเราชาวพุทธกราบไหว้บูชา เราต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ แต่ที่ผ่านมายังเกิดเหตุการณ์แบบเดิมซ้ำ ๆ กันอีก อาจจะเป็นเพราะว่า ไม่มีใครอธิบายให้ชาวต่างชาติเข้าใจอย่างจริงจัง เบนซ์อยากให้คนไทยที่นับถือศาสนาพุทธช่วยกันอธิบายให้ชาวต่างชาติเข้าใจในพระพุทธศาสนาของเรา เบนซ์คิดว่าถ้าเขาเข้าใจแล้ว เขาคงไม่กล้าที่จะเหยียดหยามหรือดูหมิ่นศาสนาของเราหรอกค่ะ

ต่อกันที่ บีม-ศรัณยู ประชากริช เผยว่า

ผมเคยอ่านข่าวแล้วเจอกรณีอย่างนี้หลายครั้ง ผมเห็นแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องนะ ลำพังแค่คุณตัดเศียรพระของเราไป เราก็โกรธจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งเห็นพวกเขาเอาเศียรพระไปทำเป็นของประดับตกแต่งหรือไปวางในที่ที่ไม่เหมาะสม ยิ่งทำให้เราเสียความรู้สึกมาก ๆ

ถ้ามีโอกาสผมก็อยากจะบอกเขานะว่า พระพุทธรูปคือสิ่งที่คนไทยนับถือสักการะเคารพบูชา

การที่พวกคุณนำเศียรพระมาทำแบบนี้เป็นสิ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้กับพวกเราชาวพุทธมาก คนไทยค่อนข้างเซ็นซิทีฟกับเรื่องนี้ก็เหมือนกับที่คุณนับถือและให้ความสำคัญกับไม้กางเขน ซึ่งผมคิดว่าเขาก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของเรานะ

ปิดท้ายที่ โอ๋-รุ่งระวี บริจินดากุล กล่าวว่า

โอ๋เคยอ่านเจอข่าวทำนองนี้หลายครั้ง ล่าสุดมาเจอเรื่องโปสเตอร์หนัง “องค์บาก” อีก ในฐานะที่โอ๋เล่นหนังเรื่องนี้ โอ๋รู้สึกว่า ในเมื่อเขาคิดว่าหนังเราดี ซื้อหนังเราไปเขาก็ควรให้เกียรติกับหนังไทยบ้าง

โอ๋ว่าต่างชาติเขาน่าจะรู้นะว่าพระคือสิ่งที่คนไทยนับถือ

แต่เขาก็ยังทำเพราะเขาคงมองว่าเป็นเรื่องตลก ทำออกมาให้ดูขำ ๆ กันมากกว่า โดยที่ไม่คำนึงถึงจิตใจคนไทยเลย โอ๋คงไม่มีสิทธิที่จะไปห้ามความคิดใครได้ แต่ถ้ามีโอกาสได้พูดกับพวกเขา โอ๋คงจะขอร้องให้เขาเคารพพระมากกว่านี้ พระเป็นสิ่งที่คนไทยนับถือเคารพสักการบูชากันมาช้านาน ถ้าเป็นไปได้เวลาทำอะไรก็ควรคิดหน้าคิดหลังและความเหมาะสมมากกว่านี้ค่ะ

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)