?ต๊อด-ศิณะ? หนุ่มโชคดี พิชิตใจ ?อั้ม-พัชราภา?

ดูเหมือนว่าพระเอกหนุ่ม ต๊อด ศิณะ อุ่นทรพันธ์ จะกลายเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ไปซะแล้ว หลังจากตกเป็นข่าวกับสาวสุดฮอต อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ หลายคนแอบอิจฉา ต๊อด ที่ได้ใกล้ชิดกับ สาวอั้ม เพราะเธอคนนี้ก็เป็นนางในฝันของหนุ่มๆ ทั่วประเทศ
วันนี้ถือเป็นโอกาสเหมาะ ได้พูดคุยกับ ต๊อด แบบตัวต่อตัวในกองถ่ายละคร พ่อแก กับ แม่ฉัน ละครซีรี่ส์ทางช่อง 3 ใครอยากรู้เรื่องราวแบบส่วนตั๊ว...ส่วนตัว ทั้งเรื่องงาน และ ความรัก หาคำตอบกันได้ที่นี่รับรองไม่มีผิดหวัง

ผลงานปัจจุบัน ?
ละครเรื่อง พ่อแก กับ แม่ฉัน คาแรกเตอร์ในเรื่องคล้ายๆ ตัวเอง คือ ปกติแล้วผมเป็นคนเฮฮาอยู่แล้วในหมู่เพื่อนในหมู่คนรู้จัก จะเหมือนกันตรงนี้ครับ ผมชอบแกล้งคน ชอบแกล้งเพื่อน ชอบทำอะไรแปลกๆ กับเพื่อน ในเรื่องเล่นเป็นเอก เป็นลูกของพ่อกับแม่ เป็นลูกชายคนสุดท้อง เป็นคนที่ทำอะไรแล้วไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลัง สร้างความวุ่นวายให้กับครอบครัว พูดอะไรไม่คิด ไม่ใส่ใจ

บทคล้ายๆ ตัวเอง เล่นง่ายมั้ย ?
ก็ง่ายกว่า (หัวเราะ)

มองว่าฝีมือในการแสดงเราเป็นอย่างไร ?
ให้ผมพูดเองเหรอ จากแต่ก่อนก็มีส่วนพัฒนาขึ้นนะ แต่ไม่ถึงขั้นดีเลิศ ผมก็พยายามทำให้ดีมากขึ้น ไม่ได้ไปเรียนอะไรเพิ่มเติม อาศัยการเล่นละครอย่างเดียว

มีอะไรที่ต้องพัฒนาอีก ?
มีครับ เป็นเรื่องของความจำ ผมความจำไม่ค่อยดีมั้ง คือ ท่องบทแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ลืมอีกแล้ว (หัวเราะ)ต้องพยายามท่องบทให้เยอะ ทำการบ้านหนักกว่านี้ บางทีแบบว่าเรากำลังเบลอๆ มา ตื่นเช้าส่วนมากตื่นเช้าแล้วจะเบลอๆจำไม่ค่อยได้ครับ ก็ต้องค่อยๆนั่งท่องไป แล้วก็เรื่องตื่นเช้า เป็นคนตื่นยากจะมีปัญหาที่มากองช้า(หัวเราะ ) แล้วก็โดน พี่เต๋าว่าเข้าให้

เสียงตอบรับจากคนรอบข้าง ?
ก็ดีใจครับ ที่เขาติดตามละคร เขาบอกว่าละครตลกดี เป็นละครเกี่ยวกับครอบครัว คนรอบข้างเขาก็ดูกัน บางคนเขาอยู่กับครอบครัวก็นั่งดูกัน

ชีวิตในวงการบันเทิง เป็นเหมือนที่เราคิดไว้หรือเปล่า ?
ก่อนเข้าตอนแรก ต๊อด มองว่าเป็นชีวิตอีกอย่าง ตอนนั้นยังไม่ทันได้จับต้อง ยังไม่ทันได้รู้จัก แล้วก็มองว่าคนในวงการมีแต่คนใส่หน้ากากหรือเปล่า ทำเป็นดีต่อหน้าลับหลังไม่ใช่หรือเปล่า แต่หลังจากที่มีโอกาส เข้ามาทำตรงนี้ก็รู้ขึ้นเยอะว่า คนในวงการบันเทิงก็เหมือนคนทั่วไปแหละ แต่ตรงนี้มันเป็นงานที่เขาทำ เป็นงานแสดง ต้องมีการใส่อารมณ์หรือว่าใส่หน้ากาก ว่ากันไป แต่หลายคนที่ผมรู้จักก็ไม่ใช่ คนก็คือคนเหมือนกันครับ คือว่าเขาแค่ทำตามงาน ตามบทละครที่เขียนมาเท่านั้นเอง

ที่บ้านห่วงอะไรในตัว ต๊อด มากที่สุด ?
การเรียนครับ เพราะว่าผมต้องทำงานด้วยเรียนไปด้วย แล้วผมเรียนคณะ สถาปัตยฯ คณะนี้ค่อนข้างหนักอยู่ ผมต้องทำงานตลอด ในความคิด คือ ผมไม่รู้ว่าผมจะทำงานในวงการได้อีกนานเท่าไหร่ พอจบละครไปแล้วไม่มีงานขึ้นมา ถ้าผมไม่เรียนไว้ ผมไม่รู้ว่าจะมีความรู้อะไรในการทำงานต่อไป แล้วด้านที่ผมเรียน คือด้านที่ผมรักและชอบที่สุดในการออกแบบอะไรพวกนี้ ถ้าเกิดหมดงานละคร ผมก็เรียนอย่างเดียว คงต้องเรียน เพราะอนาคตต้องใช้

เรื่องเรียนกับเรื่องความรัก ที่บ้านจะซีเรียสเรื่องไหนมากกว่ากัน ?
การเรียนครับ ความรักพ่อกับแม่ให้อิสระในการตัดสินใจอยู่แล้ว

ความรัก ?

ดีครับ จริงๆ ก็ใช้ชีวิตปกติครับ คือ มีคนเป็นห่วงเป็นใยเท่านั้นเอง (หัวเราะ) ครับผม

ตั้งแต่เป็นข่าว กับ อั้ม ทางบ้านเป็นห่วงมั้ย ?
ก็เขาเป็นห่วง เขากลัวเราจะคิดมากจะเครียด เขาได้แต่ให้กำลังใจเท่านั้นเอง เราก็บอกเราโตแล้วนะเราก็มีความคิดของเรา รู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี

เครียดมั้ย ใครๆ ก็ถามถึงแต่เรื่องนี้ ?
ก็บางทีก็เครียด เราไม่ได้อะไรซะหน่อย คือ แบบว่าเรารู้จักกัน บางทีเขาไปเขียนแล้วมันเกินไป ใส่ไข่หรือเปล่าเนี่ยะ (หัวเราะ) แต่บางทีก็ตลก บางทีก็เครียดอยู่เหมือนกัน

อายุห่างกัน มีปัญหาระหว่างวัยมั้ย ?
มีมั้ย ( นึกนาน ) ไม่มีนะ พี่เขาทำตัวเด็กจะตาย (หัวเราะ) ทำตัวเด็กมาก ทำเหมือนอายุ 20 คือ ความคิดเขาเป็นผู้ใหญ่ แต่บางทีคุยกับผม ผมรู้ว่าผมอายุน้อยกว่าเขาก็พยายามมองในมุมที่ผมคิด ผมก็เหมือนกันผมก็มองมาก คิดมากขึ้นกว่าเดิม

อั้ม เป็นผู้หญิงสวย มีเสน่ห์ กลัวมั้ยว่าวันข้างหน้า จะมีคนอื่นมาแทนที่เรา ?
ไม่นะ แต่ก็หวั่นอยู่ในเมื่อเราสนิทกับเขาแล้ว ในอนาคตถ้าเขามีคนอื่น ไปสนิทกับคนอื่นมากกว่าเราก็เข้าใจ เหมือนผมกับเพื่อนผมที่เมื่อก่อนสนิทกันมากไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด นี่พูดถึงเพื่อนผู้ชายนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด (หัวเราะ) แล้วจนถึงวันนี้ ปัจจุบันนี้ผมกับเขาก็ไม่ได้เจอกันเลย ทั้งๆ ที่ไม่ได้โกรธ ไม่ได้อะไรกัน คือต่างคนต่างทำโน่นทำนี่

ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จริงๆ จะเสียใจหรือเปล่า ?
(หัวเราะ) คือ คำว่าสนิทมันก็ยังสนิทอยู่ ก็ยังคุยกัน (หัวเราะ)

เมื่อก่อนเหมือนไม่ค่อยยอมรับว่าสนิทกัน จนฝ่ายหญิงต้องออกมาพูดก่อน รู้สึกโล่งขึ้นมั้ย ?
ก็โล่งครับ คือจริงๆ ผมเป็นคนไม่ค่อยปิดบังอะไรอยู่แล้ว คือ พูดอะไรตามที่เกิดขึ้นจริง คือ เมื่อเขาพูดแบบนี้แล้วผมก็บอกเลยว่าเออ ผมสนิท

เวลาไปไหนมาไหนกัน ก็โดนแอบถ่ายปาปาราซซี่ ?
ทำใจไว้แล้ว (หัวเราะ) ทุกครั้งที่ไปไหนด้วยกัน คือ ทำใจแล้ว (หัวเราะ) ถ้าไม่โดนก็ถือว่าโชคดีไป(หัวเราะ)บางทีมีเรื่องมีอะไรต้องไป ไปซื้อของ ในร้านส้มตำไปถึงก็จะกินส้มตำ ส้มตำ อย่างเดียวเราไม่นึกว่าจะ อ้าว พี่ช่างภาพมานั่งข้างๆ แล้วถ่ายกันอย่างนี้เลยเหรอ (หัวเราะ) ช่างภาพเลยครับไม่ใช่มือถือ เต็มๆ เลย คือ มันห่าง 2 โต๊ะเอง เราก็ไม่รู้หรอก มันใกล้เกินไป ลุกปุ๊บ โดน แชะๆๆๆ กันอย่างนี้เลยครับพี่ เห็นๆ กันเลย ใกล้ขนาดนี้เลยเหรอ เต็มๆ ครับ (หัวเราะ)

รูปที่ออกมา ดูฝ่ายหญิงจะตื่นเต้นกว่าเราอีกนะ ?
ตื่นครับ ตื่น (หัวเราะ) คือ เขาจะบอก ทีหลังถ้าจะถ่ายขอสวยๆได้มั้ย (หัวเราะ) คืออย่าถ่ายตอนที่เขา
เหวอ หน้าออกมาแต่ละรูปเขาดูไม่ได้ เขาบอกแบบนี้

สรุปแล้วกลายเป็นผู้ชายที่โชคดีที่ได้สนิทกับ อั้ม ?
จริงๆไม่ต้องอิจฉาผมก็ได้ คือพี่เขาเป็นคนอัธยาศัยดี ถ้าใครคุยกับเขา คุยดีกับเขา เขาคุยด้วยกับทุกคน คือไม่ใช่ปัญหาที่ว่าเขาหยิ่ง หรือว่าจะไม่คุยด้วย คุยด้วยได้ คือ เขาคุยกับทุกคนที่มาคุยด้วย คือ กล้าที่จะคุยกับเขา เขาก็คุย ผมก็คุยกับเขาปกติ เหมือนคนคุยกันทั่วๆ ไป เราคุยกันได้เกือบทุกเรื่องประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าอยู่ในระดับที่พอใจ

ตอกย้ำความหวานกันแบบนี้ ยิ่งทำให้น่าอิจฉาเข้าไปใหญ่...