ชมพู่ อารยา เซ็กซี่มีสมอง

อาทิตย์ที่ 19 สิงหาคมนี้

คนไทยต้องออกเสียงครั้งสำคัญ กับการไปลงประชามติรับร่างหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 50 เพราะถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศชาติและการเมืองบ้านเรา
ส่วนคอลัมน์ “ดาวต่างมุม” ในสัปดาห์นี้ เราได้นางเอกสาวสุดเซ็กซี่ที่มีรางวัลเป็นเครื่องการันตีอย่าง “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์ เก็ต” มาเปลือยหัวใจแบบหมดเปลือก โดยเฉพาะกับฉายา “นางเอกแหกคอก”

อัพเดทงานก่อน ตอนนี้ชมพู่มีละครเรื่องใหม่หรือยัง

“ตอนนี้ก็พักค่ะ ละครเรื่องใหม่มีคุยกันไว้แล้วก็เป็นของดาราวิดีโอ เรื่อง แสงดาวในหัวใจ และค่ายโพลีพลัส อีกเรื่องหนึ่ง ของดาราวิดีโอ เท่าที่รู้ล่าสุดเล่นกับพี่มอส อีกเรื่องหนึ่งเป็นของโพลีพลัส เท่าที่ทราบบทแตกต่างกันมาก เรื่องหนึ่งเป็นนางเอก อีกเรื่องเป็นตัวอิจฉา อ่านบทก็แซบมากแฮปปี้เลย ร้ายแบบว่าฆ่าคน ร้ายแบบบงการ ร้ายแบบว่าเหยียบหัว สรุปคือมันร้ายมาก”


ตัดสินใจอยู่นานมั้ยกับการพลิกมารับบทร้าย

“ก็สุมหัวกันคิดกันเป็นวัน ๆ แต่ก็คือบทมันแซบไง ก็น่าจะลองวัดดู ที่รับชมมองว่าหนึ่งเราก็เป็นนักแสดงของช่องก็อยากจะทำให้เค้าทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ แล้วก็มองว่าอันนี้เค้าก็ให้เกียรติเราพอสมควร อย่างเรื่องอื่นเราอาจจะรู้สึกว่ามันต้องเล่น แต่เรื่องนี้เค้าก็ให้เราคิดไม่ใช่บังคับว่าต้องเล่น ที่บอกว่าเล่นร้ายแล้วกลับมาเป็นนางเอกยาก ชมเฉย ๆ เพราะนางเอกในช่อง 7 ก็ผ่านแบบนี้มาแล้วทุกคน”

ชมพู่เองถือว่าเป็นนางเอกระดับแถวหน้าของช่อง 7 เรากดดันมั้ย

“คือ เราต้องรู้จักตัวเองก่อน เราอยู่ในวงการมา 7-8 ปี มันก็ผ่านช่วงที่แบบว่าสับสน เฮ้ย ! แล้วฉันจะไปอยู่ตรงไหนวะ หรือว่าทำไมฉันไม่ไปอยู่ตรงนั้น ไม่อยู่ตรงนี้ ชมว่ามันก็ผ่านแล้ว แต่ว่าเราต้องรู้จักตัวเราเองว่าเราได้แค่ไหน ต้องภูมิใจในตัวเองกับสิ่งที่เราได้ทำลงไป”


หลายคนบอกว่าชมเป็นนางเอกแหกคอก

“จริงเหรอ…อย่างเรื่องถ่ายแบบเซ็กซี่ชมไม่ใช่นำโด่ง มันมีตัวนำ เค้ามีแกนนำ ก็ไม่ได้แหกคอกอะไร แต่ก็อาจจะมีบ้างที่ว่าเราตัดสินใจอะไรโดยที่เราอาจจะตัดสินใจเอง เรียกว่ามันเป็นการลองผิดลองถูก ชมก็ไม่ได้บอกว่าชมตัดสินใจถูกทุกครั้ง”

เส้นทางที่ชมเลือกหันมาเดินแบบ ถ่ายภาพเซ็กซี่ชมคิดว่าตัวเองเลือกถูกมั้ย

“ก็ไม่ได้เลือกว่าจะต้องเป็นภาพเซ็กซี่ ถามว่าวันนี้พอใจมั้ย ก็พอใจ ถึงแม้ว่ามันจะมีผิด มีพลาดมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เราอาจจะเสียใจแต่ว่า ณ วันนี้ก็คือภูมิใจกับทุกสเต็ปของชีวิตที่เราผ่านมา”


อย่างเรื่องการถ่ายแบบด้วยความที่เรามีรางวัลสาวเซ็กซี่ค้ำคออยู่เลยต้องพร้อมที่เซ็กซี่มากขึ้นด้วยมั้ย

“ชมว่ามันไม่ต้องดูมากขึ้น ไม่ใช่เพราะว่าเรามีรางวัลเซ็กซี่แล้วเราจะแต่งตัวแรงตลอด อีกอย่างหนึ่งเพราะว่าเดี๋ยวนี้คนมันไว้ใจยากขึ้นในการทำงาน แล้วทุกคนจะเอาเซ็กซี่กันหมด ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไรก็เซ็กซี่เอาไว้ก่อน ชมว่าบางครั้งมันเป็นเหตุผลบังคับให้ดาราต้องเซ็กซี่”

แล้วชมพู่มองวงการยังไง ที่ทุกคนพร้อมใจกันเซ็กซี่

“ชมอยากจะให้คนที่วิพากษ์วิจารณ์ เค้าเปิดใจนิดหนึ่ง เพราะจริง ๆ แล้วทุกอย่างก็คือการทำงาน ตัวชมเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะขายขนาดนั้น เราก็ต้องดูด้วยว่างานที่ไปเป็นงานยังไง แล้วแต่งตัวยังไงให้เหมาะสม ชมว่าเรื่องกาลเทศะเป็นสิ่งสำคัญ”


ชมคิดยังไงกับคำว่า “เงินมาผ้าก็หลุด”

“แน่นอนถ้าไม่มีเงินผ้าก็ไม่หลุดถูกมั้ย ถ้าพูดกันตามตรง แต่เงินก็ไม่ใช่ทุกอย่าง ไม่ใช่ปัจจัยหลัก แต่ก็ไม่ ใช่ว่าฉันจะแก้ผ้าฟรี ถูกมั้ยคือผู้หญิงทุกคนมีความเซ็กซี่อยู่ในตัว อย่างของ ชมก็น่าจะมาจากงานที่ชมทำซะเป็นส่วนใหญ่ คงไม่ใช่มาจากตัวเอง เพราะว่าถ้าคนรู้จักกันก็จะแบบที่เห็น สนุกสนานไปเรื่อย”

ด้วยภาพของเราที่ผ่านมาค่อนข้างเซ็กซี่ แต่ตัวตนที่จริงของชมเป็นยังไงกันแน่

“(หัวเราะ) ชมว่าชมเป็นคน รีแล็กมาก แล้วก็ไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกคนอื่นนะ ประมาณว่าไม่ค่อยสนโลก แต่ไม่ถึงขั้นติสต์หรือเป็นเทพ-เทวดาไม่ถึงขั้นนั้น”


หลายคนมักจะพูดว่าคนในวงการเซ็กซี่ไร้สมองชมรู้สึกยังไง

“พูดแบบนี้ ต้องรีบ กลับไปทำวิทยานิพนธ์ให้จบล่ะ (หัวเราะ) มันก็มีทั้งตัวอย่าง ที่ดีและไม่ดี ชมว่าอย่างที่บอกอยากให้เปิดนิดหนึ่ง ไม่ใช่ว่าคิดอะไรไม่ออกเอะอะ ก็แก้ผ้า ถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นมันจะได้การยอมรับอะไร อย่างชมเองก็รีบเร่งที่จะเรียนให้จบปริญ ญาโทเร็ว ๆ ก็เหลือแค่ทำทีซีสอย่างเดียว”

อย่างที่บอกว่าเรามีรางวัลเรื่องความเซ็กซี่ค้ำคออยู่มันทำให้เรากดดันหรือเปล่าเวลาเราจะออกงาน

“คือชมเป็นคนชอบแต่งตัวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นแฮปปี้ที่จะเป็นแบบนี้ก็สนุก มันมีโจทย์ให้คิดทุกวัน ชมสนุกที่ได้แต่งตัว ชมยอมรับว่าบ้าแฟชั่น แต่ไม่ได้แบรนด์เนมทั้งหมด คนที่เค้าแบบว่าฟูลออพชั่นกว่าเราก็มีตั้งเยอะแยะก็ไม่ได้อยากให้มาจับตามอง เดี๋ยวคนที่เขาเป๊ะกว่าเราเค้าจะหมั่นไส้เอา อุ๊ย ! แค่นี้เหรอ ! อะไรอย่างนี้จริง ๆ ก็ผสมผสานกันไปถูกบ้างแพงบ้าง ถ้าบอกว่าการที่ชมชอบแฟชั่นมันเป็นการเติมเต็มชีวิตก็ใช่เพราะมันมีความสุข”


เอาเรื่องเรียนบ้างตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว เห็นบอกว่าใกล้จะจบเต็มที

“ตอนนี้ก็เหลือวิทยานิพนธ์เหมือนเดิม คือจริง ๆ ต้องจบไปเป็นปีแล้วแต่ชมเก็บหมด ส่วนหนึ่งเป็นช่วงที่ชีวิตอาจจะงง เลยขอพัก ขอหยุด ตอนนี้ก็จะพยายามบริหารให้มันไปกันได้ เพราะว่าชมก็มีโครงร่างวิทยานิพนธ์แล้ว คือชมทำวิจัยคุณภาพเพราะฉะนั้นสิ่งที่ชมต้องทำคือออกไปหากลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูล แล้วก็เขียน การที่ชมหันมาเรียนปริญญาโทเกี่ยวกับจิตวิทยา ตอนแรกเลยชมอยู่ปี 1 ที่ ม.รังสิต ก็ไปลงวิชาเรื่องนี้ วิชาจิตวิทยาทั่วไป และก็รู้สึกว่ามันสนุก มันจะมีทฤษฎีจิตวิทยาหลาย ๆ ทฤษฎีรู้สึกสนุกจังเลยและก็ได้ท็อปของทั้งหมดด้วย แล้วชมไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่พี่โจ-มณฑาณี แปลไว้ เราจะข้ามเวลามาพบกัน ซึ่งต้นฉบับคนเขียนเป็นนักจิตวิทยาพออ่านแล้วก็ชอบมันจุดประกายให้เรา”

การเรียนจิตวิทยามันให้อะไรกับเราบ้าง

“มันให้เราเยอะกว่านั้น แต่มันไม่ได้สอนสะกดจิต คืออย่างอาจารย์ที่ชมนับถือ เขาเป็นจิตวิทยาแนวพุทธ ซึ่งหน้าแบบนี้เราคงไม่มานั่งอ่านพระไตรปิฎก ฟังธรรมะ คือพอเราไปเรียนได้ไปนั่งฟังเหมือนเราได้ซึมซับแบบประสบการณ์ของเค้า มันทำให้เราอยู่กับความเป็นจริงได้อย่างสอดคล้อง มองในแง่ดี”


แต่นางเอกช่อง 7 การที่จะขึ้นมาอยู่อันดับต้น ๆ ค่อนข้างยาก ชมพู่รักษามันยังไง

“ชมว่ามันก็ยาก เพราะว่าตอนนี้ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของกระแส การที่ใครสักคนจะขึ้นมามันเป็นเรื่องของกระแสลมเพลม พัด แต่ชมคิดว่าการที่ชมได้มายืนตรงนี้มันเป็นการสะสม เราต้องทำไปเรื่อย ๆ จนแบบว่าวันหนึ่งคนจำเราได้ แต่ก็ว่าชมโชคดีที่ผ่านตรงนี้มามันสอนให้เรารู้คุณค่าของการทำงาน”

อยู่ในวงการมา 7-8 ปีแล้ว คิดว่าข่าวไหนที่รู้สึกว่ามันแรงสุด ๆ และเรารับกับมันไม่ได้จริง ๆ

“ส่วนมากถ้าเป็นข่าวเลยนะ ไม่ค่อยมีหรอก แต่ว่าเดี๋ยวนี้จะเป็นอะไรที่มันคอยเป็นข่าวมาก กว่า ประเด็นที่แรงที่สุดก็คงเป็นเรื่องเซ็กซี่ เพราะอาจจะหมั่นไส้นิดหนึ่งประมาณว่าแผ่วก็เลยแก้ผ้าซะงั้น หรือแก่แล้วสู้น้องไม่ไหวก็จะเป็นอะไรลักษณะแบบนี้ เขียนก็เขียนไป แต่บางคนมาถามด้วยก็จะไม่เข้าใจว่าจะถามทำไม สะใจมั้ยที่ได้ถามเรารู้เจตนาเค้าว่า เค้าต้องการให้เรารู้สึกอะไร เพราะมันไม่น่าจะมีประโยชน์ อะไรเลยคำถามนี้”


ถามเรื่องความรัก ณ วันนี้พอความรักมันผ่านอะไรมาเยอะทำให้เรามองมันเปลี่ยนไปมั้ย

“ก็คิดเยอะ จริง ๆ ก็มีคนเข้ามามันแบบผ่านมาก็ผ่านไปเป็นระลอก ๆ แบบนี้ คือถ้าไม่ ใช่ชมก็จะไม่เสียเวลา เพราะชมไม่ใช่คนที่คุยกันไปก่อน แต่ก็ไม่ได้มีเข้ามาเยอะมาก อย่างไฮโซก็มี ก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะศึกษาชมคิดว่าถ้าไม่ใช่จะเสียเวลาทำไม”

กลัวมั้ยว่าดาราบางคนจะถูกมองว่าเป็นของเล่นไฮโซ

“มันก็ต้องศึกษากันดี ๆ ซึ่งเกิดเป็นดารามันน่าสงสารตรงนี้ บางทีมันอยากจะเรียนรู้อยากรู้จัก แต่ไม่ทันอะไรก็เป็นข่าวแล้ว ความรักครั้งใหม่ของชมง่ายมากแต่มันยากที่สุด ชอบคนเก่งแต่ไม่ได้ชอบคนที่เก่ง (หัวเราะ) ถามว่าพร้อมมั้ย มันก็พร้อมแต่ขอได้คนที่บอกไว้ก่อน ตอนนี้ยังไม่รีบ”

และนี่ก็คือแง่คิดบางมุมของนางเอกแหกคอก “ชมพู่-อาร ยา” เชื่อว่าคุณจะได้รู้จักตัวตนของผู้หญิงคนนี้มากขึ้น แต่ยังไงก็อย่าลืมออกไปใช้สิทธิลงประชามติรับร่างหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเพราะอนาคตของชาติอยู่ในมือคุณ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์