แง้มหัวใจลูกผู้ชาย ชื่อ โตโน่ ภาคิน ทำในสิ่งที่เชื่อเชื่อในสิ่งที่ทำ

          เขาไม่ใช่ตัวแทนผมนะ เขาเป็นตัวละครหลัก และทำงานได้ดี ผมได้ดูผลงานละครเขา และผมรักทีมงานละครทุกคนในละครเรื่อง จ้าวพายุ แต่ด้วยเวลาตอนนั้นผมไม่สามารถรับละครซ้อนได้จริงๆ แต่ไม่อยากให้คนมองว่าไนกี้มาแทนผม เพราะเขามีความสามารถทุกอย่างที่จะเล่นในแบบของเขา เขามีรูปร่างดี หน้าตาหล่อ และมีไฟ ที่จะทำงานเพื่อเอ็กแซ็กท์ หรือเพื่อคนดูของเขา เผลอๆ เขาอาจจะเล่นได้ดีกว่าผมด้วยซ้ำ ผมดีใจกับไนกี้มาก ที่เขาได้เล่นเรื่องนี้ ฉะนั้นทุกคนไม่ต้องคาใจอะไรเลย รวมถึงแฟนๆ ของผมและแฟนๆ ของเขาด้วย

    

          ไม่ผิดหรอกที่จะมีคนมองอย่างนั้น เพราะทุกคนมีสิทธิ์คิด แต่จะคิดดีหรือไม่ดี ก็แล้วแต่คน เป็นเรื่องปกติ แต่ตัวเราไม่มีหน้าที่จะต้องโอนเอนไปตามความคิดของคนอื่น แต่เรามีหน้าที่ในการหนักแน่นในสิ่งที่เราเลือกเดิน เรามีหน้าที่เดินไปข้างหน้า มีหน้าที่ดูแลคนที่เรารัก ดูแลองค์กร และทีมงานของเรา แต่เมื่อไหร่ที่เราต้องคอยเดินตามความคิด หรือคำพูดของคน เราคงไม่สามารถเดินเป็นเส้นตรงได้ เราคงจะเดินไปทางไหนก็ไม่รู้ ผมยังเชื่อในความคิดของตัวเอง ตราบใดที่มันไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น

 

   

          ต้องหนักแน่น และทำความเข้าใจกับมัน เราอยู่ในสังคมนี้ เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า นักแสดงดารา นักร้อง นักข่าว เหมือนพี่น้องกัน ต้องมีทั้งข่าวดีและไม่ดี แต่สำหรับตัวผม ในใจลึกๆ เรายังมีความสุขที่พวกพี่ๆ นักข่าวให้ความสนใจผม หรือว่าใส่ใจผม เรารู้ว่าเรามีหน้าที่อะไรและต้องทำอะไร แต่กับสิ่งเร้าภายนอก คงทำให้เราแกว่งไม่ได้ ทั้งในเรื่องของข่าวที่ดีและไม่ดี ข่าวไม่ดีเราก็แค่มีสติว่า จะต้องพูด หรือแก้ปัญหาอย่างไร ที่จะทำให้คนเข้าใจเท่านั้นเอง เหมือนลมที่พัดมาแล้วพัดผ่านไป

    

          คือผมไม่รู้จะอธิบายยังไง ถ้าผมไปเล่นยา ไปยิงคนตาย หรือมีเรื่องกับคนอื่น มันคงต้องเป็นเรื่องใหญ่ แต่ผมไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้น แต่ที่ผ่านมาแค่การที่ผมรักผู้หญิงคนหนึ่ง ผมอยากจะบอกรักเขาในอินสตาแกรม ผมก็บอกรักเขา แล้วมันแปลกตรงไหน หรือแฟนผมรักผม ก็แค่บอกว่ารักผม หรือจะให้เราโกหก เราทำไม่ได้ เพราะบ้านผมไม่ได้สอนผมมาในสไตล์นั้น สอนให้ผมเป็นคนแบบนี้ ถ้าวันหนึ่งผมเดินออกไปแล้วโดนรถชนตาย ผมจะเสียใจมั้ย ที่ไม่ได้พูดว่าผมรักเขา ผมมั่นคงกับเขาคนเดียว เขาคือหัวใจผม ผมคงรู้สึกว่าเกิดมาเป็นลูกผู้ชายทั้งที แต่ไม่กล้าพูด ผมคงเสียดายชีวิตผม

    

          ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ผมไม่เชื่อว่า วงการนี้คนที่เป็นสไตล์แบบผมจะอยู่ไม่ได้ เมื่อก่อนชีวิตเราตอนที่ไม่ได้เป็นดารา มันกระท่อนกระแท่นมาในการหาเงิน แต่ผมมีความสุขได้ ถ้าวันนี้ให้ผมกลับไปเหมือนเดิม ผมรู้ว่าผมก็จะมีความสุขได้เหมือนกัน มันไม่สำคัญว่า เราจะอยู่ในสังคมไหน หรือฐานะไหน แต่สำคัญอยู่ที่ว่าเราเป็นคนจริงไหม ถ้าเราจริงใจกับเพื่อน จริงใจกับสังคม จริงใจกับโลก อยู่ที่ไหนเราก็เป็นเรา แต่ถ้าเรามัวแต่คิดถึงแต่ตัวเราเอง ทำอะไรเพื่อหวังผลว่า เราจะได้รับอะไรบ้าง หรือไม่คำนึงถึงจิตใจของคนที่เรารัก ของสังคมที่เราอยู่ ผมคิดว่าชีวิตไม่มีความสุขหรอก

  

000ช่วงที่ท้อได้กำลังใจจากใครบ้าง         

     

          ได้จากแฟนคลับที่เข้าใจ จากครอบครัวของผมและของโม (แตงโม) อดีตที่ผ่านมา ผมเจอเรื่องหนักกว่านี้อีก พ่อตาย บ้านเป็นหนี้ แม่ผอมเหลือแต่กระดูก ดื่มแต่กาแฟ ผมตื่นขึ้นมาเจอแม่ร้องไห้ทุกวัน เพราะคิดถึงพ่อ ชีวิตผมหนักกว่าเยอะ ภาพนั้นโหดร้ายกว่านี้อีก ถ้าการที่ผมพูดแบบนี้ จะทำให้คนติดว่าผมเป็นคนไม่ได้ หรือรับในตัวของผมไม่ได้ คงเป็นเรื่องของเขา เพราะชีวิตผมเจอเรื่องหนักกว่านี้มาแล้ว ถ้าเราเชื่อว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันดี เราคิดดี ทำดี พูดดี การที่เราต้องคอยมาโกหกแฟนคลับ เพื่อให้เขามายืนกรี๊ดเรา ทั้งที่ความจริง เราไม่ได้เป็นเหมือนที่บอกเขา นั่นคือสิ่งที่คุณบอกว่ารักเขาเหรอ ผมไม่เชื่อหรอก

    

          ใช่ แต่เราไม่ได้มีหน้าที่ไปเกลียดเขา มีคนที่เราเกลียดเรา แต่เราไม่จำเป็นต้องไปเกลียดเขาตอบ เราอธิบายให้เขาฟัง แต่ถ้าเขาไม่เข้าใจ เราคงทำอะไรไม่ได้ เรามีหน้าที่ตอบแทนให้เขาอย่างเดียว โดยการทำผลงานออกมาให้ดี พัฒนาตัวเอง ทั้งในเรื่องละครและงานเพลง  เราแค่ต้องทำในสิ่งที่ได้ทำ แต่แฟนคลับที่เข้าใจและสนับสนุนก็มี

 

   

          คุณแม่จะบอกว่าคิดถึง และบอกว่าเป็นห่วง ผมจะพาโมไปหาคุณที่ จ.ขอนแก่น บ้าง คุณแม่จะได้เห็นว่าเรารักกันจริง จะได้สบายใจในจุดนี้ หรือแม่จะมาหาเราที่กรุงเทพบ้าง เขาจะได้เห็นว่าเราเป็นอย่างไร

    

          เขาเป็นคนแข็งนอก อ่อนใน กับคนอื่นๆ อาจจะคิดว่าเขาเป็นคนพูดตรง กล้าได้ กล้าเสีย แต่กับผมเขาเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีมุมอ่อนโยน อ่อนไหว เขามีความละเอียดอ่อน และรักครอบครัวผม มีมุมอ่อนหวาน และแคร์ความรู้สึกคนอื่นมาก ไม่ว่าเราจะเจออะไร เรามีหน้าที่เดินไปด้วยกัน ผมไม่มีทางทิ้งเขาแน่นอน

          ผมไม่รู้ความคิดของคนอื่น แต่เวลาที่เรารักใครคนหนึ่งแล้ว ผมไม่คิดเปลี่ยนใจ แต่เราต้องเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ เพราะปัญหามีเข้ามาได้ตลอด

    

          คือผมเคยพูดไว้นะว่า จะไม่สักชื่อคนไว้บนตัว แต่ตอนนั้นเรายังไม่เจอใครที่คิดว่าจะรักได้ขนาดนี้ แต่ตอนนี้เจอแล้ว ก็เลยสักเท่านั้นเอง ผมมีความสุขก็ทำ

    

          เรื่องงาน ผู้ใหญ่บอกให้พัฒนาให้เต็มที่ เพราะเขาจะดูในเรื่องความเปลี่ยนแปลงของเรา ส่วนเรื่องความรักเขาเป็นห่วง กลัวว่าเราจะมีผลกระทบกับงาน เพราะเจ้านายก็รักเรา และการที่เรามีทุกวันนี้ได้ เพราะพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ที่เป็นเหมือนพ่อผม ไม่ว่าจะดีจะร้ายยังไง เขาก็ยังรักและเป็นห่วงเรา

   

          หลายคนเข้าใจ ถึงสิ่งที่เราสื่อและต้องการพูดถึง ผมคิดว่าเราหยุดได้แล้ว ในเรื่องของการแบ่งพรรค แบ่งพวก สิ่งที่ผมพูดในวันนั้น เพราะต้องการเตือนสติคนไทย ให้ผมไปขึ้นเวทีสีไหนก็ได้ ผมก็จะพูดประโยคเดิม สิ่งที่ต้องการสื่อคือ โดยเฉพาะนักการเมือง ถ้าเราจะเข้ามาบริหารประเทศ เราต้องให้ ไม่ได้คิดว่าจะต้องเข้ามาเอา เราต้องเสียสละทุกอย่างที่เรามี เพื่อประเทศชาติ หน้าที่ของลูกผู้ชาย นอกจากทำตามความฝันแล้ว สิ่งที่สำคัญมากกว่าตัวเองและ ครอบครัวของตัวเองคือ ทำอะไรให้แก่ประเทศชาติบ้าง

    

          ผมคิดว่า พวกคุณได้มีโอกาสแล้ว ประชาชนเลือกเข้าไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้ เลิกทำแบบนี้คือเห็นหรือไม่ว่า ตอนนี้ประชาชนไม่รู้พึ่งใคร ไม่รู้จะพึ่งพรรคไหน ที่บริหารประเทศมาไม่รู้กี่ปีแล้ว ประเทศเรามีพร้อมทุกอย่าง มีประเพณีที่ดีงาม มีสถานที่ท่องเที่ยว เราสู้ได้ทุกที่เลยบนโลกใบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เราสู้ใครไม่ได้เลย คือเราคิดถึงแต่ตัวเอง ถึงเวลาแล้วที่ทุกอาชีพ ทุกคน ทุกพรรค ทุกสี ต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างจริงจังเพื่อส่วนรวม ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องตื่นขึ้นมาทำเพื่อทุกๆ คน ทำเพื่อแผ่นดินที่เราเหยียบอยู่ ไม่ว่าคุณจะอยู่พรรคไหนก็ตาม คุณจะคาดหัวสีเหลือง หรือสีแดง แต่แผ่นดินที่พวกคุณเหยียบอยู่คือแผ่นดินไทย ถึงเวลาแล้วที่ต้องเสียสละทำเพื่อแผ่นดินจริงๆ นั่นคือหน้าที่ของนักการเมือง

    

      

เขาคนนี้ชื่อ : ภาคิน คำวิลัยศักดิ์

ชื่อเล่น :  โตโน่

เกิด : 29 สิงหาคม พ.ศ. 2529

การศึกษา : ระดับมัธยมจากโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จังหวัดขอนแก่น ปริญญาตรีด้านธุรกิจการบิน จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์หัวหิน

ผลงานที่ผ่านมา :  ละครเรื่อง ปีกมาร /บ่วงวันวาร/ ซิทคอม ลูกพี่ลูกน้อง /  วงดนตรี TONO & The DUST//ภ.Love Syndrome รักโง่ ๆ

ปัจจุบันมีตำแหน่ง : ทูตขององค์การพิทักษ์สัตว์แห่งโลก