กสทช.ยังไม่แบนซีรี่ย์ดัง ‘ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น’


 เมื่อบ่ายวันที่ 5 ส.ค. ที่ห้องการ์เด้น 2 ชั้น 5 โรงแรมเซนจูรี่ ปาร์ค ได้มีการนัดประชุมของกสทช. พร้อมด้วยช่อง จีเอ็มเอ็ม วัน และ บริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ ทีมผู้สร้าง ซีรี่ย์ชื่อดัง “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ในกรณีที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม โดยครั้งนี้ มีนางสมศรี พฤทธิพัทธุ์ ผู้จัดการทั่วไป สถานี โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง ONE บ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) 

พร้อมด้วย นายทรงยศ สุขมากอนันต์ หรือ ย้ง ผู้กำกับซีรี่ย์เรื่อง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น มาร่วมฟังการประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยก่อนที่จะมีการเข้าประชุม พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ ประธานอนุกรรมการ กสทช. ได้เผยก่อนเข้าประชุมว่า 

ตนให้สัมภาษณ์ก่อนเพราะไม่สามารถเอาสำนวนที่ใช้ประกอบการประชุมออกมาเปิดเผยได้ ตนขอเรียนในกระบวนการขั้นต้นก่อนว่า ซีรี่ย์เรื่อง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น เป็นที่สนใจของสาธารณชนเพราะมีการร้องเรียนมาทาง กสทช. ค่อนข้างมาก ทาง กสทช. จึงได้นัดกับทางผู้ผลิตซีรี่ส์เรื่องดังกล่าวเข้ามาชี้แจ้ง โดยทางผู้ผลิตขอเลื่อนมาเป็นวันนี้ แต่ขอย้ำว่าครั้งนี้เป็นแค่การประชุมเบื้องต้น เพราะต้องมีการคุยกับผู้คัดเลือกหนังว่ามีการคัดเลือกหนังมาฉายในช่องนี้อย่างไร มีหลักเกณฑ์เกณฑ์ตัดสินอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่อง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ได้ทำตามกระบวนการนั้นหรือยัง

 “เวลาที่ทางเราจะตัดสินใจ เราไม่อยากให้เป็นข่าวเพราะตอนต้นมีข่าวออกมาเองว่าทาง กสทช จะแบนซีรี่สเรื่องนี้ ผมขอชี้แจงว่าไม่จริง เพราะวันนี้เป็นแค่กระบวนการเบื้องต้น อยู่ในฐานะอนุกรรมการด้านผังและเนื้อหารายการ ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกเราได้เชิญทางต้นสังกัดผู้ผลิตซีรี่ส์เรื่องนี้เข้ามาคุย เราขอเรียนว่าก่อนที่เราจะตัดสินใจพิจารณาหรือมีมติใดๆ เราต้องฟังความรอบด้านของหนังว่ามีทั้งแง่บวกและมีแง่ที่คนไปติง ดังนั้นเลยมีความเห็นเป็นสองด้าน เวลาทีที่เราพิจารณาเนื้อหาของหนังไม่ใช่ง่ายๆ อย่างเมื่ออดีตที่มีกรณีหนังโป๊เปลือย เขาก็มักจะมายอมรับสารภาพตรงนั้นเป็นรูปธรรม แต่หนังเรื่องนี้เป็นนามธรรม มีวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่บางเรื่องให้กับสังคมได้รับทราบซึ่งส่วนนั้นเป็นส่วนที่ดี แต่กระบวนการต่อมาหรือมีผลกระทบอย่างอื่นหรือผลข้างเคียงตรงนี้เราต้องพูดคุยกัน”

 “ทางคณะอนุกรรมการไม่ต้องการใช้อำนาจเพราะเรื่องนี้มันใช้อำนาจยาก มันเป็นเรื่องที่ต้องวินิจฉัยเพราะหนังแต่ละเรื่องมีทั้งข้อดีและข้อด้อยคิดว่าอนาคตอันใกล้ที่เราได้ฟังความรอบด้าน เราถึงลงมติตัดสินได้ เราขอฟังความจากกลุ่มต่างๆ ทางสังคมเหมือนระบบลูกขุน ทางเราจะให้ความเป็นธรรมเต็มที่เป็นตัวกลางให้เกิดกระแสคิด ให้มีข้อคิดต่อการผลิตและเป็นประโยชน์ในการผลิตเรื่องต่อไปในสังคมไทย”

 ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่ามาตรา 37 จะใช้เกณฑ์อะไรตัดสินได้บ้าง พลโท ดร.พีระพงษ์ เผยว่า ตนว่าเป็นเรื่องคงที่ มันเป็น พ.ร.บ.ที่ออกมาแล้วมีมาตรา 37 ตนรู้ว่ามาตรานี้มีนามธรรมสูงมากเพราะฉะนั้นต้องใช้การวินิจฉัยของกรรมการ กสทช ตนอยากวินิจฉัยโดยใช้ระบบเปิดกว้างให้สังคมเข้ามาให้ความเห็นก่อนที่จะคิดหรือตัดสินใจอะไร ตนคงไม่รีบตัดสินใจอะไรเพราะเรื่องนี้รอได้

 ต่อข้อถามว่าต้องใช้เวลาแค่ไหนถึงจะตัดสินได้ว่ามีความผิดหรือเปล่า พลโท ดร.พีระพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของเวลาคงตัดสินไม่ได้ ต้องไปฟังความจากทุกฝ่าย ตนก็ให้ความเป็นธรรมกับผู้ผลิตและผู้ร้องเรียน เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่การวินิจฉัยและการตัดสินของสังคม เพราะฉะนั้นเราต้องเคารพความเห็น

 “ผมอยากจะคุยกับทางผู้ผลิตเงียบๆในงานนี้และก็เสนอแนะกันไป แต่ในเมื่อข่าวออกมาก่อน เราก็ต้องสร้างความเข้าใจและให้ความเป็นธรรม อย่าไปมองผู้ผลิตในด้านลบแต่ความเห็นส่วนใหญ่ในสังคมก็ต้องยอมรับ เพราะส่วนใหญ่ในสังคมไทย วิธีคิดของคนที่ยังไปไม่ถึงจุดที่ก้าวหน้า บางทีเราก็ต้องชะลอไว้หน่อย”

 ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่าในส่วนของผู้ร้องเรียน ซีรี่ส์เรื่องนี้ว่ามีเนื้อหาไม่เหมาะสม ผู้ร้องเรียนคือใคร พลโท ดร.พีระพงษ์ เผยว่าจุดนี้เป็นความเข้าใจผิเดเหมือนกัน ว่าทาง กสทช. หยิบขึ้นมาเองเพราะทาง กสทช. ทำตามระบบร้องเรียน ไม่อยากเปิดเผยชื่อ จริงๆ เป็นประชาชนทั่วประเทศ แต่เวลาร้องเรียนก็มีกลุ่มใหญ่ ถ้าเป็นทางการต้องบอกว่าเรื่องนี้อยู่ในสื่อระดับแคบแต่ที่สำคัญคือ ซีรี่ส์เรื่องนี้มีการรีรันและเอาไปเผยแพร่ในยูทูบ พวกคุณไปคิดเอาเอง ประโยคของผมคือประโยคนี้ คนที่ไปดูในยูทูบ ผมประมาณการไม่ได้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพราะอย่างที่บอกมีการรีรันในเวลา 09.00 น. แต่ออกอากาศจริงๆเวลา 22.00 น. คืนวันเสาร์อย่างเป็นทางการแต่ก็มีการรีรัน และในยูทูบไม่รู้ว่ามีคนดูไปกี่ล้านคนแล้ว ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ผลิตด้วยเขาอาจไม่ได้เอาไปลงเอง ผู้ร้องเรียน ร้องเข้ามาให้สอบแต่ขอไม่เปิดเผย เขาร้องมาเราก็รับเรื่องไว้และนำไปสู่กระบวนการสืบสวน

 ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่า จนถึงตอนนี้ได้มีการดูเทปฉบับสมบูรณ์หรือยัง พลโท ดร.พีระพงษ์ กล่าวว่า เทปที่เป็นทางการขอดูวันนี้ แต่เท่าที่ตนดูก็ดูจากทางยูทูบ ซึ่งตนขอเตือนให้รู้ก่อนว่านี่คือการฉายในยูทูบ ตนยังไม่ได้ดูว่าเนื้อหาตรงกับที่ฉายจริงหรือเปล่า และในวันนี้จะมีการฉายเปรียบเทียบกัน ส่วนผลที่จะพิจารณาไม่สามารถพิพากษาล่วงหน้าได้ แต่ยืนยันว่าทางคณะอนุกรรมการทำงานอย่างตรงไปตรงมา

 “ในส่วนที่ว่าจะมีการระงับการฉายซีรี่ส์เรื่องนี้หรือเปล่า คำถามนี้ดีมากครับ การสั่งระงับการฉายละครสมัยนี้เราไม่กำกับแบบเซ็นเซอร์เหมือนสมัยโบราณ วันนี้เราให้ท่านกำกับตัวเองและไปพิจารณาให้ดีว่าควรออกหรือไม่ควรออก แต่เมื่อใดออกอากาศแล้ว หลักฐานที่ท่านฉายไปนั่นคือสิ่งที่ท่านตัดสินใจและทางเราก็จะทำการตรวจสอบหลังจากนี้”

 ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีซีรี่ส์เรื่องนี้จะเข้าข่ายความผิดอะไร พลโท ดร.พีระพงษ์ เผยว่า คำถามใดที่จะกล่าวต่อไปนี้แล้วจะมาคาดการณ์ว่าทาง กสทช. จะลงโทษอะไรให้งดถาม เพราะทาง กสทช. ไม่ชอบลงโทษใครอยู่แล้ว และอย่าพิพากษาใครล่วงหน้า ตนขอไม่ตอบแล้วกันเพราะมันอยู่ในกระบวนการ ระยะเวลาในการตัดสินใจคงไม่เกิน 2 เดือน

ภาพจาก ข่าวสดภาพจาก ข่าวสด


นักแสดง ฮอร์โมนนักแสดง ฮอร์โมน


นักแสดง ฮอร์โมนนักแสดง ฮอร์โมน


นักแสดง ฮอร์โมนนักแสดง ฮอร์โมน


นักแสดง ฮอร์โมนนักแสดง ฮอร์โมน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์