รู้จัก “บอมบ์ ธนิน” แห่งคุณชายรัชชานนท์ อดีตอ้วนขี้เหร่ เข้าวงการเพราะถูกสาวทิ้ง

รู้จัก “บอมบ์ ธนิน” แห่งคุณชายรัชชานนท์ อดีตอ้วนขี้เหร่ เข้าวงการเพราะถูกสาวทิ้ง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 มิถุนายน 2556 21:54 น.

เปิดใจ “บอมบ์ ธนิน” หรือ คุณชายรัชชานนท์ ขวัญใจสาวๆ พร้อมผ่าเส้นทางบันเทิงกว่าจะได้เป็นพระเอก เด็กๆ เคยอ้วนขี้เหร่ เข้าวงการเพราะถูกสาวทิ้ง ไต่เต้าจากเด็กตัวประกอบออกไม่กี่ฉาก อดีตนักกีฬาเทนนิส ฝันอยากติดทีมชาติ ชอบเล่นเปียโน กับหัวใจที่เทิดทูนในหลวง มีพระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลใจด้านกีฬาและความพอเพียง

ขึ้นแท่นพระเอกป้ายแดงของช่อง3 ที่กำลังมาแรงสุดๆ อีกคน สำหรับ “บอมบ์ ธนิน มนูญศิลป์” พระเอกจากซีรีส์เรื่องดัง “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ตอน คุณชายรัชชานนท์ จากเด็กตัวประกอบได้โผล่แค่ไม่กี่ฉาก มาวันนี้ บอมบ์ ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นพระเอกเต็มตัว ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา สูงยาวเข่าดี 190 เซนติเมตร บวกนิสัยขี้เล่นเป็นกันเองทำให้หนุ่มบอมบ์เข้าไปนั่งในใจของสาวๆ ได้ไม่ยาก แต่เส้นทางบันเทิงกว่าจะมีวันนี้ บอมบ์ บอกว่าอดีตเคยอ้วนขี้เหร่ เข้าวงการเพราะโดนสาวทิ้ง

“บอมบ์มีพี่น้อง 3 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด บอมบ์เป็นลูกคนกลาง พี่ชายจบวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ส่วนน้องชายกำลังเรียนแพทย์ศิริราช คุณพ่อเป็นหมอรักษาโรคทั่วไป เปิดคลินิกอยู่ที่ชลบุรี ตอนนี้บอมบ์เรียนคณะบริหารการตลาดที่ ABAC อีกตัวเดียวก็จบแล้วครับ ที่เลือกเรียนสายนี้เพราะผมคิดว่าเรื่องของการบริหารมันสำคัญนะครับ บอมบ์เคยไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เขาบอกว่าแนวโน้มของโลกจะเปลี่ยนไปเป็นการตลาด การบริหารทั้งหมด ดังนั้นคิดว่าเรื่องนี้สำคัญครับ”

“บางคนคิดว่ามันคนละทางกับวงการบันเทิงเลย แต่บอมบ์ว่ามันมีส่วนเกี่ยวนะ คือมันสามารถเชื่อมโยงกับหลายๆ ด้านได้ เหมือนกับการตลาดเป็น Over all แล้วเราเหมือนเป็นอณูหนึ่งในการตลาดครับ ซึ่งบอมบ์เอามาปรับใช้กับงานในวงการ เหมือนทำให้เราเข้าใจมากขึ้นเรื่องของทาร์เก็ต เน้นที่เขาวางไว้ว่าเขาต้องการแบบไหน อย่างภาพลักษณ์นี้เขาสร้างขึ้นมา โปรดักส์ของบอมบ์ตัวนี้เป็นโปรดักส์ที่ลักษณะจะเป็น คุณชายรัชชานนท์ จะดูเป็นคุณชายที่กะล่อนๆ หน่อย อย่างที่เห็นกัน ขี้เล่น ขี้แหย่ ก็เป็นโปรดักส์ภาพลักษณ์ที่ทุกคนเห็นแล้ว หวังว่าทุกคนจะชอบครับในโปรดักส์นี้”

“ถ้าเปรียบเทียบกับการตลาดนะ คือบอมบ์อยู่ในตลาดเป็นโปรดักส์ชิ้นหนึ่ง บอมบ์ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตรงกับทาร์เก็ต คือบอมบ์เป็นโปรดักส์ ดังนั้นบอมบ์ต้องแสดงออกมาให้ตรงกับที่คนดูสนใจ หรือคาดหวังไว้ ซึ่งก็คือชายเล็ก ตัวละครที่เขาจะคาดหวังให้เห็นเนี่ย คือชายเล็กแบบในนิยาย ดังนั้นสิ่งที่บอมบ์ทำก็คือศึกษาคาแรกเตอร์แล้วก็เป็นให้ได้เหมือนชายเล็ก”

ตอนเด็กอ้วน แถมอี้อายไม่มีแววเป็นดาราเอาซะเลย

“ตอนเด็กบอมบ์อ้วน และไม่ค่อยกล้าแสดงออก ใช่คนมีพรสวรรค์ด้านนี้ แล้วก็ขี้อาย อยู่ในห้องเรียนถ้าครูถามก็ไม่เคยยกมือตอบเลย แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่กล้าเลยนะ ถ้าเกิดจำเป็นจริงๆ ก็กล้าทำ อย่างพรีเซ็นต์หน้าห้อง ในตอนนั้นการเป็นดาราก็เลยไม่ใช่สิ่งที่เราโฟกัสเท่าไหร่ แต่ถามว่าเคยคิดมั้ยมันก็ต้องมีแวบๆ ตามประสาเด็ก เพราะบอมบ์ก็เคยดูทีวีนิดหนึ่ง ดูก่อนที่พ่อจะห้าม ก็ได้เห็นการแสดง เห็นตัวละคร ก็ดูสนุกนะ ที่ห้ามเพราะคุณพ่อบอมบ์เป็นคุณหมอ คือทำงานปกติ ท่านก็มองว่าไอ้ทีวีเนี่ย ดราม่า ไปดูทำไม น้ำเน่า ไม่มีความจริงหรอก พ่อก็จะบอกอย่างนี้เสมอๆ บางทีดูๆ อยู่ 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม พ่อกลับมา พ่อก็มาปิด บอกให้ไปทำอย่างอื่นดีกว่า”

“ก่อนเข้าวงการชีวิตบอมบ์ก็หนักไปทางเรียน เล่นดนตรี เล่นกีฬา เหมือนเด็กทั่วๆ ไป ชีวิตก่อนเข้าวงการก็เป็นคนสบายๆ วันๆ ไม่ได้คิด ไม่ได้ซีเรียสกับอนาคตมาก ช่วงเรียนก็เรียน เล่นกีฬา ซ้อมดนตรี กินข้าว บางทีก็ช็อปปิ้ง เดินห้างบ้าง คือไม่ต้องมานั่งคิดว่า เออ ต้องจบปีนี้นะ ไปสมัครงานที่บริษัทนี้ เพื่อไต่เต้าเป็น CEO ในชีวิต ไม่เคยคิดเลย แล้วจริงๆ บอมบ์ก็เป็นคนเล่นเกมเยอะนะ เพราะว่าบางทีเราเล่นกีฬาเสร็จ กินข้าว ซ้อมดนตรีดึกๆ ก็ยังไม่อยากนอน พรุ่งนี้ว่างก็เล่นเกมต่อถึงเช้าอะไรอย่างนี้ ก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะ เพราะมันไม่มีอะไรทำน่ะครับ ก็ว่างๆ กิจกรรมทำวนไปวนมา”

“ยอมรับว่าตอนนั้นบอมบ์ไม่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน ตอนนั้นไม่มีเลยจริงๆ ครับ ไม่ได้มอง ก็แค่เรียนจบ แล้วก็อาจจะเรียนต่อ หรืออาจจะลองไปทำงานดู คิดแค่นี้หรือลองมองๆ ดูคือคิดแค่เนี๊ยะ ไม่ได้เจาะจงในตัวเองว่าบริษัทนี้นะ เพื่ออย่างนี้นะ ยังไม่ได้คิด คือยังสนุกกับการเล่นกีฬา เล่นดนตรีกับเพื่อนๆ ด้วย”

ผ่าเส้นทางบันเทิง เข้าวงการเพราะถูกสาวทิ้ง ไต่เต้าจากตัวประกอบกว่าจะได้เป็นพระเอก

“ชีวิตพลิกครั้งใหญ่ตอนอายุ 20 เพราะเลิกกับแฟน จริงๆ เคยจะเข้าวงการมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ปฏิเสธโอกาสไป ช่อง 3 ก็เคยเรียกบอมบ์ไปแคส แต่ไม่ไปเพราะติดแฟน (แฟนห้ามเหรอ?) ผู้หญิงเวลาพูด ก็บอกว่าไม่ได้ห้าม ไปก็ได้ แต่เราไม่ชอบ นั่นไง...(หัวเราะ) มันก็เลยทำให้ละทิ้งโอกาส สุดท้ายก็ต้องเลิกกัน จนตอนนี้เรามาชั่งดู ระหว่างอนาคตกับความรักจะเอาอะไร ก็คิดว่าผู้หญิงคงอยู่กับผู้ชายที่มีความรักแต่ไม่มีอนาคตไม่ได้ อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ในหัวที่บอมบ์ เคยได้ยินคำว่า ผิดเป็นครู ผิดบ่อยๆ เป็นควาย บอมบ์เองก็ไม่อยากจะผิดเรื่องซ้ำไง เมื่อมีโอกาสเข้าวงการอีกครั้งก็เลยคว้าไว้”

“งานชิ้นแรกคือโฆษณา แล้วก็มีโอกาสได้ไปเป็นแขกรับเชิญ 2 เรื่อง เรื่องลิขิตเสน่หา แล้วก็เรื่องหนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ออกอย่างละ 2 ตอน นิดเดียว แล้วก็ช่องเรียกเข้าไปแคสเรื่อง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ แล้วก็ได้เป็น บักคูณซาย (หัวเราะ) เต็มตัวเรื่องนี้ พอได้มาเป็นพระเอกจริงๆ ด้วยตัวบอมบ์เองไม่ใช่คนที่เก่งทางด้านการแสดง แล้วไม่ได้มีชั่วโมงบินมาก่อนเลย ตอนไปแคสถามว่าคาดหวังมั้ย ผมทำแค่ดีที่สุด แต่คิดว่าไม่น่าจะได้ สุดท้ายผู้ใหญ่เลือกเรามา ก็ทั้งแปลกใจ แล้วก็ดีใจ ไม่คิดว่าจะได้เป็นพระเอก เพราะบอมบ์การเข้ามาทำงานตรงนี้ไม่คิดว่าจะได้เป็นพระเอกอะไรเลย ต้องบอกความรู้สึกของบอมบ์ก่อนนะ คือบอมบ์เป็นคนที่ไม่ได้คิดว่า เฮ้ย ผมพระเอกเว้ย ผมเป็นพระรองหรือว่าอะไร ไม่เคยมี คือบอมบ์เป็นนักแสดง บอมบ์ไม่ใช่พระเอก บอมบ์เป็นแค่นักแสดงคนหนึ่งที่ไม่ว่าจะบทไหนก็ตามที่เขาให้ คือสิ่งที่เขาคัดสรรมาแล้ว ผู้ใหญ่มองว่าดี”

“แรกๆ ก็กดดันเพราะทุกคนคาดหวังกับโปรเจ็กต์นี้ไว้สูงมาก ดังนั้นสิ่งที่บอมบ์ต้องปฏิบัติกับหน้าที่ที่ได้มามันก็ต้องสูงตามไปด้วย บอมบ์ต้องเรียนการแสดง แต่เหมือนสมัยเรียนตีแบดมินตัน ครูจะสอนว่าง้าง 45 องศา ออกแรง 30 นิวตันใช่มั้ยครับ พอปฏิบัติจริงอะไรวะ การแสดงก็เหมือนกันเลย ความรู้ที่เรียนกระเจิงหมดเลย คือเปิดตำราไม่ทันเรียกอย่างนี้ดีกว่า ตอนนี้บอมบ์รู้สึกว่าง่ายขึ้นกว่าแรกๆ พี่อ๊อฟ(พงษ์พัฒน์ ผู้กำกับ) บอกว่ารัชชานนท์เป็นกองแรกที่เปิดเลย ช่วงแรกๆ บอมบ์พยายามเยอะจนพี่อ๊อฟบอกแกไม่ต้องพยายาม แต่ต้องรู้สึกและแสดงออกมา ถ้าให้คะแนนฝีมือตัวเอง ถ้าบอมบ์ตอบเต็ม 10 โดนตบตายแน่(หัวเราะ) เอาซัก 6.5 แล้วกัน”

ดีใจโคตรที่มีแฟนคลับ

“อยากจะยึดเป็นอาชีพเลยครับ อยู่แล้วมีความสุขครับ (สุขเพราะได้เงินเยอะมีชื่อเสียงเหรอ?) ไม่ๆ ถ้ามีเงินอย่างเดียวแล้วทุกข์ใจมันคงอยู่ได้ไม่นาน เข้าวงการมาสิ่งที่บอมบ์ตั้งใจคือทำให้ดีที่สุด ตอนนี้ก็มีแฟนคลับมากขึ้น ถ้าถามความรู้สึกก็บอกได้เลยว่าดีใจที่เขาปลื้มประทับใจเรา อยากพูดหลายๆ ครั้งว่าดีใจ แล้วก็ดีใจมาก ก็อยากให้เขาปลื้มเราไปนานๆ บอมบ์ไม่เคยเช็กเรตติ้งตัวเองนะ แล้วก็ไม่รู้จะเช็กยังไง กับแฟนคลับถ้ามีเวลาผมก็จะคุยกับแฟนๆ ทางแฟนเพจหรืออัดคลิปขอบคุณเป็นเพลงออกมา ก็เคยอัดไป 3 เพลงแล้วครับ”

หลงรักวงการบันเทิงอย่างจัง ฝันอยากเป็นดาวค้างฟ้า

“เป้าหมายคือทำให้ดีที่สุด บอมบ์เองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ได้นานแค่ไหน ก็จะพยายามที่จะทำให้ได้อยู่นาน ถ้าเป็นไปได้นะอยากเป็นเหมือนแม่แมว(จารุวรรณ ปัญโญภาส) แม่ตุ๊ก(ดวงตา ตุงคะมณี) บอมบ์เคยฟังโค้ชการแสดงคนหนึ่งเขาบอกว่า ถ้าเราแสดงละครเสร็จปุ๊บ ทุกคนจำชื่อจริงเราได้คือชื่อ บอมบ์ แต่ไม่มีใครติดภาพ ชายเล็ก เลย คุณประสบความสำเร็จในด้านซูเปอร์สตาร์ แต่ถ้าคนจำเราได้ว่าเราคือ ชายเล็ก แต่อาจจำชื่อจริงเราไม่ได้ คุณประสบความสำเร็จทางด้านการแสดง ซึ่งบอมม์เลือกอย่างหลังครับ และบอมบ์เจออย่างนั้นครับ เพราะล่าสุดไปที่พารากอน มีคนเรียก ชายเล็ก แต่ไม่รู้ชื่อจริงบอมบ์ จริงๆ ดีใจมากที่ทุกคนเรียกว่าชายเล็ก เพราะนั่นคืออาชีพของบอมบ์”

“ทุกวันนี้ต้องปรับตัวมากขึ้น แต่ไม่ใช่เปลี่ยนตัวเองจนไม่เป็นตัวของตัวอง แค่รู้ตัวเองมากขึ้น และที่ต้องเลิกเลยคือห้ามดื้อ เพราะผมค่อยข้างดื้อ ไม่ค่อยฟังใคร แต่ตอนนี้ต้องฟังทุกคน เรื่องเหล้าบุหรี่เที่ยวกลางคืนไม่มีอยู่แล้ว ดื่มบ้างเฉพาะเวลาสังสรรค์กับเพื่อนและเวลามีงาน ซึ่งก็ไม่บ่อย แต่อาจะมีเรื่องอื่นๆ อย่างเวลาไปเดินห้าง เมื่อก่อนไปไหนไม่มีใครรู้จักใช่มั้ยครับ ไปดูหนังก็ตรงเข้าโรงหนังเลย แต่ตอนนี้ก็ต้องเผื่อเวลาหน่อย เพราะบางทีมีคนมาขอถ่ายรูปมาขอลายเซ็น สมมติเราจะดู 5 โมงเย็นก็อาจจะต้องไปก่อนเวลาหน่อย เพราะก็ไม่อยากปฏิเสธเพราะเหตุผลว่าเรารีบ”

เนื้อหอมมีสาวๆ วิ่งเข้าหาหัวกระไดไม่แห้ง

“จนถึงวันนี้บอมบ์ก็ยังไม่มีแฟน ตลอดชีวิตเคยมีแฟนมา 3 คน คนแรกตอนอายุ 16-17 ปี คบกันเกือบ 2 ปีได้ แฟนคนที่ 2 คบกันปีหนึ่ง แต่คนที่ 3 คบสั้นสุดประมาณ 6-7 เดือน แต่เจ็บหนักที่สุด เพราะจริงจังมากที่สุด เราชอบเขามากเพราะเขาเองก็ทุ่มเทให้เราทุกอย่าง ก็คิดว่าใช่แล้วล่ะ สุดท้ายก็ไม่ใช่ ก็เสียใจมาก เฮิร์ตอยู่ 4-5 เดือนได้ เดือนแรกอยู่แต่ในห้อง นอนอย่างเดียวเลย ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลย เล่นแต่เปียโน ตกเย็นเล่นกีฬาเสร็จปุ๊บกลับมาหน้าห่อเหี่ยวขึ้นห้อง อยู่สภาพนี้เป็นเดือนๆ ไปเรียนเหมือนคนไร้วิญญาณนั่งฟังอาจารย์ แต่ดีขึ้นเพราะเวลาเยียวยาจริงๆ เหมือนกับว่าเราจะไปจมปลักอยู่ในโคลนอย่างเดียวก็ไม่ไหว ถ้าไม่เรียนรู้ก็ไม่ใช่มนุษย์ บอมบ์ได้อะไรจากรักครั้งนี้มากพอสมควร แล้วกลับกลายเป็นว่าทำให้เราอยากมีอนาคตที่ดีขึ้น”

“ตอนนี้ก็มีเข้ามาบ้างครับ เพื่อนแนะนำให้รู้จัก ส่วนมากก็นอกวงการทั้งนั้นเลย ในวงการไม่มี เราไม่ถึงขั้นหล่อขนาดนั้น (ผู้หญิงจีบก่อนเหรอ?) ครับ แต่บอมบ์ก็บอกเลยว่าเราเป็นเพื่อนๆ กัน เพราะเราไม่มีเวลา ที่เข้ามาก็มีสนใจบ้าง แต่บอมบ์ก็จะมีกำแพงของบอมบ์ สมมติว่าจะหาใครต้องหาคนที่เข้าใจเราจริงๆ เพราะบอมบ์ทุ่มเทให้กับแฟนคลับ บางทีอยากอยู่คนเดียว ช่วงนี้จะเอาแต่งาน แล้วใครจะมาอยู่ด้วยใช่มั้ย มันไม่ใช่ว่าไม่เปิดใจ แต่เวลากับโอกาสมันยังไม่ใช่เท่าไหร่ ไม่ใช่ไม่อยากมีใครนะ ก็เหงา แต่ว่าอนาคตก็สำคัญกว่า ดังนั้นความรักครั้งต่อไปอยากมีเมื่อพร้อม เมื่อสามารถแบ่งแยกทุกอย่างได้ เมื่อเทพแล้วกับอาชีพ เพราะบอมบ์จะเป็นคนที่ถ้าเกิดรักใครก็รักจริง เวลาเสียใจกระจิตกระใจก็จะไปหมดเลย มันก็เกี่ยวกับวุฒิภาวะของบอมบ์เอง เพราะถ้าคอนโทรลความรักไม่ได้ งานอาจจะพัง ความรักก็ไม่รอด

สาวๆ ฟังทางนี้ “บอมบ์” บอกสเปคต้องน่ารัก เห็นหน้าแล้วละลาย

“ชอบผู้หญิงขาว ไม่ต้องสวย ขอน่ารักนำมาก่อนเลย ต้องโคตรน่ารักเลยนะ ยิ้มทีบอมบ์ละลาย(ยิ้ม) ส่วนจะผอมหรืออวบนิดหนึ่งไม่ใช่ปัญหา รวยจนไม่ว่ากัน นิสัยขอแค่ข้อเดียวคือเข้าใจ เวลามีแฟนบอมบ์เป็นคนทุ่มเท มีเขาเราก็ทำทุกอย่างเพื่อเขา โรแมนติกมีบ้างบางมุม แต่ก็ไม่ใช่ทุกเวลา มีเซอร์ไพร์สบ้าง เพื่อนบอกว่าผมเป็นคนขี้อ้อน แต่ก็ไม่รู้ตัวหรอก คำว่าแต่งงานตอนนี้ยังไม่เคยมีในหัวเลย ถ้าคิดที่จะจริงจังเรื่องแต่งงานคงเลข 3 ขึ้น บอมบ์ต้องมีความมั่นคงก่อนเพราะไม่ใช่แค่เพื่อเรา แต่เพื่อคนที่เราต้องดูแลเขาไปตลอดชีวิตด้วย”

หล่อสำเร็จรูป เล่นเทนนิสเก่ง แถมยังเล่นเปียโนได้ด้วย

“บอมบ์เล่นกีฬามาตั้งแต่อายุ 11-12 ดนตรีมาเล่นตอนอายุ 17-18 ปี ชอบเล่นเทนนิส และบาสเก็ตบอล เทนนิสเคยจริงจัง อยากติดทีมชาติ อยากไปแข่งต่างประเทศ แต่ไปไม่ถึงฝัน แต่ก็โอเค ครั้งหนึ่งเราได้พยายามดูแลแล้ว ก็ไม่เสียใจเพราะว่าเราลองแล้ว”

“ทุกวันนี้ก็ยังเล่นเทนนิสอยู่ แต่ว่าตอนนี้ก็สนิมเกาะไปเยอะเพราะถ่ายละครไม่ได้เล่นมา 8 เดือนแล้ว ยอมรับตรงๆ เลยครับว่าตอนแรกที่เล่นกีฬาเพราะคุณแม่บังคับให้ไปเล่น เพราะเราไม่ทำอะไรเลยเพราะเป็นเด็กขี้เกียจ (หัวเราะ) เล่นเกมด้วยแหละครับ พอเล่นเกมสนุกก็ไม่อยากทำอะไร แม่เลยหาอะไรให้ทำซักอย่าง แรกๆ ก็ดื้อๆ ไม่ยอมแหละ แต่พอเล่นไปเล่นมาก็ติดเฉยเลย กลายเป็นว่าชอบเล่นกีฬาไปเลย ส่วนหนึ่งเพราะคุณพ่อด้วยมั้ง คุณพ่อชอบเล่นกีฬาทุกวันเลย ตื่นเช้ามาวิ่ง ไปทำงาน กลับมาเล่นฟิตเนส วิ่ง นอน ทำอยู่อย่างนี้ 30 ปีมาแล้วมั้งครับ คุณพ่อฟิตมากอายุจะ 60 ยังวิ่ง 10 กิโลฯได้อยู่เลย”

“นอกจากกีฬาแล้วบอมบ์ชอบเล่นดนตรี เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ชอบพอๆ กับเล่นกีฬาเลย บอมบ์เล่นเปียโน ถ้าเทียบระดับความเก่งบอมบ์อาจจะระดับธรรมดา แต่ก็เล่นเป็นเพลงได้ เล่นเพลงป็อป เพลงอะไรสบายๆ ได้ แต่ถ้าจะขั้นเล่นเพลงโมสาร์ทนี่ไม่ถึงนะ จุดที่เริ่มเพราะว่าเพื่อนจะทำวงดนตรีกัน แล้วขาดมือคีย์บอร์ด ก็เลยซื้อแล้วก็มาลองฝึกเล่นอย่างจริงจัง ทุกวันนี้ก็ยังเล่นอยู่ กีต้าร์ก็เล่นได้ครับแต่ไม่เก่ง”

เล่นกีฬาเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากในหลวง

“บอมบ์ขอเล่าถึงพระองค์ท่านก่อน พระองค์ท่านทรงเป็นนักกีฬาที่เป็นแบบอย่างที่ดีของทุกคน ท่านทรงกีฬาได้หลายอย่าง ไม่ใช่แค่เรือใบอย่างเดียว อย่างอื่นท่านก็ทรงได้ แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างและปัจจุบันหาได้ยาก แทบจะไม่มีใครมีเหลืออยู่เลย รวมถึงนักกีฬาระดับโลกเกือบทุกคน นั่นคือการเป็น Fair Player ทุกคนมองหาถ้วยแข่งขัน ทุกคนมองหาเงิน แต่ไม่มีความเคารพต่อกติกา”

“เหตุการณ์หนึ่งเคยเกิดขึ้นจริงๆ คือท่านทรงเรือใบ กำลังอยู่ในการแข่งขัน แล้วพระองค์ท่านทรงเรือใบกลับมา แล้วประชาชนที่ไปเข้าเฝ้างงว่าทำไมท่านทรงเรือใบกลับมา ทั้งที่ยังไม่จบการแข่งขัน ท่านตรัสกลับทุกคนที่มาเข้าเฝ้าว่า ท่านทรงเรือใบไปโดนทุ่น ซึ่งในกติกาคือการฟาวล์ แต่กรรมการไม่เห็น ไม่มีใครเห็น แต่พระองค์ท่านยอมรับ แล้วนักฟุตบอลสมัยนี้มีใครมีบ้าง ไม่มี ทุกคนพากันเหยียบข้อเท้ากัน ทุกคนจะศอกใส่กัน ทุกวงการทุกกีฬา แต่พระองค์ท่านมี ก็เลยเป็นความประทับใจ เป็นแรงบันดาลใจเพราะการเป็น Fair Player หาจากใครไม่ค่อยได้ มีน้อยมากครับ ก็เลยเป็นความประทับใจของบอมบ์ในเรื่องกีฬาครับ”

“แล้วก็เรื่องดนตรี ท่านทรงพระราชนิพนธ์เพลงเยอะแยะมากมาย เกือบทุกด้านแล้วเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคมไทยทุกด้านเลย ที่น้อมนำมาใช้ในชีวิตประจำวันอีกอย่างหนึ่งคือด้านเศรษฐกิจพอเพียง บอมบ์เป็นคนไม่ซื้อของหรูหรา เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่เซฟอย่างเดียว แต่ใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น อย่างกางเกงยีนส์ที่บอมบ์ใส่อยู่บางตัว 6-7 ปีแล้ว”