‘ครี’ เผย ทุ่มทุนสร้างหนังเองงดเซ็กซี่เรียกเครดิตการทำงานเบื้องหลัง

เรียกว่าขอเบรกลุคเซ็กซี่มาลุยงานเบื้องหลังเต็มตัวสำหรับสาว ครี-พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัคราภา ที่ล่าสุดเจ้าตัวแย้มว่าหนังที่สร้าง กำกับและเขียนบทเอง ตอนนี้ถูกปรับให้เป็นหนังสั้น 3 ตอน เตรียมเข้าฉายเดือน ต.ค นี้ งานนี้สาวคลีย้ำว่าจริงจังกับงานเบื้องหลังมาก ขนาดงดงานหวือทั้งหมด เพื่อเรียกศรัทธาและความน่าเชื่อถือจากคนดูด้วย

คลี เผยว่า “เรื่องการทำหนังที่เรากำกับและเขียนบทเองตอนนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลง คือเราตัดความยาวหนังลง เหลือ 36 นาที ซึ่งมันไม่สามารถเข้าฉายคนเดียวได้ เลยเกิดการรวมตัวกันอีก 2 ผู้กำกับและก็รวมคลีด้วย เลยกลายเป็นหนังสั้น 3 เรื่อง ใช้ชื่อโปรเจคท์ว่า “อิส แอม อาร์ หรือ เป็น อยู่ คือ” จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เครือเอเพ็กซ์ กลางเดือน ต.ค. นี้ การที่เราเอาหนังเข้าโรงนี้เครือเดียว เพราะคิดว่าหนังเรายังไม่สาธารณะขนาดเข้าทุกโรง คนดูอาจจะไม่เข้าใจในบางอย่าง แต่อนาคตถ้าฟีดแบ็กดี อาจจะได้เห็นในโรงภาพยนตร์ทั่วไปก็ได้

ส่วนสาเหตุที่เราตัดความยาวหนังลง เพราะของเก่าเราตัดต่อเอง แล้วเสียดายฟุตเทจ เลยเก็บทุกอย่างจนหนังมันดูอืดอาด เลยให้มืออาชีพมาช่วยตัดใหม่ ซึ่งทั้ง 3 เรื่องจะเป็นแนวดราม่าสะท้อนสังคม เนื้อหาค่อนข้างดาร์ก ๆ นิดนึง ซึ่งเรื่องนี้คลียกลิขสิทธิ์ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะเรา 3 คนมาจากสถาบันเดียวกัน ส่วนการลงทุนในส่วนของคลีก็เป็นเลข 7 หลัก เป็นเงินตัวเองบวกเงินสปอนเซอร์ ซึ่งความคาดหวังเราไม่ได้คิดเรื่องรายได้ว่าจะได้พันล้าน แต่นี่คือก้าวแรก อยากเพิ่มอีกมิตินึงของชีวิตว่า ณ ตอนนี้เราจริงจังกับงานเบื้องหลังเต็มตัว ใช้งานชิ้นนี้เป็นบันไดเบิกทาง”

เห็นมาเอาดีทางเบื้องหลัง เหมือนจะเฟดงานเบื้องหน้าไป? “ไม่ค่ะ งานเบื้องหน้าเราเป็นลูกจ้าง รับทั่วไป ไม่ได้ผลิตของเราเอง ดังนั้นมีก็มี เราไปคาดหวังไม่ได้ งานเบื้องหน้าก็ยังรักและถนัดในระดับนึง แต่ ณ ตอนนี้เรามีมุมมองในชีวิต เราหลงใหลงานเบื้องหลังของเรา ดังนั้นงานที่มีลุคเซ็กซี่ ถ่ายชุดว่ายน้ำเราเบื่อค่ะ ที่ผ่านมา 1 ปีพูดตรง ๆ ไม่รับเลย ตั้งใจไม่รับ อยากเปลี่ยนภาพตัวเอง มันเบื่อ ที่ผ่านมาก็เห็นอยู่ว่ามันเยอะมาก สุดท้ายมันมากระทบจิตใจเรา ก็ไม่โทษใครนะที่เห็นภาพเราแบบนั้นจะคิดถึงเราอีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้คลีไม่อยากให้อะไรมากระทบเลย เพราะมันเป็นจุดสำคัญในชีวิตมาก ๆ เราเป็นนายตัวเองแล้ว มันต้องใช้เครดิตและให้คนมาเชื่อเรามาก ๆ ฉะนั้นถ้าเรายังมีภาพนั้นอยู่ คนก็อาจจะสับสนหรืออาจคิดว่าหนังทำเองจริงเหรอ ซึ่งเราไม่ต้องการแบบนั้นค่ะ”.