สวยเรียบง่าย ตามสไตล์ ศรีริต้า

ต้องบอกว่าเป็นช่วงขาขึ้นเรื่องการงานของนางเอกหน้าสวยคนนี้เลยทีเดียว

สำหรับ "ริต้า" ศรีริต้า เจนเซ่น เนื่องจากในเวลานี้เธอมีผลงานให้แฟนๆ ได้ชมแบบต่อเนื่องอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นละครเย็น "กลิ่นแก้วกลางใจ" และละครที่จะออกอากาศให้ได้ชมในคืนวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคมนี้ กับ "สร้อยแสงจันทร์"

 แต่ที่พิเศษและทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

คงหนีไม่พ้นการแสดงละครเวทีครั้งแรกในชีวิตเรื่อง "ชายกลาง" ซึ่ง ศรีริต้า รับบทเป็น ปริศนา โดย ปริศนา ในแบบฉบับสาวสวยคนนี้จะเริ่มโชว์ให้แฟนๆ ได้ชมฝีมือเธอกันแบบเต็มๆ ในวันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม-29 กรกฎาคม ที่โรงละครเมืองไทย รัชดาลัยเธียเตอร์ แต่ก่อนที่จะติดตามผลงานของสาวสวยคนนี้ เรามารู้จักกับเธอให้มากขึ้นกันเลยดีกว่า

มือใหม่หัดขับ

ครั้งแรกกับการเล่นละครเวที

 เป็นอะไรที่ใหม่มาก แตกต่างมากกับทุกอย่างที่เคยทำมา ไม่ว่าจะเดินแบบ ถ่ายแบบ เล่นละคร ละครเวทีต้องใช้พลังเยอะมาก ทุกอย่างสดหมด เราต้องมีพลังเพื่อให้คนดูทั้งโรงเห็น โชคดีที่ละครเวทีเรื่องนี้ริต้าได้เจอกับพี่ๆ ที่มีฝีมือ ไม่ว่าจะเป็น อาหนิง (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) พี่เบนซ์ (พรชิตา ณ สงขลา) พี่จ๊อบ (นิธิ สมุทรโคจร) รวมถึงพี่โน้ส (อุดม แต้พานิช) ทุกคนมีประสบการณ์ด้านละครเวที มีริต้าคนเดียวที่ไม่มีประสบการณ์ แต่ก็ทำให้เราฝึกฝนและพัฒนาตัวเองมากขึ้นด้วย

แรงบันดาลใจที่ทำให้ตัดสินใจเล่นละครเวทีครั้งนี้

 เป็นคนชอบดูละครเวทีอยู่แล้ว ของเมืองไทยก็ดูมาหลายเรื่อง ของบรอดเวย์ริต้าก็มีโอกาสได้ไปดู ริต้าว่าละครเวทีมีความขลังมาก ทุกครั้งที่ดูจะบอกตัวเองเสมอว่าอยากจะขึ้นไปอยู่ตรงนั้น อยากเล่น พอติดต่อมาปุ๊บ ด้วยเวลาลงตัวพอดีเลยตกลงทันที ครั้งหนึ่งของชีวิตนักแสดงก็อยากเล่นละครเวที ในเรื่องจะเล่นเป็นปริศนา ซึ่งจะแก่นเซี้ยว เด็กดื้อ ทะเล้น คล้ายกับตัวตนของริต้าเลย เพราะตัวเองไม่ใช่คนเรียบร้อย เป็นคนกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ

 การตัดสินใจรับเล่นอีกส่วนหนึ่งก็เพราะรู้จักกับพี่สังข์ (ธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม)

ซึ่งเขาเป็นผู้กำกับละครเวที เพราะเราทำงานละครเรื่อง สร้อยแสงจันทร์ ด้วยกัน เจอกัน 2 ปีเต็มๆ ซึ่งเราต่างเชื่อฝีมือกันและกัน ริต้าก็รู้ว่าเขาทำอะไรบ้าง เขาก็เลยชวนมาเล่น เขาบอกว่าอยากจะทำละครเวทีเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้เคยประสบความสำเร็จอย่างมาก ตั้งแต่สถาปัตย์ จุฬาฯ ทำ พอพี่สังข์พูดปุ๊บริต้าบอกเลยว่าอยากเล่น และมันเป็นของเวิร์คพอยท์ ซึ่งมีพี่จิก (ประภาส ชลศรานนท์) เป็นผู้อำนวยการผลิตด้วย ยังไม่ได้ดูบทก็อยากเล่นเลย

เรื่องเสียงเป็นปัญหากับริต้าหรือเปล่า

 ริต้าเป็นคนเสียงเล็กมาก โชคดีที่มีไมค์ไม่งั้นคงไม่เล่น (หัวเราะ) คือเราเป็นคนเสียงไม่ได้ก้องกังวาน แต่เราก็ฝึกเต็มที่ เสียงตอนเล่นละครเวทีจะไม่เหมือนกับตอนพูดคุย ตอนนี้ทะนุถนอมเสียงมาก พยายามพูดเบาๆ น้อยๆ เพราะตอนเล่นจริงต้องใช้เสียงและพลังเยอะมาก

ความหลากหลายของงาน

ก่อนหน้าไม่ค่อยได้เห็นผลงานริต้า แต่มาช่วงนี้งานเยอะมาก

 ช่วงนี้รับงานมากขึ้นด้วย เมื่อก่อนริต้าไม่ค่อยได้อยู่เมืองไทยเท่าไร ต้องไปกลับ เวลาไม่ลงตัว ตอนนี้ริต้าให้เวลา 7 วันต่ออาทิตย์ ทำงานหมดเลย ก็เลยทำให้สามารถรับงานได้หมด อีกอย่างคือโตขึ้นด้วย สนุกกับการทำงาน อยากลองทำอะไรที่หลากหลาย คนเลยได้เห็นผลงานริต้าเยอะขึ้น

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีเงื่อนไขในการทำงานน้อยลงด้วยไหม

 อาจจะโชคดีที่งานที่ติดต่อเข้ามาเป็นงานที่ดี สร้อยแสงจันทร์ หรือ ชายกลาง เป็นงานที่ดีมาก เป็นสิ่งที่อยากทำ เพราะอยากทำ ก็ทำให้เรามีความสุขและสนุก ไม่ใช่เพราะเราถูกบังคับให้ต้องทำ หรือหลงในอะไร ริต้าทำเพราะตัวงานน่าสนใจ สิ่งที่ได้รับ ผลตอบแทนมันไม่ได้เยอะมากนะ อย่างละครเวทีเม็ดเงินไม่เยอะ แต่เราอยากทำมากกว่า

พอได้มาเดินเครื่องลุยงานเต็มที่จริงๆ แล้วเป็นอย่างไรบ้าง

 มันมันนะ สนุกด้วย แต่เหนื่อยมากเหมือนกัน เพราะแต่ละอย่างที่ทำก็ท้าทาย อย่างละครเวทีไม่เคยทำ พอมาทำก็กดดัน ต้องใช้พลังทั้งหมดที่มี แต่เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับตัวริต้ามาก ได้พัฒนาตัวเองเป็นสำคัญ คือพอโตขึ้น ก็ยิ่งขวนขวายหางานใหม่ๆ ให้ตัวเองทำ ก็ลองดู ดีไม่ดีจะได้รู้

มุมความรักของริต้าล่ะเป็นอย่างไรบ้าง

 ความรักเป็นสิ่งที่ดีมาก เป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดแล้ว โลกเราสิ่งที่สวยงามที่สุดก็คือความรัก คิดดูสิถ้าโลกนี้เรามีความรักกันหมด เราจะไม่มีสงคราม เราจะช่วยเหลือกัน ไม่มาขัดขากันเองเหมือนทุกวันนี้ที่เมืองไทยมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ก็เพราะเขาขัดขากันเอง ไม่มีใครทำอะไรเขาเลย ถ้าเรารักกัน สามัคคีกัน ป่านนี้เมืองไทยเราไปรุ่งมากเลย ความรักเป็นเรื่องสำคัญมาก ริต้าชอบที่จะมีความรัก และได้รับความรัก