ดาราศิลปินไทยกับอนคตที่ดับวูบเพราะยาเสพติด

 

นอกจากนั้นก็ยังมี "ฮาเวิร์ด หวัง" อดีตนักร้องวงไจแอนท์ ที่ถูกจับจากคดียาเสพติดมีกัญชาไว้ในครอบครอง  ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธ และขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างสู้คดีในชั้นศาล 

 

และถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็ยังมีอีกหลายคน  ไม่ว่าจะเป็น "น้ำฝน กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์" ที่เคยถูกจับข้อหาพัวพันยาเสพติด  เมื่อตรวจพบว่าฉี่เป็นสีม่วง จากนางเอกที่โด่งดัง อนาคตต้องดับวูบ  ซึ่งใช้เวลากูชื่อเสียงอยู่นาน  กว่าจะได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ในวงการให้กลับสู่แวดวงบันเทิงอีกครั้ง

 

"ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง" ศิลปินเดี่ยวแถวหน้าของอาร์เอส  ก็ถูกตำรวจบุกจับกุมขณะเสพกัญชาที่คอนโด เมื่อปี 2540 แม้จะยอมรับสารภาพ  แต่ก็ถูกทางต้นสังกัดแบนงานไปพักใหญ่  จนต้องหันไปจับงานเพลงลูกทุ่ง  แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร  ปีเดียวกันนี้ยังมีเพื่อนร่วมค่าย "‘ต๊ะ ฌานิศ ใหญ่เสมอ’ อดีตสมาชิกวงบอยสเก๊าท์  ที่โดนคดียาเสพติดพ่วงคดีทำร้ายแฟนสาว  ทำให้เขาถูกแบนผลงานในทันทีเช่นกัน

 

 

ในปี 2547 "แพท วรยศ บุญทองนุ่ม" นักร้องนำหนุ่มหล่อจากวงพาวเวอร์แพท  อ้างเหตุผลว่าเขาไม่มีเงินและค่ายไม่ป้อนงานให้  จึงจำเป็นต้องหันมาค้ายาเสพติด  แพทถูกศาลตัดสินจำคุก 50 ปี และปรับเงินอีก 1 ล้านบาท  ปัจจุบันเขายังคงใช้ชีวิตในเรือนจำ  แต่เจ้าตัวก็มุ่งมั่นจะทำความดี ใส่ใจในการศึกษาจนสามารถคว้าปริญญามาครองได้สำเร็จ  และเชื่อมั่นว่าตนเองจะไม่จบชีวิตในคุก

 

เช่นเดียวกับนักร้องดูโอสาวสวยที่ดังที่สุดในช่วงสายเดี่ยวกำลังฮิต"จอยซ์ พรพรรณ รัตนเมธานนท์" แห่งวง ไทรอัมพ์ คิงดอม  ก็ดับอนาคตตัวเองด้วยการผูกมิตรกับยาเสพติด เธอถูกจับพร้อมแฟนหนุ่มในข้อหาร่วมกันครอบครองยาบ้าไว้เพื่อจำหน่าย  ศาลอุทธรณ์ตัดสินโทษให้จอยซ์ถูกจำคุกตลอดชีวิต  ก่อนลดหย่อนเพราะให้การเป็นประโยชน์  จนเหลือโทษจำคุก 33 ปี 5 เดือน

 

ปี 2548 "หนึ่ง มาฬิศร์ เชยโสภณ" อดีตนักแสดงช่อง 7 ถูกแบนผลงาน เพราะเสพยาอี แต่แล้วก็ยังกลับมาอยู่ในแวดวงบันเทิงโดยหันมาทำงานเบื้องหลัง  ส่วนเพื่อนร่วมช่อง "ติ๊ก ฉัตรมงคล บำเพ็ญ"  ก็พัวพันกับยาเสพติด  จนต้องหายหน้าไปจากวงการพักใหญ่  ก่อนที่จะได้รับโอกาสกลับมารับงานแสดงอีกครั้ง

 

ปี 2552 นก เชิญยิ้ม ดาราตลกหญิงชื่อดัง ถูกจับในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ทั้งที่กรุงเทพมหานคร และที่ด่านตรวจแถวจังหวัดสระแก้ว ซึ่งทั้ง 2 ครั้งก็ได้รับการประกันตัว  แต่แม้จะออกมายอมรับผิด  แต่สังคมก็ไม่ให้อภัย  ทำให้ชีวิตในวงการบันเทิงต้องจบลงทันที

 

ส่วน "บอล อธิป นานา" ที่เคยฝากผลงานในภาพยนตร์  โดนคดีมีกัญชาและโคเคนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดย "บอล" ให้เหตุผลขณะนั้นว่าเครียดเรื่องรัก  จึงเสพของเพื่อนนำมาฝาก สารภาพว่าทดลองสูญกัญชาครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี เมื่อครั้งไปเรียนที่ประเทศออสเตรเลีย  คดีนี้จำเลยรับสารภาพศาลจึงตัดสินให้รอลงอาญา 2 ปี  หลังจากนั้นชื่อของเขาก็ค่อยๆเงียบหายไปจากวงการบันเทิง

 

ปี 2553   "เดียร์ นักรบ แนวณรงค์" อดีตสมาชิกวงอะแคปเปลล่าเซเว่น ที่ถูกจับในข้อหามียาเสพย์ติดประเภทโคเคนและยาไอซ์อยู่ในครอบครอง  ขณะนั้น "เดียร์" กำลังสร้างอนาคตกับวงใหม่ที่ชื่อ โฟร์กัสซั่ม  สุดท้ายต้นสังกัดจึงตัดสินใจลดบทบาทของเดียร์ลง ให้เป็นเพียงคนเบื้องหลังหรือขึ้นโชว์ร่วมกับเพื่อนในวงเป็นบางงานเท่านั้น

 

ส่วนดาราหนุ่มลูกครึ่ง "แอนดรูว์ ศุภมร โคร์นิน" ถูกตำรวจบุกจับกุมที่คอนโดพร้อมของกลางยาไอซ์และอุปกรณ์การเสพ โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหามียาเสพติดประเภทยาไอซ์ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ  แต่เจ้าตัวปฏิเสธ โดยอ้างว่า คอนโดเป็นของเพื่อนที่มาอาศัยอยู่ชั่วคราว  หลังจากต่อสู้คดีอยู่นาน  สุดท้ายศาลก็ยกฟ้อง เนื่องจากพยานโจทก์เบิกความมีพิรุธและมีข้อสงสัย จึงยกประโยชน์ให้จำเลย

 

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่ายาเสพติดไม่เคยทำให้ใครมีอนาคตที่ดีขึ้น มีแต่จะตกต่ำลง และแม้จะมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย แต่กลายเป็นว่ายังมีข่าวคราวของคนในแวดวงบันเทิงถูกจับในข้อหาคดียาเสพติดอยู่ร่ำไป