ฮัลลี เบอร์รี พายุสาวแห่ง X-MEN

กลับมาระเบิดความมันส์อีกครั้งสำหรับ X-Men


กลับมาระเบิดความมันส์อีกครั้งสำหรับ X-Men ตอน The Last Stand หรือชื่อไทยว่า X-เมน รวมพลังประจัญบาน ที่เข้าฉายบ้านเราแล้วในภาคนี้ยังคงดาราหน้าเดิม ๆ ที่รับบทมนุษย์กลายพันธุ์ห้ำหั่นกับฝ่ายอธรรมด้วยพลังเหนือมนุษย์ รวมทั้ง ฮัลลี เบอร์รี สาวสวยผิวหมึกที่ยังคงรับบท Storm เจ้าพายุสาวที่มีพลังอำนาจในการควบคุมสภาพอากาศ ฮัลลี ผ่านการแสดงภาพยนตร์ในบทต่าง ๆ มาอย่างโชกโชน และพิชิตรางวัลใหญ่ ๆ ระดับออสการ์กับลูกโลกทองคำมาแล้ว ตลอดจนเคยรับบทเป็นสาวบอนด์ของสายลับรหัส 007




ฮัลลี เบอร์รี คว้าตำแหน่งรองสาวงามอันดับหนึ่งในรายการ Miss USA


ฮัลลี เบอร์รี หรือ ฮัลลี มาเรีย เบอร์รี ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ปี ค.ศ.1968 (พ.ศ. 2511) ในคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา สูง 5 ฟุต 7 นิ้ว ( 1.70 เมตร) สัดส่วน 36 ซี-22-37 เป็นบุตรสาวของ เจโรม เบอร์รี ชาว อเมริกันเชื้อสายแอฟริกา อดีตเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล กับ จูดิธ เบอร์รี อดีตนางพยาบาล และมีพี่สาวชื่อ ไฮดี นางเอกผิวหมึกเริ่มเข้าสู่วงการครั้งแรกตอนอายุ 17 ปี เมื่อเธอคว้ามงกุฎสาวมิสทีนในรายการ Miss Teen All-American Pageant และได้เป็นตัวแทนของรัฐโอไฮโอในปี 2528 จากนั้นในปีรุ่งขึ้นเธอคว้าตำแหน่งรองสาวงามอันดับหนึ่งในรายการ Miss USA




หลังจากเข้าร่วมประชันขาอ่อน ฮัลลี ได้กลายเป็นนางแบบ


หลังจากเข้าร่วมประชันขาอ่อน ฮัลลี ได้กลายเป็นนางแบบ และในที่สุดชักนำเธอเข้าสู่วงการภาพยนตร์ แสดงครั้งแรกทางทีวีซีรีส์เรื่อง Living Dolls ในปี 2532 ทำให้ฮัลลีกลายเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปก่อนร่วมแสดงในเรื่องต่อมาคือ Jungle Fever ในปี 2534 จากนั้นประกบพระเอกผิวสีมาดทะเล้น เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่ ใน Boomerang และรับบทเป็นเลขานุการสาวเซ็กซี่นาม ชารอน สโตน ใน The Flintstones พร้อมกับประกบดาวค้างฟ้าอย่าง เจสซิก้า แลงจ์ ในภาพยนตร์ดราม่าดัดแปลงเรื่อง Losing Isaiah ฮัลลียังไม่หยุดความดังแค่นี้ ยังคงโลดแล่นอยู่บนเส้นทางซูเปอร์สตาร์อย่างต่อเนื่อง และได้รับคำชมมากมายจากบทบาทการแสดงใน Bulworth




ฮัลลี ติด 1 ใน 50 สาวงามที่สุดในโลกของนิตยสารพีเพิล ปี 2541


ในที่สุด ฮัลลี ได้รับบทสำคัญให้แสดงเป็น โดโรธี แดนด์ริดจ์ ดาราสาวชื่อก้อง ในเรื่อง Dorothy Dandridge ทางเคเบิลทีวี ที่มีส่วนสำคัญทำให้เธอคว้ารางวัลนักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมในประเภททีวี มูฟวี/มินิ-ซีรีส์ ของลูกโลกทองคำ และนำไปสู่ความสำเร็จอีกมากมายตามมา ทั้งติด 1 ใน 50 สาวงามที่สุดในโลกของนิตยสารพีเพิล ปี 2541


เกร็ดชีวิตที่สนใจของฮัลลี กว่าที่เธอจะกลายเป็นดาราชั้นนำของโลกผ่านมรสุมชีวิตอย่างเจ็บปวด เพราะพ่อแม่แยกทางกันเมื่อเธออายุได้ 4 ขวบ แม่จึงรับหน้าที่อบรมเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ชื่อของเธอตั้งตามอาคารเก่าแก่ฮัลลีในคลีฟแลนด์ และเคยสูญเสียการได้ยินของหู ข้างหนึ่งเนื่องจากประสบอุบัติเหตุในช่วงต้นทศวรรษที่ 90 นอกจากนี้เธอยังเคยปฏิเสธบท แอนนี ใน Speed แต่เธอก็เป็นนักแสดงสาวชาว อเมริกันเชื้อสายแอฟริกาคนแรกที่พิชิตรางวัลออส การ์ และเป็นอเมริกันชนผิวสีคนแรกในเวทีประกวดมิสเวิลด์ ปัจจุบันเป็นดาราสาวผิวหมึกที่มีค่าตัวสูงสุดในฮอลลีวูด


เดือนเมษายนปี 2545 ฮัลลีได้รับบาดเจ็บจากการถ่ายทำภาพยนตร์เจมส์บอนด์ 007 ตอน Die Another Day ความร้อนแรงอของเธอยังไม่หยุดแค่นั้น นิตยสารพีเพิลจัดให้ฮัลลีติด 1 ใน 50 สาวงามที่สุดในโลกประจำปี 2547 กับปี 2548 และเป็นเรื่องแปลกเพราะฮัลลีเคยรับบทตัวละครที่ชื่อ ชารอน สโตน ใน The Flintstones แต่ในอีก 10 ปีต่อมาเธอประกบชารอน สโตน ตัวจริงใน Catwoman เมื่อปี 2547 ด้วยความสามารถล้นเหลือ ยังพากษ์เสียงตัวละครในการ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง Robots แม้ฮัลลีประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามแต่การรับบทนางแมวสุดเซ็กซี่ใน Catwoman ภาพยนตร์ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ ทำให้เธอได้รับรางวัลดารานำหญิงสุดห่วยของราซเบอร์รีเน่า หรือ Razzie Award




รักครั้งแรก


อย่างไรก็ตาม ฮัลลี ดาราสาวเจ้าของรางวัลออสการ์จากเรื่อง Monster´s Ball ต้องผิดหวังกับชีวิตการแต่งงานมาถึงสองครั้งสองครา ผ่านชีวิตรักอัน ขมขื่น โดยรักครั้งแรกกว่า 4 ปีกับนักเบสบอลซูเปอร์สตาร์นาม เดวิด จัสติส มีอันต้องจบลงแบบทางใครทางมัน และสำหรับรักครั้งต่อมากับนักร้องหนุ่ม เอริก เบเน็ต ก็มีอันต้องจบแบบซ้ำรอยเดิมด้วยการหย่าร้างไปเมื่อปลายปีที่แล้ว เข้าทำนอง Lucky in Work Not Lucky in Love.

แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์