อู้ฟู่มือเติบใช้แหลกที่มาถังแตกชาวฮอลลีวู้ด

ล่าสุดกับข่าวไม่น่าเชื่อว่า คนดังอย่าง นิโคลัส เคจ จะประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก

เพราะถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังราว 245 ล้านบาท แถมยังล้มเหลวในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย ซึ่งหากจะมองถึงวิถีการใช้เงินของพระเอกหนุ่มคนนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจในการที่เขาจะต้องประสบกับภาวะกระเป๋าแห้ง ด้วยว่าเคจนั้นหมดเงินไปกับความฟุ่มเฟือย ใช้เงินถึง 1,300 ล้านบาท ซื้อรถยนต์หรูยี่ห้อโรลส์รอยซ์ ถึง 9 คัน และแมนชั่นหรูอีก 3 หลัง มีบ้าน 15 หลังทั่วโลก เรือยอชท์ 4 ลำ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว 1 ลำ และเกาะส่วนตัวในบาฮามาส อีกราว 240 ล้านบาท

เฮ้อ...ก็ไม่ทราบว่าทำไมจะต้องซื้อมากมายขนาดนั้น จะได้ทันใช้ไหม แต่สงสัยงานนี้หนุ่มเคจจะเสียหน้า เลยเตรียมยื่นฟ้องผู้จัดการธุรกิจ อ้างบริหารไม่ดีทำเงินหด จนไม่มีเงินจ่ายภาษี แหม...รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองอีกแน่ะ

พระเอกดัง ทอม ครูซ ก็เป็นอีกรายที่ใช้เงินอย่างกับผลิตได้เอง

แถมมีภรรยาสาว เคที โฮล์มส์ มาร่วมกันใช้ (แทนที่จะช่วยกันเบรก) โดยเพื่อนสนิทของทอมเผยว่า ทอมรู้สึกว่ามีอำนาจเวลาได้ใช้เงิน ทุกครั้งที่ทอมจะพาเคทีไปข้างนอก จะต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนตัว และเขาก็จะจ่ายทริปให้ราว 100 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ทอมยังมีเครื่องบินส่วนตัวอีก 4 ลำ เปลืองน้ำมันใช่ย่อย...

นอกจากจะมีพฤติกรรมสุดยี้แล้ว ลินด์ซีย์ โลแฮน ยังมีพฤติกรรมสุรุ่ยสุร่าย

ทั้งที่พักหลังๆ งานของเธอก็หดหาย ด้วยเหตุจากการกระทำอันไม่น่าพิสมัยหลายๆ อย่าง แต่ลินด์ซีย์ก็ยังไม่ใส่ใจ ใช้จ่ายโดยไม่สนว่าเงินในกระเป๋าจะมีอยู่เท่าไหร่ อาทิต้องไปสระไดร์ทำผมที่ซาลอนสุดหรู อาทิตย์หนึ่งเป็นเงินเกือบ 900 ดอลลาร์ หรือราว 31,500 บาทเลยทีเดียว แถมยังต้องหมดเงินไปกับปาร์ตี้เหล้า ยา สุดท้ายก็ต้องหมดเงินกับการรักษาบำบัด ลินด์ซีย์ร้อนเงินหนักถึงขั้นต้องคีบบุหรี่ไปทุกที่ เพื่อให้ช่างภาพปาปาราซซีถ่ายภาพ แล้วไปจ่ายเงินให้เธอในที่ลับตา รวมถึงยังต้องเร่ขายภาพถ่ายของครอบครัวตอนดินเนอร์ร่วมกัน

แต่เห็นทีจะไม่ทัน เพราะสุดท้ายอพาร์ตเมนต์ในลอสแองเจลิสของลินด์ซีย์ ก็ถูกบังคับขายออกทอดตลาด โอ้ว...น่าอนาถแท้

เสียผู้เสียคนไปพักใหญ่ หลังได้สามีไม่ส่งเสริมดวง ภายหลังเลิกกัน บริทนีย์ สเปียร์ส ก็ยังต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้อดีตสามี เควิน เฟเดอร์ไลน์

อีก เดือนละราว 700,000 บาท โชคยังดีที่จ่ายเงินแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่แม้ว่าบริทนีย์จะมีรายได้ต่อเดือนมากหลายสิบล้านบาทขนาดไหน แต่เธอก็ผลาญเงินไปกับค่าเสื้อผ้า เที่ยวเล่นสนุกสนาน กินอาหารหรูหรา ค่าซื้อของขวัญ ค่าอาหารฟาสต์ฟู้ด ค่าโทรศัพท์ รวมๆ แล้วก็หลายสิบล้านบาทต่อเดือนเช่นกัน

เรียกว่าหามาได้เท่าไหร่ ก็ใช้เท่านั้น แล้วสุดท้ายจะเหลือไปถึงลูกน้อยตาดำๆ ไหมเนี่ย...ย

เว่อร์ที่ไม่แพ้ใคร สำหรับป้า มารายห์ แครี

นักร้องสาวเสียงดีที่จ่ายไม่อั้น ซื้อเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านแสนแพงทำจากไม้มะฮอกกานีและประดับประดาด้วยผ้าขนสัตว์สีเทาอมน้ำตาล ซื้อทีก็หมดเงินไปแค่ 2 แสนดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นเอ๊ง ความเว่อร์ของป้ามารายห์ไม่ได้หมดแค่นั้น เวลาเธอถ่ายโฆษณา ยังกลัวว่าสุนัขของเธอจะไม่มีใครคอยดูแล ก็ต้องจ้างบอดี้การ์ดคอยดูแลเป็นพิเศษอีก แถมเวลาได้รับเชิญไปงานต่างๆ ก็จะต้องให้เจ้าของงาน ทำตามข้อเรียกร้องของเธอทุกอย่าง เจ้ากี้เจ้าการว่าจะต้องใช้พรมสีนี้ แถมยังต้องให้มีสัตว์เลี้ยงคอยล้อมหน้าล้อมหลัง ตามด้วยการมีบอดี้การ์ดอีกเพียบ

เว่อร์ซะไม่มีเชียว...

จอมเว่อร์อีกหนึ่งราย ที่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายสุดกู่ เพื่อความหรูเริ่ด ให้ตัวเองได้เกิดกับคำว่าเป็น เจ้าแม่แฟชั่น

สำหรับ วิกตอเรีย เบ็คแฮม ที่ชื่นชอบในการแต่งตัวเป็นชีวิตจิตใจ แถมยังพาให้สามีนักเตะอย่าง เดวิด เบ็คแฮม ใช้จ่ายเงินอย่างมือเติบ ด้วยการเซอร์ไพรส์พาสามีออกจากสเปนด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปยังกรุงลอนดอน พร้อมพากันตะลุยช็อปปิ้งทีเดียวหมดไปกว่า 4 หมื่นดอลลาร์ ซึ่งดูเหมือนว่าสามีเธอก็จะปล่อยให้ภรรยาสาวได้ช็อปตามใจ ไม่มีขัด

ไม่รู้ว่าเป็นกลยุทธ์เบี่ยงเบนความสนใจภรรยา เพื่อตัวเองได้มีเวลามีกิ๊กอ๊ะเปล่า...เอิ๊ก

ไมเคิล แจ็กสัน ก็เป็นตัวอย่างของซูเปอร์สตาร์ที่หมกมุ่นกับการใช้จ่ายกับคฤหาสน์เนเวอร์แลนด์ของเขา

แถมยังต้องจ่ายเงินเกี่ยวกับค่าที่โดนฟ้องร้องคดีละเมิดทางเพศเด็กอีก แต่ราชาเพลงป๊อปก็ยังใช้เงินอย่างมือเติบ จนสถานการณ์การเงินแย่ ต้องประกาศขายอาณาจักรเนเวอร์แลนด์ พร้อมถูกเจ้าชายแห่งบาห์เรนฟ้องฐานเบี้ยวสัญญาอีกจำนวนมหาศาล เลยมีข่าวลือว่า เพราะไมเคิลกำลังจะถังแตก เลยต้องโหมเล่นคอนเสิร์ตหาเงินใช้หนี้ แต่สุดท้ายสังขารก็ต้องพ่ายไป เสียชีวิตไปก่อน

เห็นตัวอย่างแบบนี้แล้ว ใครที่คิดว่าหารายได้เยอะ แล้วจะใช้จ่ายมือเติบ ฉุกใจคิดสักนิดก็ดีนะเจ้าคะ...