กว่าที่จะมี จิม แคร์ลี่ย์ ในวันนี้

ผมเชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักซุปเปอร์สตาร์ที่แสดงบทบาทในส่วนของการแสดงหนังโดยเฉพาะหนังแนวตลกและคอมมานดี้ในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีผลงานของเขาออกมาให้ชมน้อยมากก็ตามแต่นักแสดงรายนี้ก็ยังคงได้รับความสนใจจากบรรดาคอมหนังภาพยนตร์ทั่วโลกแม้ว่าเขาจะได้รับบทบาทเรื่องใดชื่อของนักแสดงรายนี้ก็การันตีคุณภาพ
ที่ผมพูดมาทั้งหมดหลายคนอาจจะไม่นึกไม่ออก ผมพูดถึงนักแสดงชาวแคนนาดาที่ชื่อว่า
จิม แคร์ลี่ย์ หลายๆคนคงจะร้องอ๋อทันที เราดูมากันดีกว่าก่อนที่นักแสดงรายนี้จะกลายเป็นเจ้าพ่อบทบาทตัวตลกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง



จิมเกิดที่ นิว มาร์เก็ต, ออนตาริโอ, แคนนาดา ในปี พ.ศ. 2505 เขาเติบโตในแถบ ชานเมืองโตรอนโต ซึ่ง ณ ที่นี่ เขาได้รับการยอมรับถึง พรสวรรค์ และ ความเป็นคนช่างสังเกต สิ่งรอบตัวของเขา ถึงขนาดที่ มีการจัดเวลาหลังเลิกเรียน ให้เขาแสดงเดี่ยว ให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนได้ชม พอถึงตอนอายุ 16 ปี จมได้ตัดสินใจทิ้งการเรียนเพื่อวิ่งตามหาในสิ่งที่เขาใฝฝัน เขาได้ขึ้นแสดงเดี่ยวตลกบนเวที ในการแสดงครั้งแรกของจิม เขาสวมสูทสีเหลือง ในครั้งนั้นเขาได้รับแต่เสียงโห่ แต่เขาก็ไม่เคยหมดกำลังใจและพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความฝันของตัวเอง 

 


การแสดงตลกทางสีหน้า ท่าทาง ของเขาได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ในวงการแสดงเดี่ยวบนเวที ทำให้เขามีโอกาสได้ แสดงเปิดเวทีให้กับ
รอดนีย์ แดนเจอร์ฟิลด์


จิมยังได้พยายาม เข้าสู่วงการโทรทัศน์ และ ภาพยนต์ด้วย การแสดงใน ‘The Duck Factory’ และ ในหนังหลายเรื่อง เช่น ‘Peggy Sue Got Married’, ‘Once Bitten’ และ ‘Earth Girls are Easy’ เดมอน เวยันส์ ที่ร่วมแสดง ในเรื่องสุดท้ายกับจิม ได้แนะนำให้จิม รู้จักกับพี่ชายของเขา คือ คีแนน ไอโวรี่ เวยันส์ ผู้ซึ่งกำลังจะทำ รายการตลกชื่อ ‘In Living Color’ อยู่พอดี จิมได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี จากบทที่ตาม ๆ มา เช่น Fire Marshal Bill จิมมาดังเป็นพลุแตก จากเรื่อง ‘Ace Ventura: Pet Detective’ ซึ่งนับว่าเป็นประตู ที่จิมรอคอยอยู่ในการ ก้าวขึ้นสู่ความเป็นดารา บทบาทตลกของเขา ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในเรื่องต่อมา คือ ‘The Mask’ และ ‘Dumb and Dumber’


เขาใช้เวลาเพียง 1 ปี ในการก้าวสู่ความเป็นนักแสดงตลก ที่มาแรงที่สุดในฮอลลีวูด บท เดอะริดเดิลเลอร์ ของเขาใน ‘Batman Forever’ ไม่มีผลอะไรกับเขามากนัก เป็นเหมือนเพียงบทคั่นเวลา พักยาวของเขาเท่านั้น ในปี พ.ศ. 2539 เขารับบทร้ายยิ่งกว่าเดิมอีกใน ‘The Cable Guy’ ซึ่งเขาได้รับค่าเหนื่อยถึง 20 ล้านดอลล่าร์

ชีวิตของเจ้าพ่อการแสดงบทบาทตลกรายนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่ใครๆเห็น เขาได้ผ่านอะไรมามากมายก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่อยู่ในระดับแถวหน้าของวงการฮอลิวูดเลยทีเดียวและเราก็หวังว่านักแสดงชาวแคนนาดารายนี้จะมีผลงานดีๆได้ออกมาให้เราติดตามกันอีกในเร็วๆนี้


เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์