เรื่องย่อ ::: ซีรีส์ลูกผู้ชาย ตอน ภูผา


เรื่องย่อ ::: ซีรีส์ลูกผู้ชาย ตอน ภูผา

รายละเอียดละคร
นำแสดงโดย:สาริน รณเกียรติ,รินรดา แก้วบัวสาย
บทละครโดย:สลาลิ
อำนวยการผลิตโดย:บริษัท โซนิกซ์ บูม 2013 จำกัด
กำกับการแสดงโดย:ณัฏฐ์กรณ์ สุทธาวาส

เรื่องย่อ :::: 

กลุ่มนักเรียน ม.ปลาย เล่นบอลกันอย่างสนุกสนาน และคนที่โดดเด่นที่สุด ในกลุ่มนั้น คือ "ภูผา"เด็กหนุ่มสูงโปร่งหน้าตาดี จนเป็นที่ขัดตา ของ "สมคิด" หัวโจกของโรงเรียน สมคิดหมั่นไส้ สุดทน หาเรื่อง จนภูผาที่หลีกหนีการทะเลาะวิวาท ทนไม่ไหว สองคนลุยเข้าใส่กัน และสมคิดก็พ่ายแพ้ แต่ก็ทำให้เขียวช้ำกันไปทั้งคู่ สิ่งที่ภูผาไม่อยากให้เกิด ก็เกิดจนได้ เมื่อเขากลับมาบ้าน และโดนพ่อด่าทอ โดนตี และขู่ว่าจะให้ออกจากโรงเรียน ขนาดไม่ได้ก่อเรื่องอะไร ทั้งชีวิตที่เขาโตมา เขาก็มักจะถูกพ่อรังเกียจ และประนามว่าเป็นตัวซวยตั้งแต่เกิด เพราะบ้านเกิดไฟไหม้ในวันนั้น จำได้ว่าเล็กๆ เขาโดนทั้งพ่อ และแม่ ด่าอยู่เป็นประจำ คุ้นเคยกับคำว่า เขาคือ "ตัวซวย" เป็นอย่างดี ความรักที่พ่อกับแม่มี จึงไปอยู่ที่พี่ชายของเขาทั้งหมด คือ "เวหา" เพราะนอกจากเวหา จะผิวพรรณดี พูดจาออดอ้อนกับพ่อแม่เก่ง เวหายังเรียนดี สอบได้ที่ 1 เป็นประจำ ในระแวกชุมชนที่เขาอยู่ ที่บ้านรู้เป็นอย่างดี ว่าเขาคือลูกชังของครอบครัว ภูผาจะมีกำลังใจอยู่บ้าง ตรงที่ยังมี "ย่าสาย" ที่ให้ความรัก ความอบอุ่นกับเขา คอยสอนให้เขาอดทน ให้เขาเป็นคนดี แล้วความดีจะทำให้พ่อกับแม่เห็นซักวันนึง ความเจ็บปวด กับแม่ ดีขึ้นมาบ้าง คงเพราะพ่อที่เกลียดเขามาก จนแม่เริ่มสงสาร เดือนเองก็คิดว่า ยังไงภูผาก็คือลูก ต่อให้รักลูกคนโตมากเพียงใด ความรักของแม่ ก็ยังมีกับลูกคนเล็ก ผิดจากสามีเธอ ที่ดูเหมือนรังเกียจภูผาอย่างชัดเจน

แม้ว่าฐานะของศักดิ์สิทธิ์ และเดือน จะดีขึ้นมาบ้าง จากการค้าขาย และดูเหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ ทำให้ คำว่า "ตัวซวย" พ้นไปจากภูผา อาจจะเป็นอย่างที่พ่อพูด เพราะวันนี้ก็เช่นกัน เขาผ่านไปเห็นสมคิด วิ่งหนีนักเลงรุ่นโต 3 คน แบบสะบักสบอม ภูผารู้สึกได้ ทันทีว่า ถ้าเขาไม่ทำอะไร สมคิดคงต้องตายคาบาทาของนักเลงแน่ๆ ภูผาจึง เอาเท้าไปขวางทางนักเลงทั้งสาม แล้วดึงสมคิดหนี เพราะย่านแถวบ้าน เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี จนหนีรอดได้ สมคิดซาบซึ้งบุญคุณ ตั้งแต่วันนั้น สมคิดก็ยกย่อง ชื่นชน และยอมรับให้ภูผากลายเป็น "ลูกพี่" ทั้งที่ภูผาไม่ได้ต้องการ สมคิดคุยเปิดใจกับภูผา ที่ตัวเองไปโกงเล่นพนันในบ่อนจนถูกจับได้ ภูผาเตือนในเรื่องการเล่นพนัน เตือนเพื่อน เหมือนที่ย่าเคยสอนเขามา แต่สมคิดกลับบอกว่า ตนเกิดมาก็เห็นในบ้านตั้งวง มันติด มันชอบ มันสนุกจนห้ามใจตัวเองไม่ได้ไปแล้ว การเรียนก็กระท่อนกระแท่น แทบเอาตัวไม่รอด ผิดกับภูผา ที่ถึงแม้จะไม่ได้ที่ 1 แต่ก็ยังอยู่ในระดับปานกลาง

"ช่วยด้วย มีคนตกน้ำ ช่วยด้วย" ภูผาเห็นตั้งแต่มีเสียงน้ำดังตูม กำลังพายเรือข้ามฝั่ง ทันทีโดยไม่ต้องคิด เขากระโดดเข้าไปช่วยคนที่จมน้ำเอาไว้ ก่อนที่จะหล่นลงไปสู่ท้องน้ำ เมื่อพาขึ้นมาได้ ถึงได้สังเกตเห็นว่า เธอเป็นเด็กสาวน่าตาน่ารักคนนึง ที่รอดชีวิต และเป็นเด็กสาวที่ได้รับความห่วงใยจาก คุณหมอนุสรา และพยาบาลในคลินิกตรงนั้น จากที่ฟังดู ภูผารู้เลยว่า สาวน้อยคนนี้ เกี่ยวพันเป็นหลาน กับ ป้าหมอใจดี ที่เปิดคลินิกอยู่ แต่... สังเกตดูแล้ว ถึงจะน่าตาน่ารัก แต่เธอก็แสบไม่เบาทีเดียว ทันทีที่รอดชีวิต แทนที่จะขอบใจ กลับมาว่าเขาหน้าเหมือน "ลิง" เอากับหล่อนสิ

รุ้ง ทบทวนเหตุการณ์ เธอสำลักอยู่ใต้น้ำ เพราะว่ายน้ำไม่เป็น และก่อนจะหมดสติ เพราะหายใจไม่ออก ก็รู้สึกเหมือนมีคนมาช่วย จนเธอขึ้นมานอนแอ้งแม้งอยู่บนแพท่าน้ำ และยิ่งเห็นคนช่วยเป็นเด็กหนุ่มรุ่นพี่ น่าจะโตกว่าซัก สองปี เป็นหนุ่มผิวเข้มหน้าตาดี ยิ่งสร้างความอับอายให้เธอ จนเธอต้องพูดจากวนประสาทออกไป เพื่อกลบความอาย และเสียฟอร์ม การรู้จักกันของเขาและเธอ จึงเริ่มต้นมาตั้งแต่วันนั้น

ชีวิตคนเรา ถ้าลองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข และอันธพาล ก็ยากที่จะหลุดพ้นโดยง่าย เช่นภูผาและสมคิด ที่นักเลงสามคนนั้น ตามมาจ้องเล่นงาน จนเจอ ทั้งสองคนหนีจนมาจนมุมอยู่หน้าคลินิกป้าหมอ เชิดหัวหน้านักเลง สั่งลูกน้องให้ล้อมทั้งสองเอาไว้ ภูผากับสมคิด รู้ทันทีว่า สิ่งที่ต้องทำ คือ สู้ตาย เพราะถ้าไม่สู้ ก็คงตายอยู่ดี สองคนหันหลังชนกัน ปรึกษาหารือ จนเมื่อนักเลงเข้ามา ทั้งสองก็สู้สุดชีวิต สถานการณ์เหมือนนักเลงตีกัน ทำให้คนแถวนั้นตกใจ รวมทั้งป้าหมอ และรุ้งที่ออกมาดู ป้าหมอร้องห้ามแต่ไม่เป็นผล รุ้งตัดสินใจโทรเรียกตำรวจ แต่สู้กันเพียงไม่เท่าไหร่ สมคิดก็สลบไปเป็นคนแรก ภูผาแม้จะเลือดกลบหน้า เขาก็ยังพยายามยืนหยัด ร่างกายเขาไม่ไหวมานานแล้ว แต่ใจมันสั่งให้เขาสู้ เพราะถ้าเขายอมแพ้ให้กับพวกนักเลง เขารู้ว่า เขาก็จะถูกข่มเหงไปตลอด เชิดยืนดูภูพาที่สู้ไม่ถอยถึงจะถูกรุม ก็แอบชื่นชมในความใจสู้ ก่อนจะสั่งลูกน้องให้หนีกระเจิงเมื่อตำรวจมา

เหมือนทุกครั้ง แต่รุนแรงกว่า พ่อโกรธจนแทบจะฆ่าเขา กล่าวหาว่าเป็นนักเลง โดยไม่ฟังคำอธิบาย แม้ย่าจะห้ามปรามยังไง อารมณ์พ่อก็ไม่สงบลง และสิ่งที่เขาเห็น นอกจาก "เวหา"จะไม่ช่วยแล้ว ดูเหมือนจะสะใจ พอใจซะด้วยซ้ำ เพราะเวหาเองก็ไม่ได้คิดต่างไปจากพ่อ ที่ได้ยินคำว่าตัวซวยของภูผา และฝังจำมาตลอดว่าน้องเขาเป็นตัวซวย แม้จะนอนห้องเดียวกัน การคุยหยอกล้ออย่างพี่น้อง ก็แทบไม่เกิด เว้นซะแต่ตอนเด็กๆ ปัจจุบัน เวหา มองภูผาเหมือนเป็นคนน่ารังเกียจ เป็นตัวซวย ที่ทำให้เขาอับอายขายหน้า ถ้าเพื่อนๆเขารู้จะเป็นยังไง เวหาเรียนเก่ง และตั้งความหวังไว้ว่า เขาจะเรียนหมอ มีอนาคตที่ดี มีสังคมที่ดี พ้นจากชีวิต ที่พ่อแม่เลี้ยงเขามาซะที ถึงแม้จะไม่เคยทำงาน แต่สภาพแวดล้อม การกินอยู่ บ้านช่อง ก็ไม่ได้ทำให้เวหาพอใจ ในสภาพตัวเอง เขารู้แต่ว่า วันนึง เขาจะสุขสบายกว่านี้ เพราะพ่อก็พูดมาตลอดว่า เขาเรียนเก่ง เขาจะเป็นเจ้าคนนายคน สุขสบาย ไม่ต้องลำบากเหมือนพ่อกับแม่ ที่ต้องตะเวนค้าขายสารพัด ตามตลาดต่างๆ ถึงจะขายดี แต่ก็เหนื่อยแทบขาดใจ
ครั้งนี้ย่าไม่สามารถจะทัดทาน พ่อของเขาไว้ได้ ภูผาจึงเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้าน ไปตายเอาดาบหน้า เวหาเหมือนจะสะใจอยู่ลึกๆ เพราะที่ผ่านมา น้องชายได้ความรักจากย่าไปจนหมด ซึ่งความรักนั้นมันควรจะเป็นของเขา เพราะเขาเป็นเด็กดี เรียนเก่ง ไม่เคยทำความเดือดร้อน แต่ย่าก็ยังรักแต่ไอ้ภูผา!! หลังจากวันนั้น เวหาก็เลิกสนใจเรื่องน้อง เพราะมีเรื่องเรียนที่เขาต้องสนใจมากกว่า และลืมเวหาไปจากชีวิตตัวเองอย่างง่ายได้

ภูผาไปอยู่กับสมคิด บ้านสมคิดอยู่กันหลายคน พ่อสมคิดต้องกั้นห้องเพิ่มให้อยู่ใต้ถุนบ้าน สมฤทัยหรือต้อยติ่งน้องสาวของสมคิด ที่เป็นนักเรียนรุ่นน้อง โรงเรียนเดียวกัน ที่แอบชอบภูผาอยู่แล้ว เพราะเธอรู้สึกว่าภูผาเป็นคนมีเสน่ห์ และมีความเป็นแมน เป็นสุภาพบุรุษเต็มตัว เธอจึงดีใจมากที่ภูผามาอยู่ร่วมบ้านด้วย

ส่วนเฮียเหวง นายใหญ่ของเชิด พอได้ยินกิตติศัพท์ของภูผา เรื่องความอึด ใจที่เด็ดเดียว เกินกว่าเด็กหนุ่มทั่วไป คนประเภทนี้แหล่ะ ที่เฮียเหวงอยากได้มาร่วมทีม ทำงาน ควบคุม ดูแลบ่อน ภูผาจึงถูกเชิดมาตามตัวให้ไปทำงานด้วย แต่ภูผาไม่คิดจะเดินเส้นทางนี้ จึงปฏิเสธไปโดยไม่เกรงกลัว สมคิดเซ็งเป็ด ที่เพื่อนปฏิเสธเงินก้อนโต รายได้ดีๆไป

แต่เพียงไม่นาน ที่ชีวิตเขาเหมือนจะมีความสุขขึ้น ที่ได้เจอกับรุ้งบ่อยๆ เด็กสาวที่น่ารักที่มีครอบครัวดี และไม่รังเกียจคนจนๆอย่างเขา ความสุขที่ได้เจอ ความสุขที่ได้ใช้วาจาตอบโต้ แกล้งกันไปมา ทำให้ภูผา ลืมความทุกข์กับครอบครัวไปได้มาก

ไม่นาน เมื่อความเป็นตัวซวยถูกย้ำขึ้นมาอีก พ่อของสมคิด ที่เป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้าง ตกใจนั่งร้าน จนหลังหักทำงานไม่ได้ ก่อนหน้านั้น ก็ถูกผู้รับเหมาโกงเงินหายไป เพราะนอกจากพ่อ พี่ชายพี่สะใภ้สมคิด ก็ร่วมอยู่ในทีมทำงานก่อนสร้างด้วย ทุกคนจึงลำบากพร้อมๆกัน เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมา ครั้งนี้ จะเอาเงินที่ไหนมารักษาพ่อ พี่สะใภ้สมคิด เป็นคนจุดประเด็นขึ้นมา ว่าภูผาเป็นตัวซวยจริงๆ ตั้งแต่มาอยู่ก็มีแต่เรื่อง แล้วลำบากขนาดนี้ ยังต้องมาแบ่งข้าวสาร อาหารให้กินอีก คนในบ้านจะอดตายกันหมด

ภูผาตัดสินใจได้ทันทีว่าจะรับผิดชอบ ช่วยเหลือครอบครัวสมคิด เริ่มจากไปช่วยงานก่อสร้าง แต่เขายังเด็ก นอกจากงานแบกหาม ก็ยังทำงานอื่นไม่ได้มาก เมื่อจำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการรักษา ภูผาก็นำมาให้ครอบครัวนี้จนได้

และตั้งแต่วันนั้น ภูผาและสมคิด ก็เดินก้าวเท้าเข้าสู่วังวนของนักเลง มีชีวิตอยู่กับบ่อน กับการเก็บส่วย เก็บค่าคุ้มครอง วินมอไซด์ โดยที่ภูผาคิดว่า โชคชะตาของเขา คงกำหนดมาแล้ว ถึงหนีมันไม่พ้น แต่ดูเหมือนสมคิดจะพอใจ ข่าวการเป็นนักเลงคุมบ่อน ไปจนถึงหูพ่อภูผา เพราะน้าแดงคนแถวบ้าน ที่โดนนักเลงซ้อม จากการที่ไม่มีเงินจ่ายหนี้พนัน ภูผาช่วยน้าแดง อบรมแล้วปล่อยไป แต่โดนเชิดและพวกมาสกัดไว้ทัน ทำให้ภูผาต้องพิสูจน์ว่าไม่ได้ทรยศ โดยการถูกบังคับให้เป็นคนซ้อมน้าแดงซะเอง เมื่อน้าแดงฟ้องพ่อว่าภูผาเป็นคนซ้อมเขา และไปเป็นนักเลงคุมบ่อน ยิ่งทำให้พ่อเกลียดหนัก ภูผาเป็นดังคำที่พ่อด่าทุกอย่าง "ไอ้ลูกเลว วันนึงมันต้องเป็นนักเลง มันเป็นอย่างที่กูคิดจริงๆ" แม่เองก็เสียใจในตัวเขา เหลือเพียงแต่ย่า ที่ยังเชื่อมันในความเป็นคนดีของภูผา ย่าที่เป็นเสียงส่วนน้อยในบ้าน ที่ยังรัก และเข้าใจเขาตลอดมา และเป็นคนเดียวที่มาตามหา จนเจอที่บ้านสมคิด

ผู้หญิงอีกหนี่งคน ที่ไม่เคยมองว่าภูผาเป็นคนเลว ไม่ว่าจะไปอยู่ในสถานะไหน คือ รุ้ง เพราะรุ้งเชื่อว่า คนที่ชอบช่วยผู้อื่น ย่อมต้องมีจิตใจที่ดี และยิ่งรู้จัก ยิ่งรู้ว่าภูผาเป็นคนดี เธอมองเห็นเนื้อแท้ของภูผา แล้วยังคอยสร้างเป็นกำลังใจให้ตลอดมา แม้จะถูกกันจากพี่ชาย และครอบครัว คือแม่ ที่ไม่ยอมให้รุ้งคบหากับคนที่ต่ำชั้นกว่าเด็ดขาด วันนั้นที่บ้านจับได้ ว่าเธอสนิทสนมกับภูผา แล้วภูผาก็หายไป หายไปตลอด 5 ปี

..........วัยเปลี่ยน คนไม่เปลี่ยน.............

ไม่ได้เกี่ยวกับครอบครัวรุ้ง แต่ภูผาถูกส่งไปคุมบ่อนที่ภาคใต้ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา กลับมาครั้งนี้ ภูผาเป็นหนุ่มเต็มตัว ร่างกายเขากำยำ ล่ำสัน และดูโตกว่าเดิมมาก ชีวิต 5 ปีที่ผ่านมาทำให้เขาแข็งแกร่ง แต่ถึงยังไง เขาก็ไม่เคยชอบมัน แม้หัวหน้าจะเอ็นดูและไว้ใจเขา แต่ก็มีพวกที่อิจฉาริษยา คอยเล่นงานเขาตลอดเช่นกัน และสิ่งสำคัญ คือ เขาเกลียดวงการนักเลง เกลียดการพนัน เพราะรู้ว่ามันไม่เคยทำให้ใครรวย มีแต่เข้ามาแล้วหมดเนื้อหมดตัว และมัวเมาจนถอนตัวไม่ขึ้น เขาคิดแต่ว่า ต้องหาทางเดินออกมาให้พ้นวังวนนั้นให้ได้

ภูผาคิดถึงย่า เขาผ่านช่วงเวลาลำบากมาได้เพราะนึกถึงคำสั่งสอนของย่า เขาตัดสินใจกลับไปที่บ้าน แต่ครอบครัวเขาไม่อยู่ที่นั่นแล้ว พ่อกับแม่ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ ใหญ่โต สวยงามเกินกว่าจะวางของขายที่บ้าน แต่ยังคงวิ่งขายของตามตลาดนัด เพื่อส่งเวหาเรียน ภูผาทุกข์ใจที่พ่อแม่ยังคงทำงานหนัก และเสียใจมากที่รู้ว่าย่าของเขาไปอยู่บ้านพักคนชรา เขาอยากดูแลย่า จึงหาวิธีเช่าบ้านเก่าของตัวเองหวังจะไปรับย่ากลับมาอยู่ด้วยกัน

ด้านเวหากลายเป็นนศ.แพทย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ก่อนหน้านี้ อกหักจากความรัก ที่ให้กับ ทอรัก พี่สาวไฮโซของรุ้ง ทอรักเป็นคนถือตัวและหลงตัวเอง ทอรักเชื่อว่า เวหาถึงจะหล่อและเรียนเก่ง แต่ก็ไม่ไฮโซมีชื่อเสียงในสังคม ที่จะเหมาะสมคู่ควรกับเธอ เธอเห็นเวหาเป็นของเล่น เลยหลอกให้ขายหน้า อับอาย ซ้ำๆจนเวหาทนไม่ไหว ก่อนจะหนีไปเรียนเมืองนอก เมื่อไม่ได้ พี่ เวหาก็เล็งมาที่น้อง คือรุ้ง รุ้งเองก็น่ารัก ถ้าได้รุ้งเป็นแฟน อนาคตการได้เป็นหมอ และความก้าวหน้าในโรงพยาบาลของพ่อรุ้งคงเป็นความจริงขึ้นมาได้ เวหาจีบรุ้งมา2ปีแล้ว ตั้งแต่ทอรักไปเรียนต่อ แม้จะถูกรุ้งปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่ได้ชอบเขาอย่างคนรัก แต่เขาก็ไม่เลิกพยายาม เทียวรับส่งเกาะติดไม่ห่าง

วันนี้ก็เช่นกัน เวหาพารุ้งมาห้างสรรพสินค้า เพื่อทานข้าวเดินเล่น หวังเลื่อนความสัมพันธ์ให้มากขึ้น ภูผากับสมคิดก็อยู่ที่ห้างฯเหมือนกัน ทั้งสองถูกเชิดบังคับให้มาฝึกงาน ขโมยรถ ขณะที่ภูผารับหน้าที่ดูต้นทาง เขาเห็นเวหามากับผู้หญิง เขาจำพี่ชายได้เลยวิ่งตามไป แต่ไม่ทัน เมื่อภูพากลับลงมาก็โดนทีมขโมยรถกระทืบโทษฐานทิ้งหน้าที่ จนทำให้คนอื่นเกือบโดนจับได้ เวหากับรุ้งลงมาเจอกับภูผาโดยบังเอิญ ..

แม้เวลาผ่านไปหลายปี ทั้งสองยังจำกันและกันได้ดี ไม่เคยลืม รุ้งยิงคำถามใส่ภูพา ว่าไปทำอะไร อยู่ที่ไหนมา แถมยังสั่งให้เวหาช่วยทำแผลให้ ภูผาสังเกตเห็นว่าเวหาสนิทสนมกับรุ้ง และมีท่าทีไม่พอใจที่รุ้งใส่ใจเขา เขาจึงรีบปลีกตัวกลับไป รุ้งเองก็สังเกตเห็นเหมือนกันว่าภูผาและเวหามีหน้าตาคล้ายกัน รุ้งซักไซ้ถามเวหา จนเขายอมรับว่าภูผาเป็นน้องชาย เวหาบอกรุ้งว่า ทุกคนรักและหวังดีกับภูผา แต่ภูผาทำตัวเกเร มีแต่เรื่องชกต่อย ห้ามก็ไม่ฟังจนกระทั่งหนีออกจากบ้านไป เวหาตั้งใจโกหกเพราะไม่อยากให้รุ้งสนใจภูผามากกว่าเขา แต่สิ่งที่รุ้งได้ยินไม่ทำให้เธอรังเกียจภูผา กลับทำให้เธอเป็นห่วงเขามากขึ้นไปอีก

ที่บ้านพักคนชรา ภูผามาหาย่าสาย ไปขอให้ย่ากลับไปอยู่ด้วยกัน ย่าสายปลื้มใจที่ภูผาขอร้อง แต่นางไม่อยากเป็นภาระของหลาน จึงบอกว่าอยู่ที่นี่สบายใจเพื่อนก็เยอะไม่เหงา อยากมาเยี่ยมย่าเมื่อไหร่ก็มาได้ และวันนี้ คุณหญิงดารกา ก็เอาของมาแจกด้วย คุณหญิงเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง ถือตัว เป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคม ออกงานการกุศลบ่อย บ่อยจนแทบไม่มีเวลาอยู่บ้าน วันนี้เธอจึงพาลูกสาวมาด้วย ภูผาได้พบกับรุ้งที่มาบริจาคของเป็นเพื่อนแม่ รุ้งแอบมานั่งคุยเล่นกับเวหาอย่างเป็นกันเอง ชวนคุยโน่นนี่ จนวกมาถึงเรื่องที่เธอได้ยินมาจากเวหา ภูผาจึงบอกว่า เธอฟังความข้างเดียว เธออยากรู้ความจริงแต่ก่อนที่จะได้ถามอะไรต่อ คุณหญิงก็เดินมาตามซะแล้ว รุ้งข้องใจเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวภูผา เธอคิดว่าต้องหาความจริงให้ได้

ภูพาตั้งใจจะออกจากวังวนนักเลง แต่ปรกติ ทางเดียวที่จะออกมาได้ คือ...ตาย! ภูผาต่อรอง ขอแลกกับการต่อสู้กับเชิด ที่แกร่งและเก่งกว่าภูผา ทุกคนคิดว่า งานนี้ภูผาตายแน่ รวมทั้งตัวเขาเอง เขาจึงขอร้องให้ป้าหมอมาเป็นพยานในการต่อสู้ของเขากับเชิด และถ้าเขาเป็นอะไรไปให้ป้าหมอนำเงินเก็บทั้งหมดของเขาให้กับพ่อแม่ด้วย แต่สุดท้ายแม้ ภูผาจะโดนเชิดจัดการจนหมอบ ด้วยใจที่แน่วแน่เขาใช้แรงเฮือกสุดท้าย เอาชนะ เชิดจนได้ ในที่สุดเขาก็ได้เดินออกจากวังวนนักเลงอย่างที่ตั้งใจ เขาพาร่างที่สะบักสบอม หน้าเขียวปูด เลือดเต็มตัวไปหาพ่อและแม่ที่บ้านเพื่อจะบอกว่าอยากกลับมาช่วยทำงาน แต่ไม่แปลกใจเลย พ่อยังคงรังเกียจและไม่ต้อนรับเขา เช่นเดียวกับเวหา ที่ทั้งโกรธทั้งเสียหน้า เพราะไอ้ตัวซวยมาทำลายบรรยากาศวันเกิดของเขาอย่างย่อยยับ

เวหาจัดงานวันเกิดที่บ้าน เพราะเพื่อนตื้ออยากมารู้จักบ้าน จนเวหาต้องยอม และยังชวนรุ้งมางานด้วย เวหาโม้กับเพื่อนว่าพ่อแม่เป็นด๊อกเตอร์ ตอนนี้อยู่เมืองนอก และขอให้สิทธิ์และเดือน แสดงเป็นคนรับใช้ในบ้านแทน พ่อแม่สะอึกและปวดร้าว แต่ก็ยอมทำตาม ดูเหมือนว่า รุ้งจะผิดสังเกต จนเกือบจับได้ และเมื่อจู่ๆภูผาก็โผล่มา เดือนเห็นหน้าลูกคนเล็กก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร และสิทธิ์โมโหมากจนขาดสติ ทำให้ความแตก เหตุการณ์ต่างๆ ที่ภูผาเคยพูดถึงพี่ เวหาเคยพูดถึงน้องให้รุ้งฟัง รุ้งจึงเข้าใจ เรื่องของทั้งสองคนทันที และทุกคนเลยรู้ว่า ลุงกับป้า คนรับใช้ในบ้าน คือพ่อแม่ ของเวหานั่นเอง

เหตุการณ์วันนั้น ทำให้รู้ว่า ที่ผ่านมาเวหาโกหกทุกคน รุ้งจึงรู้สึกไม่ดีกับเวหา ขณะที่กับภูผานั้นยิ่งรู้สึกดีขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ พบเจอกันอย่างบริสุทธิ์ใจ โดยมีป้าหมอ และคุณลุงทวีวัฒน์ สามีเองก็รับรู้ แถมยังเข้าใจทั้งสองคน และมองว่าภูผาเป็นคนดีจึงให้ความสนิทสนมและให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเอง รุ้งก็ยิ่งวางใจในตัวภูผามากขึ้นอีก จนกระทั่งทอรักกลับมาจากเมืองนอก และเริ่มกลับมาคบกับเวหา ส่วนคุณหญิงดารกาก็ไม่ต้องการให้ลูกสาวยุ่งเกี่ยวกับคนที่ต้อยต่ำกว่า เมื่อทางบ้านรุ้งกีดกันหนักขึ้น ทั้งสองเลยไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ในทุกๆวันเขาทั้งสองเล่าเรื่องราวและให้กำลังใจกันผ่านจดหมายที่ฝากไว้ที่คลินิกป้าหมอ

ภูผาตั้งใจช่วยพ่อแม่ขายของที่ตลาดนัดทุกวัน และหาเวลาไปเรียนเพิ่มเติม ความขยันของภูผาทำให้พ่อแม่มีรายได้มากขึ้น และเหนื่อยน้อยลง เดือนรู้สึกผิดต่อลูกและซาบซึ้งที่ภูพามาช่วย สิทธิ์ยังคงตั้งแง่เหมือนเดิม ถึงจะไม่แสดงอาการรังเกียจเหมือนที่ผ่านมา แต่ยังคงมึนตึงไม่มองหน้าลูกชังอยู่เช่นเดิม ส่วนเวหากลับไปคบกับทอรัก ก็พยายามอัพตัวเองให้ไฮโซ กิน เที่ยว ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยมากขึ้นอีก โดยที่พ่อแม่ไม่รู้ก็คอยส่งเงินให้ตลอด พอเงินหมดก็โผล่หน้ากลับมาบ้านที แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยว่าอะไร คราวนี้ เวหากลับมาบ้านเพื่ออ้อนพ่อขอซื้อรถใหม่ แต่เรื่องรถ ก็เกินกำลังจะทำให้ได้ พ่อต้องตัดใจปฏิเสธว่า เงินไม่พอ ให้รอไปก่อน นั่นทำให้เวหา โมโหแบบที่ไม่เคยเป็น เขาคิดว่าเป็นเพราะภูผา เขาเลยไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ที่ผ่านๆมาไม่ว่าเขาจะออดอ้อนครั้งไหน พ่อแม่ไม่เคยปฏิเสธแม้แต่ครั้งเดียว เวหาเอารถกระบะที่ใช้ไปขายของที่ตลาดนัด ขับออกไปด้วยความโกรธ และนำมันไปชนจนยับเยิน โดยที่ตัวเอง รอดปลอดภัย ทั้งพ่อและแม่ เสียใจมากที่ไม่สามารถทำความต้องการของลูกได้ และยังเสียเครื่องมือหลักในการทำมาหากินไปอีก

ภูผาชวนพ่อกับแม่กลับไปขายของที่บ้านเก่า สิทธิ์ไม่สนใจ พยายามหาทางกลับไปขายที่ตลาดนัด แต่เมื่อไม่มีรถ ก็ได้ไม่คุ้มเสีย ดื้ออยู่ได้ไม่นาน สุดท้ายก็ต้องยอม การกลับมาขายของครั้งนี้ ต้องสู้กับคู่แข่งคือร้านมินิมาร์ท และห้างสรรพสินค้า ภูผาและรุ้งช่วยกันคิดแผนการตลาดและโฆษณาร้านชำเล็กๆของเขาให้มีคนสนใจ และเข้ามาซื้อจนได้ ภูผายังพยายามไปสำรวจที่ต่างๆ เพื่อคิดหาสินค้าอะไรที่ร้านในละแวกบ้านเขาไม่มีขาย และเห็นว่า ปุ๋ยและ อาหารสัตว์ น่าจะขายได้ดี เขาปรึกษาและติดต่อขอซื้อจากโรงงานของลุงทวีวัฒน์ ซึ่งแน่นอน สิทธิ์โกรธมาก แม้ลุงทวีวัฒน์จะกล่อมให้วางขายได้ แต่พ่อก็หยามน้ำหน้าว่าไม่มีทางขายออกแน่นอน..ภูผาไม่ท้อเพราะมีรุ้งเป็นกำลังใจที่ดี ทั้งสองเข้าใจ เชื่อใจกัน และไม่เคยมีความลับต่อกันอีกด้วย รุ้งแอบมาช่วยภูผาที่ร้านบ่อยๆ ภูผาก็มักเดินไปส่งเธอที่คลินิกป้าหมอ

เวหาโดนทอรักหักอกรอบสอง คราวนี้เขาตั้งใจกลับมาจีบรุ้งให้ติด แต่พอมาเห็นความสนิทสนมของรุ้งที่มีให้กับภูผาและครอบครัวเขา ทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน ทำให้เวหาทั้งโกรธและเสียหน้า เวหาโทร.ฟ้องคุณหญิงดารกา ว่าทอรุ้งมาขลุกอยู่กับพวกนักเลง คุณหญิงรีบมาที่ร้านของภูผา คุณหญิงดูถูกครอบครัวและต่อว่าภูผา ว่ามักใหญ่ใฝ่สูง ตัวเองต่ำต้อยแล้วยังสะเออะเอื้อม อยากจะคบหากับลูกสาวของตน ด้วยความกล้าหาญและความจริงใจ ที่ภูผามีให้กับรุ้ง เขาขอเวลาคุยกับคุณหญิงเป็นการส่วนตัวแค่ห้านาที เป็นห้านาทีที่ยาวนานสำหรับการรอคอยของรุ้ง แม้เธอไม่รู้ว่าภูผาคุยอะไรกับแม่ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล คุณหญิงพารุ้งกลับบ้าน รุ้งพยายามอธิบาย แต่คุณหญิงก็ไม่มีทางยอมให้ลูกสาวคบหากับนักเลงสลัมอย่างภูผาแม้ในฐานะเพื่อนก็ไม่ยอม ทอรักสงสารน้องและรู้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากเวหาอยู่เบื้องหลัง คุณหญิงบังคับให้รุ้งไปเรียนต่อเมืองนอกเร็วที่สุด ทอรุ้งกับภูผาจึงต้องจากกันทั้งที่ไม่ได้ล่ำลากันแม้แต่คำเดียว

ห้าปีผ่านไป...

ภูผาเงียบขรึมมากขึ้น และก้มหน้าก้มตาทำงานหนัก ด้วยเป็นคนหัวไว และเขาใช้เวลาอยู่กับลุงทวีวัฒน์ จึงได้แนวคิดการทำธุรกิจและหาทางขยายกิจการอยู่ตลอด ภูผาให้พ่อกับแม่รับเสื้อผ้าและของใช้อื่นๆมาขายด้วย เมื่อสินค้าปุ๋ยและผลิตผลทางการเกษตรของเขาขายดีมาก เงินหลั่งไหลเข้ามา เขาเองจึงเปิดร้านใกล้บ้าน เป็นร้านขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรโดยตรง ซึ่งทุกอย่างไปได้สวย ร้านเดือนกลายเป็นร้านขายของใช้จำเป็นที่ใหญ่ที่สุด และมีของครบทุกอย่างที่ต้องการ ส่วนกิจการของเขาก็ดีมากขึ้นไปอีก ภูผาให้สมฤทัยมาทำงานด้วย ตอนนี้สมคิดต้องติดคุก เพราะฆ่าเชิดตาย ภูผารักษาสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะดูแลครอบครัวของเพื่อนรัก สมฤทัยมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ภูผา และเธอหลอกตัวเองว่าภูผามีใจให้เธอ เพราะเธอไม่รู้ว่า ภูผามั่นคงกับรุ้งเสมอ แม้ว่ารุ้งจะไม่อยู่แล้วก็ตาม และเมื่อครอบครัวสบายขึ้น ภูผารับย่ากลับมาอยู่ด้วย เขาดูแลพ่อแม่ ย่าอย่างดี แต่พ่อก็ไม่เคยพูดจาดีๆกับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว พ่อยังคงรักและคิดถึงแต่เวหา ซึ่งเรียนจบแพทย์ และตอนนี้ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลของครอบครัวรุ้ง

ด้วยความเอ็นดูและไว้ใจของลุงทวีวัฒน์ที่ให้ภูผาขับรถให้ เวลาไปดูงานต่างจังหวัด ภูผาจึงได้เปิดหูเปิดตา เห็นอะไรต่างๆมากมาย ทำให้ได้เขาก็เกิดความคิด อยากมีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นงานใหญ่และยากทีเดียว ความมุ่งมั่นของภูผา ทำให้ทวีวัฒน์คิดว่าภูผาต้องทำได้แน่ จึงให้คำปรึกษา แนะนำการกู้ยืมเงิน และตัดสินใจร่วมลงทุนกับภูผาด้วย ทำให้ความฝันของภูผาเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

นานมากแล้วที่เวหาไม่ได้กลับบ้าน อ้างแต่ว่างานยุ่ง สิทธิ์กับเดือนที่คิดถึงเวหามาก จึงชวนกันไปหาลูกรักที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึง พยาบาลตรงเคาน์เตอร์กลับบอกว่า โรงพยาบาลนี้ไม่มีนายแพทย์ชื่อ "เวหา กล้าแกร่ง" สองผัวเมียตกใจมากและไม่ยอมเชื่อ พอคะยั้นคะยอถามก็ถูกให้ รปภ.จับตัว รุ้งมาเห็นเข้าจึงไกล่เกลี่ยให้ รุ้งบอกว่า เวหาเปลี่ยนชื่อ และนามสกุลแล้ว เวหาไม่ได้ใช้นามสกุลของสิทธิ์แล้ว ได้ฟังแล้วเหมือนหัวใจสลาย สิทธิ์ทั้งโกรธ เสียใจ ผิดหวังมากจนช็อก เดือนรีบโทร.ตามภูผาให้มาหาพ่อ เมื่อภูผามาถึงและรู้ความจริงก็โกรธเวหามาก ภูผาแทบพุ่งเข้าไปต่อยเวหา แต่เสียงของรุ้ง ห้ามหมัดเขาไว้ได้ เมื่อภูผาหันมาเจอหน้ารุ้ง เขาทั้งดีใจและตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก จึงรีบพาพ่อแม่กลับบ้าน รุ้งงงท่าทางของภูผา เธอไปที่ศาลาท่าน้ำที่เคยเป็นที่ของเธอและเขา และได้พบกับภูผาที่รออยู่แล้ว ทั้งสองคนรู้แล้วว่าต่างคนต่าง มีความรักและไว้ใจให้แก่กันเหมือนเดิม

หมออนุสราและทวีวัฒน์พาภูผามางานเลี้ยงต้อนรับทอรักกับทอรุ้งกลับเมืองไทย และเปิดตัวเขาด้วยฐานะ ลูกบุญธรรม ภูผาคุยกับคุณหญิงดารกา ถึงสัญญาก่อนที่จะพารุ้งไปเรียนเมืองนอก สัญญาที่เขาขอจากคุณหญิงว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างฐานะให้เท่าเทียมทอรุ้ง เพื่อจะได้คู่ควรกับเธอ และที่เขาได้รับเกียรติจากผู้ใหญ่ทั้งสองเป็นลูกบุญธรรม เพื่อไม่ให้คุณหญิงอ้างเรื่องชาติตระกูลได้เท่านั้น เพราะเขาไม่คิดจะรับเงินจากป้าหมอและลุงวัฒน์แม้แต่บาทเดียว แม้ตอนนี้เขาจะไม่รวยเท่า แต่วันหนึ่งเขาจะรวยแน่นอน เมื่อเห็นความจริงใจ หนักแน่น และความพยายามของภูผา คุณหญิงดารกาก็ จึงรักษาสัญญายอมให้ทั้งคู่คบหากัน ไม่ใช่แค่คุณหญิงเท่านั้นที่ชื่นชม ขนาดนายแพทย์ทินราช พ่อของรุ้งแม้จะไม่เคยพบภูผามาก่อน ได้ยินเพียงคำบอกเล่าของพี่หมออนุสรา เมื่อได้พบภูผาในครั้งแรก ก็ยังอดประทับใจไม่ได้

เวหาเห็นภาพภูผาถูกรุมล้อมด้วยผู้คนในงาน ก็เกิดอิจฉา และยิ่งเห็นสายตาของรุ้งที่มองมันก็ยิ่งทนไม่ได้ เขาขอตัวออกจากงานเลี้ยง โดยแทบไม่มีใครสนใจ เขาไปหาพ่อกับแม่ที่บ้าน บอกให้ไปสู่ขอรุ้งให้ตนเอง อ้างว่าคบหากับรุ้งมาก่อน และไม่มีทางที่ไอ้ภูผาตัวซวยจะได้ดีไปกว่าเขาที่เพียบพร้อมทุกอย่าง พ่อแม่ได้ฟังคำลูกคนโตที่พูดถึงน้อง เหมือนกับได้ยินเสียงสะท้อนของตัวเอง และก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรต่อ สิทธิ์ก็พูดเรื่องอยากให้เวหาบวช เขาปฏิเสธ หาข้ออ้างสารพัด แสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัว คราวนี้สิทธิ์ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ทั้งเรื่องเปลี่ยนชื่อนามสกุล ทั้งเรื่องโกหกแล้วเอาเงินไปกินเหล้าเมายา ทั้งเรื่องบอกเพื่อนว่าพ่อแม่เป็นคนใช้ สิทธิ์ไล่ตะเพิดลูกรักออกจากบ้านด้วยความโมโหแบบขาดสติ พ่อตรงเข้าตบตีเวหา เวหาผลักพ่อล้มลง และทำท่าทางเกรี้ยวกราดใส่พ่อแม่อย่างไม่สำนึกบุญคุณ ก่อนจะวิ่งหนีไป ภูผาที่ยืนแอบฟังอยู่เข้ามาดูพ่อ เวลานี้ศักดิ์สิทธิ์รู้แล้วว่า เขาทำผิดมากแค่ไหน เขาขอโทษที่ทำให้ชีวิตลูกเกือบพังเพราะความคิดบ้าๆที่ว่า ลูกเป็นตัวซวย แต่ภูผาไม่เคยโกรธพ่อเลย ตอนนี้เขาดีใจมากที่พ่อยอมรับเขา เดือนร้องไห้ที่เห็นพ่อลูกเข้าใจกัน และเมื่อภูผาขอเป็นคนบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ สิทธิ์และเดือนตื้นตันใจ โอบกอดภูผา พร้อมน้ำตาแห่งความสุข ไหลอาบแก้มทั้งสามคน

หลังจากสึกและรับปริญญาแล้ว ภูผาลุยงานโรงงานเต็มที่ โดยมีพ่อแม่ย่าและรุ้งเป็นกำลังใจ ทำให้เขาผ่านอุปสรรคและปัญหาได้ทุกครั้ง เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ทั้งคู่ก็แต่งงานกันและมีลูกชายที่น่ารักหนึ่งคน ส่วนเวหาถูกโรงพยาบาลไล่ออกเพราะมีปัญหาชู้สาวกับพยาบาล พอไปเปิดคลินิกเสริมความงามก็ใช้ยาปลอม ของปลอมในการรักษาจนแพทยสภาจับตามอง พ่อกับแม่ไปเตือนเขาก็ไล่กลับและบอกว่าตอนนี้ใช้คนละนามสกุลแล้ว พ่อกับแม่ได้แต่เสียใจที่ตนเลี้ยงลูกผิดมาตลอด

ใช้เวลาทั้งหมดแปดปี ภูผาสามารถนำบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในบริษัทหลักทรัพย์ภายใต้ชื่อย่อ เอสดีพี บริษัทของภูผาก็ขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น เป็นอุตสาหกรรมการเกษตรแบบครบวงจร และเริ่มลงทุนในต่างประเทศ อันทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีติดอันดับของประเทศไทยในที่สุด

"มนุษย์แม้เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นคนดีได้ เฉกเช่นชีวิตของภูผา ถึงแม้จะเกิดมาเป็นตัวซวย แต่เมื่อเขาไม่ย่อท้อ และมุ่งมั่นที่จะมีอนาคตที่ดี เขาก็ดิ้นรนต่อสู้จนไปถึงฝั่งฝัน โดยมีหลักยึดจากพรหมวิหาร4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ตามที่ย่าสอน และมีกำลังใจจากทอรุ้งผู้เป็นลมใต้ปีก ที่คอยประคองให้เขาบินสูง แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความมั่งมี ก็ไม่เท่ากับการเป็นคนมีคุณธรรม เช่นที่ภูผายึดมั่นเสมอมา"



เรื่องย่อ ::: ซีรีส์ลูกผู้ชาย ตอน ภูผา


เรื่องย่อ ::: ซีรีส์ลูกผู้ชาย ตอน ภูผา


เรื่องย่อ ::: ซีรีส์ลูกผู้ชาย ตอน ภูผา


เรื่องย่อ ::: ซีรีส์ลูกผู้ชาย ตอน ภูผา


เรื่องย่อ ::: ซีรีส์ลูกผู้ชาย ตอน ภูผา

Cr:::ch3thailand.com

เรื่องย่อ ::: ซีรีส์ลูกผู้ชาย ตอน ภูผา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์