เมื่อดอกรักบาน

เมื่อดอกรักบาน

เรื่องย่อ
 
สายไหม หญิงสาวสวยใสแห่งบ้านบ่อสร้าง อ.สันกำแพง นั่งมองดอกทองกวาวที่สลัดกลีบสีแสดร่วงลงสู่ธารน้ำสันต้นเปาที่ไหลผ่านบ้านไม้สักหลังใหญ่ของเธออย่างเพลิดเพลิน แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อ ชาย เข้ามาแตะไหล่ทักทาย แม้จะด้วยอาการเบามืออย่างสุภาพบุรุษก็ตาม สายไหมอยากจะต่อว่าคนที่ทำให้เธอขวัญบิน แต่เมื่อหันมาเห็นหน้าชายหนุ่มความปีติยินดีก็เข้ามาแทนที่ ชายเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่สายไหมสนิทสนมมากที่สุดตั้งแต่เล็กจนโต จนเมื่อเขาจากไปเรียนต่อคณะนิติศาสตร์ที่กรุงเทพฯ จึงทำให้ทั้งสองห่างกันไปบ้าง สายไหมทั้งรักและนับถือชายอย่างพี่ชาย ในขณะที่ฝ่ายชายภักดีและรักหญิงสาวเยี่ยงนางในดวงใจ และที่กลับมาเยี่ยมบ้านครั้งนี้ เขาก็มีเป้าหมายที่จะขอฝ่ายหญิงหมั้นและแต่งงานกันทันที



สายไหมอิดออดเมื่อทราบจุดประสงค์ของฝ่ายชาย เพราะความที่เธอเคยมีแผลในเรื่องการแต่งงานมาก่อนหน้านี้ แต่ชายขอให้สายไหมลืมเรื่องในอดีตทั้งหมด เพราะเขาไม่เคยตั้งข้อรังเกียจเรื่องในอดีตของสายไหมเลย สายไหมขอเวลาในการตัดสินใจ เธอไปขอคำปรึกษาจากสายบัว ผู้เป็นแม่ สายบัวเห็นดีด้วยทุกอย่าง เพราะชายเป็นเด็กที่มีความประพฤติดี เสมอต้นเสมอปลาย ฐานะก็อยู่ในขั้นมีอันจะกิน ที่สำคัญพ่อแม่ของชายก็เป็นคนดี และเป็นญาติห่าง ๆ ของสายบัวด้วย ทั้ง ๆ ที่ใจจริงสายไหมไม่ได้รักชอบชายแบบหนุ่มสาวเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยความที่เป็นเด็กหัวอ่อนและรักแม่มาก ทำให้สายไหมคล้อยตาม แต่ก็ขอเวลาในการตัดสินใจ แต่แล้วการแต่งงานของทั้งคู่ก็ชะงักงัน เมื่อพ่อแม่ของชายอ้างเหตุผลของสมภารที่วัดว่า ฤกษ์แต่งงานยังไม่มีในปีนี้ และถ้าจะแต่งกันจริง ๆ ก็ต้องรอไปอีกสองปี โดยเลี่ยงที่จะบอกความจริงกับลูกว่า แท้จริงแล้วฤกษ์แต่งงานนั้นแทบไม่มี เนื่องจากว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นเนื้อคู่กัน ชายได้แต่ตั้งความหวังและเฝ้ารอวันที่ยังมาไม่ถึง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่ามันจะไม่มีวันนั้นมาถึงอย่างเด็ดขาด



เพราะในเย็นวันนั้นเอง สายไหมได้รับเชิญให้ไปฟ้อนรำในงานวันเกิดพ่อเลี้ยงบุญซึ่งมีนักเรียนจากเกษตรแม่โจ้มาร่วมงานด้วย และหนึ่งในนั้นก็คือ กานท์ นักศึกษาหนุ่มหล่อไฟแรงที่เข้ามายืนชมขบวนฟ้อน และตกหลุมรักนางฟ้อนที่ชื่อสายไหมทันทีเมื่อแรกเห็น สายไหมเองก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำ เมื่อคนที่มายืนดูมีตั้งมากมาย แต่ทำไมใจถึงได้ไหวอ่อนไปกับสายตาอันเป็นประกายของกานท์อยู่ร่ำไป ดังนั้นเมื่อฟ้อนเสร็จ เธอจึงหลีกเร้นหนีหน้าไปรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อน ๆ และไม่กล้าที่จะหันมาสบตาชายหนุ่มอีก เพราะความเขินอายซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต กานท์เองก็รู้สึกเหมือนถูกศรรักปักอก รีบมาขอข้อมูลเพื่อนรักคือ ตะวัน ซึ่งเรียนอยู่ที่เดียวกัน และเป็นคนสันกำแพงเหมือนกัน ตะวันน่าจะรู้ดีว่าผู้หญิงที่เขาเกิดรักแรกพบนั้นชื่ออะไร เป็นใคร บ้านช่องอยู่ที่ไหน ตอนแรกตะวันก็ไม่ยอมให้ข้อมูล เพราะคิดว่าความรักของคนกรุงเทพฯเป็นเรื่องประเดี๋ยวประด๋าวไม่ยั่งยืน ต่อเมื่อกานท์ยืนยันด้วยสายตาและท่าทางที่จริงจัง ตะวันจึงต้องยอมเปิดปากว่าผู้หญิงที่กานท์อยากรู้จักนั้นเป็นใคร


สายไหมขออนุญาตแม่ไปงานเลี้ยงปิดภาคเรียนของนักเรียนเกษตรที่แม่โจ้ โดยโกหกว่าตะวันเป็นคนชวนเพื่อไม่ให้แม่สงสัย สายบัวไม่อนุญาต เพราะในวันนั้นสายไหมต้องเข้าพิธีหมั้นกับชาย สายไหมรู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงตรงหน้า ละล่ำละลักถามแม่ว่า ทำไมถึงรับหมั้นโดยไม่ถามความสมัครใจของตนเองก่อน ชายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เห็นท่าไม่ดีเลยขออนุญาตสายบัวคุยกับสายไหมตามลำพัง จนในที่สุดก็พบกับความจริงที่เจ็บปวดจากปากหญิงสาวที่ตนเองรักว่า เธอไม่เคยแม้แต่คิดที่จะรักเขาฉันชู้สาวเลย จะเป็นได้ก็เพียงพี่น้องกันเท่านั้น  ถึงแม้จะเจ็บช้ำขนาดไหน  ชายก็จำต้องยอมรับความจริง โดยเข้าใจว่าสายไหมชอบพออยู่กับตะวัน เขาขอให้เธอสบายใจ เขาจะไม่ฝืนใจผู้หญิงที่เขารักเป็นอันขาด กานท์เตรียมตัวมารับสายไหมไปงานปิดภาคเรียน แต่ดันมาเจอ เคลีย กลางทาง เคลียหลงรักกานท์มานาน เนื่องจากกานท์เป็นผู้ชายสุภาพและอบอุ่นเหมือนพ่อ ซึ่งเธอรักมากแต่ก็ตายจากเธอไปนานแล้ว เคลียต้องการให้กานท์พาเธอไปรับชุดที่จะใส่มางานคืนนี้ด้วยกัน ขณะที่กานท์ไม่รู้จะตอบปฏิเสธยังไงนั้น ตะวันก็เข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ทันเวลาพอดี กานท์ขอให้ตะวันพาเคลียไปรับเสื้อ โดยตนเองจะไปรับสายไหม ตะวันค้านว่า สายบัวไม่มีวันยอมให้สายไหมมากับกานท์เด็ดขาด เพราะสายไหมเพิ่งจะปฏิเสธงานหมั้นของชาย และที่สำคัญที่สุดก็คือ กานท์เป็นคนกรุงเทพฯ แม่ของสายไหมเกลียดคนกรุงเทพฯมากเพราะว่าพ่อของสายไหมเป็นคนกรุงเทพฯ และทิ้งแม่ไปตั้งแต่สายไหมยังอยู่ในท้อง กานท์ขอให้ตะวันเป็นคนไปรับสายไหมแทนพร้อมกับสาบานว่าตนเองรักและต้องการเจอสายไหมจริง ๆ ตะวันเห็นเพื่อนเอาจริงก็รับปากแต่ก็มีข้อแม้ว่า ระหว่างทางที่กานท์ไปส่งเคลียที่ร้านเสื้อ กานท์ต้องบอกความในใจของตะวันเรื่องที่หลงรักเคลียมานานให้เคลียรับรู้ และงานเลี้ยงคืนนี้กานท์จะได้อยู่กับสายไหม โดยที่ตะวันจะขอดูแลเคลียเอง



ตะวันไปรับสายไหมมางานเลี้ยงโดยส่งให้กานท์ดูแล  ส่วนตัวเองก็ชิ่งไปรับหน้าเคลียซึ่งตามมาทีหลัง และพยายามกันไม่ให้เคลียเข้าไปหากานท์ กานท์มีความสุขมากที่ได้พูดคุยกับสายไหม แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ทั้งคู่ก็รู้สึกเหมือนอยู่กันเพียงลำพังสองคน กานท์รำพันความรักที่มีต่อสายไหม และขอให้ สายไหมตอบรับรักตน เพราะถ้าสายไหมไม่รักตอบก็จะไม่เสนอหน้ามาสร้างความรำคาญใจให้สายไหมอีกเลย สายไหมได้ยินแล้วก็ใจหายกำลังจะท้วงไม่ให้กานท์เข้าใจผิด แต่เคลียก็เข้ามาขัดจังหวะซะก่อน เคลียเห็นท่าทีที่กานท์แสดงออกต่อ    สายไหมเยี่ยงคนรักก็เจ็บใจ พูดจาค่อนแคะกระแหนะกระแหนสายไหมตลอดเวลา จนกานท์เห็นท่าไม่ดีเลยกันเคลียออกมาจากสายไหม เคลียโกรธที่กานท์เห็นสายไหมดีกว่าตัวเองเลยประกาศให้กานท์รู้ว่าสายไหมเป็นแม่ม่ายเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว กานท์เห็นเคลียอารมณ์ไม่ดีเลยบอกให้กลับบ้านไปก่อน เคลียเข้าใจว่ากานท์ไล่ตนทางอ้อม จึงวิ่งร้องไห้ออกไปด้วยความน้อยใจ โดยมีตะวันวิ่งตามไป ด้วยความเป็นห่วง ระหว่างทางกลับบ้าน ฝนตกหนัก ตะวันพาเคลียไปหลบฝนในกระท่อมร้าง และพยายามพูดปลอบใจเคลียที่ยังร้องไห้ไม่หยุด จะด้วยความรู้สึกอ้างว้าง สูญเสียหรือบรรยากาศเป็นใจหรือเพราะลิขิตของพรหมก็แล้วแต่ ทำให้เคลียเคลิบเคลิ้มไปกับการเล้าโลมและตกเป็นของตะวันในที่สุด เรื่องราวจะเข้มข้นแค่ไหนติดตามต่อในละคร.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์