ละครบ่วงหงส์

ออกอากาศ ละครหลังข่าว พุธ - พฤหัสบดี 20.25 น.
บทประพันธ์ กิ่งฉัตร
บทโทรทัศน์ ภาวิต
กำกับการแสดง วัชรา สังข์สุวรรณ, ชัยวุฒิ เทพวงษ์
ผู้ผลิต
ดีด้า วีดีโอ โปรดักชั่น จำกัด

พิมพ์ลภัส (แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวคนเดียวของ ตรัย (ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี) นักธุรกิจที่ล้มละลายและฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ ความที่เป็นลูกสาวคนเดียว เกิดมาบนกองเงินกองทอง และกำพร้าแม่ทำให้ถูกตามใจจนเหลิง ใช้ชีวิต อย่างหรูหราสุขสบายมาตลอด หนังสือก็เรียนไม่จบ เจ้าอารมณ์ และเอาแต่ใจตัว ความตายของพ่อทำให้ชีวิตของเธอต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เนื่องจากคนที่ได้เงินทองจากตรัยไปมากที่สุดคือ มาธวี (น้ำฝน กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์) แม่เลี้ยงซึ่งแก่กว่าเพียงไม่กี่ปีของเธอ พิมพ์ลภัสต้องออกจากบ้านที่ถูกยึดมาเช่าคอนโดเล็ก ๆ อยู่ แถมยังถูก ยศพล (นัส อานัส ฬาพานิช) ผู้เป็นคู่หมั้นถอนหมั้น ตรงกันข้ามกับมาธวีซึ่งชิงหย่ากับตรัยก่อนหน้านี้ และเรียกร้องค่าเลี้ยงดูอย่างมหาศาล แถมถีบตัวขึ้นมาจนมีชื่อเสียงในสังคมด้วยการเปิดห้องเสื้อมาธวี ซ้ำยังเป็นนางแบบเสียเองอีก มาธวีมีคนสนิท 2 คน คือ กระเทยปากร้ายชื่อ หนูดี (หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน) และหญิงแท้ชื่อ เป็ด (ต่าย ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) ทั้งสองเป็นเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกของเจ้านาย

ถึงแม้ชีวิตจะตกต่ำลง แต่พิมพ์ลภัสก็ยังมีนิสัยเสียชนิดแก้ไม่หาย งานเดินแบบที่เคยทำก็ห่างหายไป ไม่ค่อยมีใครอยากจ้างเพราะถึงแม้จะสวยจัดอย่างไร แต่ทุกคนต่างเอือมระอากับการผิดนัด โทษโน่นโทษนี่ของเธอโดยไม่เคยมองข้อเสียของตัวเองเลย ถึงกระนั้นพิมพ์ลภัสก็ยังหยิ่งไม่ง้อใคร ยิ่งนานวันทรัพย์สินเงินทองก็ร่อยหรอลงทุกที หากแต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่ยอมขายซึ่งก็คือ เข็มกลัดประดับเพชรรูปหงส์ที่เตรียมจะโผบินขึ้นฟ้า เข็มกลัดนี้พ่อได้มอบให้เป็นของขวัญเมื่อพิมพ์ลภัสอายุ 15

เจ้าของคอนโดที่พิมพ์ลภัสเช่าอยู่ชื่อ กิตติชัย (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) ทั้งกิตติชัยและ อรอุษา ผู้เป็นภรรยาต่างมีนิสัยเจ้าเล่ห์ ทั้งสองเฝ้าสังเกตเธอตลอดมา จนกระทั่งเห็นว่าเธอกำลังจนตรอกจึงเสนองานที่มีค่าตอบแทนสูงให้นั่นคือให้ไปขโมย และทำลายเทปลับกับจดหมายที่เกี่ยวกับอรอุษาจาก รเมศ (วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เจ้าของโรงแรมเชียงรายจารวี สองสามีภรรยาสร้างเรื่องว่าอรอุษาหลงผิดไปมีความสัมพันธ์กับรเมศ รเมศได้อัดเทป และเก็บจดหมายซึ่งอรอุษาเขียนติดต่อไปไว้แบล็คเมล์ทั้งสองคน ครั้งแรกพิมพ์ลภัสก็ไม่ยอมทำ แต่อรอุษามาร้องไห้วิงวอนขอร้องให้เห็นหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งพิมพ์ลภัสก็ยังลังเลอีก จนกระทั่งได้อ่านข่าวสังคมว่ามาธวีกำลังจะไปจัดแฟชั่นโชว์ที่โรงแรมเชียงรายจารวี เธอจึงตัดสินใจรับงานเพราะเชื่อมั่นว่ารเมศต้องเป็นคนเลวแน่จึงคบกับมาธวีได้

พิมพ์ลภัสเดินทางมาถึงโรงแรมโดยกิตติชัยรับรองความปลอดภัยหากรเมศจับได้ อีกทั้งยังออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างระหว่างที่พักอยู่โรงแรมนั้นด้วย ระหว่างที่อยู่ที่นั่นพิมพ์ลภัสกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนรวมทั้งรเมศ ด้วยความที่เป็นคนสวยมาก รเมศเข้ามาทำความรู้จักซึ่งเธอก็ให้ความสนิทสนมตามแผนทันที รเมศดูจะหลงรักพิมพ์ลภัสขึ้นทุกวัน ทั้งยังบอกว่าจะให้เธอเดินแบบกับห้องเสื้อมาธวีด้วย เขาตามใจ และเอาอกเอาใจทุกอย่าง ความที่พิมพ์ลภัสเอาแต่ใจตัว เย่อหยิ่ง ดูถูกคนอื่น ทำให้เธอสร้างศัตรูในโรงแรมไว้หลายคน โดยเฉพาะกับบรรดาพนักงานเสริฟ



รเมศพาพิมพ์ลภัสเที่ยวดูงานในโรงแรม และพาไปเที่ยว รเมศทุ่มเทใจให้เธอมากมายในขณะที่พิมพ์ลภัสก็จ้องแต่จะขโมยเทป และจดหมายอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เพราะไม่คุ้นกับงานเช่นนี้จึงเผลอทำพิรุธให้รเมศสงสัย รเมศภาวนาขออย่าให้ที่เขาสังหรณ์เป็นความจริง

ในที่สุดรเมศก็จับได้คาหนังคาเขา ขณะที่พิมพ์ลภัสเข้ามาขโมยเทปกับจดหมายในห้องทำงาน พิมพ์ลภัสตกใจมากที่ถูกจับได้ แต่ก็ไม่วายเถียงว่ารเมศเป็นคนไม่ดี เป็นชู้กับเมียคนอื่นแถมยังเก็บหลักฐานไว้แบล็คเมล์ รเมศจึงเปิดเทปให้ฟัง และยังให้อ่านจดหมาย พิมพ์ลภัสรู้ความจริงรู้สึกอับอายมาก แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับความเสียใจที่รเมศมาหมางเมินกับเธอ อย่างไรก็ตามพิมพ์ลภัสก็คือพิมพ์ลภัสที่โทษคนอื่นมากกว่าตัวเอง เธอโทรบอกกิตติชัยให้ส่งเงินมาจ่ายค่าที่พัก และอาหารในโรงแรม แต่กิตติชัยไม่ยอมโดยอ้างว่าเธอทำงานไม่สำเร็จ ทำให้เธอทั้งร้อนใจ และตกใจมาก

สำหรับรเมศ เขาทั้งผิดหวัง และเสียใจที่มองพิมพ์ลภัสผิดไป รเมศรักเธออย่างแท้จริง ฉะนั้นเขาจึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก ถูกทรยศ ฉะนั้นเมื่อพิมพ์ลภัสไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม เขาจึงให้เธอทำงานชดใช้โดยให้เป็นพนักงานเสริฟ ครั้งแรกพิมพ์ลภัสจะขายเข็มกลัดรูปหงส์เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ด้วยความเสียดายจึงตัดสินใจรับงาน

พิมพ์ลภัสต้องแต่งเครื่องแบบพนักงานเสริฟซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เธอเคยดูถูก ต้องย้ายออกจากห้องพักหรูหรามาอยู่ห้องพักของพนักงานซึ่งต้องอยู่ร่วมกันห้องละสองคน ซึ่งห้องก็ทั้งแคบและไม่มีแอร์ ซ้ำร้ายเพื่อนร่วมห้องก็คือพนักงานเสริฟที่เธอเคยวีนใส่

นับจากนั้นพิมพ์ลภัสมีสภาพไม่ต่างอะไรจากหงส์ปีกหัก เธอเห็นทุกคนเป็นศัตรูไปหมด งานหลายๆ อย่างในชีวิตที่ไม่เคยทำก็ต้องทำโดยเฉพาะงานบริการ ตลอดเวลาเหล่านี้รเมศเฝ้าจับตาดูอยู่ด้วยความสะใจแต่บางครั้งก็อดใจอ่อนไม่ได้ ฤทธิ์เดชของพิมพ์ลภัสเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เธอมีเรื่องกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพนักงานเสริฟด้วยกัน ลูกค้า หรือแม้กระทั่งหัวหน้าผู้ดูแลรับผิดชอบ ความเย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจตัวทำให้ทุกคนไม่ชอบพิมพ์ลภัส หลายๆ คนถึงกับนินทา บ้างก็เยาะเย้ยซึ่งๆ หน้า

พิมพ์ลภัสไม่ใช่จะร้ายเสียทีเดียว ความดีในตัวเธอยังมีพอสมควร ซึ่งเธอก็ได้แสดงออกมาเพื่อปกป้องเพื่อนร่วมงานจากลูกค้าบ้ากามทำให้ความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานดีขึ้น การได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันนานเข้า ประกอบกับความไม่สะดวกสบายทั้งหลายแหล่ทำให้เธอเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิต และพยายามทำใจยอมรับถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม

และแล้วมาธวีกับคณะแฟชั่นโชว์ก็มาถึง ทั้งสองได้พบกัน มาธวีรู้สึกสะใจมากที่เห็นลูกเลี้ยงตกต่ำละไม่รีรอที่จะเยาะเย้ยซ้ำเติม ขณะเดียวกันมาธวีก็พยายามจะจับรเมศให้ได้ ด้วยความช่างสังเกตมาธวีก็รู้ว่ารเมศนั้นรักพิมพ์ลภัส เธอจึงคอยสร้างเรื่องให้ทั้งสองเข้าใจผิดกัน แถมยังแกล้งใส่ร้ายพิมพ์ลภัสให้ต้องกล้ำกลืนฝืนทน


ในที่สุด มาธวีก็คิดจะกันพิมพ์นภัสให้ห่างจากรเมศโดยเด็ดขาด เธอจึงโทรศัพท์ติดต่อให้ เสี่ยสมาน (พิพัฒน์พล โกมารทัต) ซี่งหลงรักพิมพ์ลภัสมานานให้มาพักที่โรงแรม เสี่ยดีใจมากรีบมาหา และยื่นข้อเสนอจะเลี้ยงดูพิมพ์ลภัสอย่างดี แต่กลับถูกตอกหน้าอย่างไม่เกรงใจ เสี่ยเริ่มท้อแต่มาธวีพยายามให้กำลังใจโดยบอกแผนการณ์ที่จะทำให้พิมพ์ลภัสตกเป็นของเสี่ย ถึงแม้จะยังลังเลกลัวว่าพิมพ์ลภัสจะไปบอกเมียของเขา แต่ความต้องการมีมากกว่า เสี่ยจึงยอมทำตามแผนโดยเข้าไปรอในห้องมาธวี

มาธวีมาแต่งเรื่องบอกรเมศว่าเธออยากจะใช้เงินแทนพิมพ์ลภัสเพื่อเห็นแก่สายสัมพันธ์ที่เคยเป็นแม่เลี้ยงเธอ แต่ก็กลัวพิมพ์ลภัสจะไม่ยอมรับ ดังนั้นเธอจึงขอร้องให้เขาบอกให้พิมพ์ลภัสมาพบเธอบนห้องเพื่อจะได้ปรับความเข้าใจกัน รเมศหลงเชื่อจึงสั่งให้คนไปบอกพิมพ์ลภัสให้ไปพบเขาที่ห้องมาธวี

พิมพ์ลภัสทำท่าจะไม่ไปในตอนแรก เพราะรู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องมาธวี แต่แล้วก็เปลี่ยนใจจะไปเผชิญหน้า และเมื่อเข้าไปทุกอย่างก็เข้าแผนการณ์ของมาธวี เสี่ยสมานพยายามปลุกปล้ำพิมพ์ลภัส แต่เธอก็เอาตัวรอดจนได้ พิมพ์ลภัสเจ็บใจ และแค้นใจมากด้วยนึกว่ารเมศหลอกเธอมาให้เสี่ยสมาน จึงไปตัดพ้อต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง รเมศตกใจ และปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกันก็ไปเอาเรื่องมาธวี

มาธวีร้องห่มร้องไห้ปฏิเสธ และแก้ตัวจนรเมศเกือบจะเชื่อถ้าไม่พบหลักฐานบางอย่างในห้องนั้นที่มาธวีพยายามกลบเกลื่อน รเมศไล่มาธวีออกจากโรงแรมทันที มาธวีโกรธแค้นด่าว่ารเมศ แต่ก่อนไปได้คายพิษครั้งสุดท้ายโดยบอกกับพิมพ์ลภัสว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้วชื่อ นารา (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ซึ่งพิมพ์ลภัสก็เคยเห็นความสนิทสนมของคนทั้งสองอยู่บ่อยๆ ทำให้พิมพ์ลภัสเสียใจมาก

ส่วนรเมศนั้นก่อนที่จะไล่เสี่ยสมานออกไปได้เรียกค่าทำขวัญไว้ให้พิมพ์ลภัส เสี่ยจำใจให้เพราะกลัวเรื่องจะอื้อฉาวทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย และถูกเมียเอาเรื่อง เงินจำนวนนั้นมากพอสมควร แต่รเมศไม่ได้ให้พิมพ์ลภัสในทันทีเพราะเกรงว่าเธอจะมีเงินใช้หนี้ และกลับกรุงเทพฯไป ด้วยเขายังหวังว่าจะทำความเข้าใจกับเธอได้เพราะหลังจากมีเรื่องเขาได้ขอโทษเธอ และยอมรับผิดทุกอย่าง ซ้ำยังให้มาธวีกราบขอโทษพิมพ์ลภัส และพิมพ์ลภัสได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยความสะใจ

วันรุ่งขึ้น พิมพ์ลภัสตัดใจไปขายเข็มกลัดรูปหงส์ถึงแม้จะเสียดายใจแทบขาด เพื่อจะได้พ้นจากโรงแรมเชียงรายจารวีโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพราะเธอเข้าใจว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเธอด้วยการทำท่าทีเหมือนมีใจด้วย ก่อนไปพิมพ์ลภัสได้มอบของที่ระลึกให้เพื่อนๆ พนักงานเสริฟ เพราะทุกคนต่างได้ให้บทเรียนอันมีค่ากับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้ค้นพบความจริงใจของพวกเขาเหล่านั้นที่มีต่อเธอ

เมื่อพิมพ์ลภัสเอาเงินมาใช้หนี้ รเมศใจหายแต่ในเมื่อเธอยืนยันจะไปก็ไม่สามารถขัดขวางได้ รเมศยังได้มอบเงินค่าทำขวัญของเสี่ยสมานให้เธอด้วย พิมพ์ลภัสยิ่งโกรธมากเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ไม่ยอมให้เธอ เพราะจะแกล้งกักตัวไว้ทำงานต่อไป หลังจากพิมพ์ลภัสจากไปแล้ว รเมศเสียใจมาก และซึมลงไป


เมื่อพิมพ์ลภัสมาถึงกรุงเทพฯ เธอได้รับบทเรียนเรื่องการมีชีวิตพอเพียงจึงไปเช่าคอนโดเล็กลง ขายข้าวของแบรนด์เนมเนื่องจากไม่มีความสำคัญในชีวิตอีกต่อไป หลังจากนั้นก็ออกหางานเดินแบบทำ แต่ทุกแห่งที่ไปจะปฏิเสธหมด เพราะมาธวีใช้อิทธิพล และความสนิทสนมส่วนตัวกับบรรดาเอเจนซี่ให้ปฏิเสธเธอ ซึ่งพิมพ์ลภัสกลับคิดว่าเธอเองก็มีส่วนผิดด้วย เพราะยามรุ่งเรืองเธอเคยเบี้ยวงานบ้าง ไปช้าบ้างอยู่เป็นประจำ

ในที่สุดเธอจึงตัดใจหางานอื่นทำแต่ก็ยากเต็มทีเพราะพิมพ์ลภัสเรียนไม่จบ หรือถ้าที่ไหนรับที่นั่นก็มักจะมีเจ้านายประเภทหัวงู ความทุกข์ยากหลายเดือนที่ผ่านมาสอนไม่ให้ท้อ จนกระทั่งวันหนึ่งพิมพ์ลภัสได้พบกับนาราโดยบังเอิญ นารามากับ สิหนาท (เอกรัตน์ สารสุข) ซึ่งเป็นคู่หมั้น และเป็นหุ้นส่วนของรเมศ แต่พิมพ์ลภัสก็ยังเข้าใจผิดเหมือนเดิม นาราพยายามจะให้ความช่วยเหลือแต่พิมพ์ลภัสปฏิเสธ นาราจึงให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้

พิมพ์ลภัสไม่สามารถหางานได้ จึงตัดสินใจโทรไปหานารา นาราพาพิมพ์ลภัสไปบ้านของรจนา ซึ่งกำลังหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้ลูกสาวกับลูกชาย พิมพ์ลภัสซึ่งถึงแม้จะเรียนไม่จบแต่ด้านภาษาอังกฤษดีด้วยเพราะเป็นนักเรียนนอก รจนาดูจะดีใจ และเอ็นดูพิมพ์ลภัสผิดปกติ ขณะเดียวกันพิมพ์ลภัสก็รู้สึกว่าหน้าของรจนาดูคุ้นๆ

หลังจากสนิทสนมกันพอสมควร จนกระทั่งพิมพ์ลภัสเล่าเรื่องอกหักของเธอให้รจนาฟัง รจนาซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของรเมศจึงแน่ใจว่าพิมพ์ลภัสก็รักน้องชายของเธอ จึงวางแผนนัดรเมศมาพบ พิมพ์ลภัสตกใจ รเมศจึงเล่าความจริงเรื่องของนารากับสีหนาทให้ฟัง ทั้งสองจึงเข้าใจกันในที่สุด

สำหรับมาธวีก็ถูกกรรมตามสนองเพราะรเมศรู้ว่ามาธวีกลั่นแกล้งพิมพ์ลภัสไม่เลิก จึงส่งทั้งรูป และคำขออภัยเมื่อครั้งถูกจับได้ว่าหลอกพิมพ์ลภัสไปให้เสี่ยสมานปล้ำเอาลงหนังสือพิมพ์ เมื่อความจริงเปิดเผยจึงไม่มีใครในวงการคบหาสมาคมด้วย


-.-.-.-.-.-.-.-.-.- อวสาน -.-.-.-.-.-.-.-.-.-



ที่มา : ช่อง 7



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์