นุ่นนักแสดง ไม่ใช่สตาร์

ฝ่าร้อนฝ่าหนาวกรำศึกงานบันเทิงมาจะเข้าปีที่ 10 แล้ว



สำหรับนางเอกสาว "นุ่น"วรนุช วงษ์สวรรค์ แต่เจ้าตัวกลับรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก จากที่เคยเข้าวงการมาใหม่ๆ ได้แต่ยกมือไหว้นักแสดงรุ่นพี่ๆ แต่มาตอนนี้มีแต่พวกนักแสดงรุ่นน้องๆ ยกมือไหว้

"ตรงนี้ถือเป็นปกติ เป็นวัฏจักรมีมามีไป มีเด็กใหม่ขึ้นมา นุ่นไม่รู้สึกใจหาย นุ่นว่าคนเรามันหลีกเลี่ยงการเจริญเติบโตไม่ได้อยู่แล้ว" ดาราสาวเริ่มเกริ่น

ชีวิตช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

นุ่น - "เหนื่อยค่ะ ทำงานทุกวันเลย และละครแต่ละเรื่องตอนนี้บทจะหนักหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น เพลงดินกลิ่นดาว, สตรีที่โลกลืม ยังโชคดีที่ "กาษานาคา" ปิดกล้องไปแล้ว ทุกเรื่องเป็นดราม่าหมด นุ่นมองว่างานต้องมาเป็นอันดับหนึ่งและสิ่งอื่นๆ ค่อยตามมา เพราะถ้าไม่มีงานเราจะเครียด ไม่มีงานเราก็ไม่มีเงิน แต่งานเราต่อเนื่องและครอบครัวเราก็อบอุ่น ถือว่าชีวิตลงตัวหมดเลย"




10 ปีมาแล้ว "วรนุช ณ วันนั้น" กับ "วรนุช ณ วันนี้" เป็นอย่างไรบ้าง?

นุ่น - "วันนั้นเราเป็นเด็กคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวงการบันเทิงเลย มาเล่นละครโดยที่ผู้ใหญ่ให้ทำ แต่วันนี้นุ่นคิดว่างานแสดงเป็นอาชีพหลัก รู้สึกรักงานตรงนี้และเข้าใจมัน 10 ปีที่ผ่านมานุ่นมีงานตลอด ไม่รู้สึกว่าแย่ และบทที่เราได้รับส่วนใหญ่เป็นบทที่มีความหลากหลายไม่ค่อยซ้ำเดิม กราฟชีวิตของนุ่นจะไปเรื่อยๆ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ก็ต้องอาศัยประสบการณ์ค่ะ"

เคยท้อบ้างมั้ย?

นุ่น - "มันเหนื่อยมากกว่า แต่ไม่ถึงกับท้อ"

10 ปีในวงการ มีสิ่งไหนที่ประทับใจหรือเสียความรู้สึกบ้างมั้ย?

นุ่น - "ประทับใจคงเป็นเรื่องงานในวงการ เมื่อก่อนจะได้ยินว่าวงการบันเทิงแย่ แต่เราเข้ามา ถามว่ามีสิ่งที่แย่หรือเปล่ามันก็มี ซึ่งนุ่นคิดว่ามันมีทุกวงการแหละ แต่เราต้องเลือกที่จะหยิบหรือเลือกที่จะอยู่ใกล้หรือออกห่างตรงนี้ เราทำได้ ซึ่งนุ่นจะเจอสิ่งที่ดี เจอเพื่อนๆ นักแสดงหลายคนน่ารัก"

เริ่มรักอาชีพนักแสดงตอนไหน?

นุ่น - "สักพักค่ะ วัดจากที่เราแสดงละครแล้วเราเข้าใจในการเล่นละครมากขึ้น รู้สึกว่ามันเป็นงานมันเป็นศิลปะที่ค่อนข้างชัดเจนและเราอินไปกับคาแร็กเตอร์ตัวละครที่ได้รับ น่าจะประมาณตอนที่เล่นละคร "อีสา-รวีช่วงโชติ" เพราะบทเรื่องนี้มีความเป็นดราม่ามันช่วยสอนการแสดงเราเยอะมาก"




มีนักแสดงต้นแบบหรือเปล่า?

นุ่น - "มีอาดาว (ดวงดาว จารุจินดา) ช่วยสอนการแสดงตอนที่เปิดกล้องละครเรื่องแรก "ปอบผีฟ้า" ทางคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) ให้ไปเรียนการแสดงกับอาดาวที่บ้าน 2-3 ครั้ง อาดาวเหมือนเป็นอาจารย์ของนุ่นคนหนึ่ง ซึ่งตอนเรียนเหมือนเรียนลัด คืออาดาวเล่นให้ดูแล้วเราเล่นตาม แล้วมีตรงไหนที่ไม่สมบูรณ์อาดาวจะอธิบายค่ะ"

ตัวนุ่นถือว่าเป็นนางเอกช่อง 7 คนแรกที่กล้าฉีกมาเล่นร้ายในละคร "รากนครา" ตอนนั้นเพราะอะไรถึงกล้าเล่น?

นุ่น - "เพราะคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) ให้เล่นค่ะ (หัวเราะ) และนุ่นคิดว่าเราคิดไม่ผิดด้วย นุ่นมองว่าใครคิดว่านางเอกต้องเรียบร้อยคนนั้นอาจจะหัวโบราณ เดี๋ยวนี้ความก้าวหน้าทางวงการบันเทิงมีมาก นุ่นว่าเป็นผลดีนะที่ทำให้เราได้ทำงานที่เราไม่เคยทำ ได้ทำอะไรที่เราคิดว่าอาจจะทำไม่ได้แต่เราทำได้และมันท้าทายเรา เหมือนเป็นการเสริมสร้างอาชีพและความสามารถของเราด้วยค่ะ"

อย่างนุ่นนี่ เรียกว่าเป็น "นักแสดง" หรือว่า "ดารา"?

นุ่น - "นุ่นมองว่านักแสดงกับดารามีความต่างกัน ดาราคือสตาร์ คือคนที่เก่งและเจ๋ง ส่วนนักแสดงคืออาชีพหนึ่งซึ่งหลายๆ คนก็เป็นได้หมด ถ้าให้นุ่นเลือกนุ่นขอใช้คำว่านักแสดง เพราะอาชีพของนุ่นคือนักแสดง ไม่ใช่ดาราไม่ใช่สตาร์ อย่างพี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) หรือทาทา ยัง นุ่นมองว่าสองคนนี้คือสตาร์ นุ่นยังไม่คิดว่าเราเป็นแบบนั้น"




คิดอย่างไรที่มีคนจับนุ่น, กบ (สุวนันท์ คงยิ่ง) และอั้ม (พัชราภา ไชยเชื้อ) มาเปรียบเทียบว่าแข่งขันกัน?

นุ่น - "นุ่นว่าไม่เห็นมีความจำเป็นต้องแข่งอะไร เราทั้ง 3 คนเป็นเด็กช่อง 7 เหมือนกัน ต่างคนก็ต่างคาแร็กเตอร์ งานแสดงและเสน่ห์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่างพี่กบ นุ่นไม่สนิทเพราะไม่ค่อยได้เจอกัน นุ่นจะสนิทกับอั้มมากกว่าเพราะเราเข้าวงการบันเทิงพร้อมๆ กันและผู้จัดการเดิมก็คนเดียวกัน ทุกวันนี้ยังโทร.ถามสารทุกข์สุกดิบกัน ข่าวที่ออกมาว่าเราทั้ง 3 คนเขม่นกัน ยืนยันได้เลยว่าไม่มี แต่ละคนก็มีแฟนคลับของตัวเอง และแฟนคลับแต่ละคนก็น่ารักหมด นุ่นทำงานในส่วนของนุ่น ไม่ได้มองว่าต้องไปแข่งกับใคร ณ วันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องกับพี่กบก็ยังเหมือนเดิม และความเป็นเพื่อนกับอั้มก็ยังเหมือนเดิม"

ช่วงหลังๆ มาภาพนุ่นจะเปลี่ยนไปคือเซ็กซี่ขึ้น?

นุ่น - "นุ่นว่ามันเป็นไปตามสมัย ตามเทรนด์เสื้อผ้า อย่างเมื่อก่อนที่เขาฮิตเสื้อสายเดี่ยว เกาะอก กางเกงยีนส์ นุ่นก็ใส่นะ นุ่นมองว่าเรารู้จักแต่งตัวให้เป็นมากขึ้นมากกว่า อย่างเสื้อสายเดี่ยวไปงานราตรีก็มีมานานแล้วนะ นุ่นใส่มานานแล้วตั้งแต่ปีแรกที่นุ่นทำงาน ปกติก็แต่งอยู่แล้ว ไปงานเราก็ต้องให้เกียรติงาน แต่งให้ดูสวยงาม และเราโตขึ้น รู้จักวิธีการแต่งตัวทำอย่างไรเสริมให้เราดูดีโดยที่ไม่ต้องทำศัลยกรรมค่ะ"

10 ปีในวงการ ดูนุ่นไม่หยุดทำงานเลย เหมือนเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้ครอบครัว?

นุ่น - "ตั้งแต่ทำงานนุ่นไม่เคยขอเงินพ่อแม่เลย ส่วนไหนที่คิดว่าควรจะรับผิดชอบเราก็รับผิดชอบ เป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ เราก็ตอบแทนท่าน ไม่ถึงกับเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหรอกค่ะ เพราะพ่อแม่ก็มีงานของเขา เราอาจจะช่วยในเรื่องค่าเทอมน้องๆ ทำหน้าที่แทนพ่อแม่ซึ่งก็รู้สึกดีนะ สิ่งเดียวที่เราให้น้องได้คือการศึกษาค่ะ รวมถึงให้เงินพ่อแม่เป็นรายเดือนเพื่อให้ท่านเก็บ"




มองไว้หรือเปล่าว่าจะเกษียณอายุการเป็นนักแสดงเมื่อไหร่?

นุ่น - "ไม่รู้ ตอบไม่ได้จริงๆ นุ่นตอบได้แค่วันนี้ วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่สามารถตอบได้ นุ่นคิดว่าเราต้องมองหาอาชีพที่มั่นคง แต่ยังหาไม่เจอว่าคืออะไร อย่างธุรกิจโรงเรียนสอนรำนาฏก มันไม่ใช่ธุรกิจที่ร่ำรวย มันเป็นธุรกิจที่ทำขึ้นเพื่อสานฝันของเรา มันไม่ขาดทุน ไปเรื่อยๆ ต้องหาอะไรต่อยอดไปเรื่อยค่ะ"

ถ้ายังหาธุรกิจที่มั่นคงไม่เจอ ลองปรึกษานายสัวบุญรอดฯ ดูสิ

"นุ่น"ฝัน"วิวาห์"ริมทะเล

นับวันความรักจะลงตัว หลังจากที่เลิกรากับ "เขตต์ ฐานทัพ" อดีตแฟน แล้วหันมาคบหาศึกษานิสัยใจคอกับหนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงแห่งตระกูลสิงห์ "ต๊อด"ปิติ ภิรมย์ภักดี

แต่เพราะคบหากับหนุ่มไฮโซ นางเอกสาว "นุ่น"วรนุช วงษ์สวรรค์ เลยถูกมองว่าทำตัวไฮโซไปด้วย

เจ้าตัวปฏิเสธอย่างสุภาพ

"ไม่หรอกค่ะ นุ่นว่าคนเราหาเงินได้เอง มีเงินเป็นของตัวเอง คิดเองใช้เอง มีคุณภาพชีวิตที่เราสามารถเลือกได้ เราก็เลือกในสิ่งที่อยากทำ แต่มันก็เป็นไปตามเศรษฐกิจที่พอเพียงสำหรับตัวเรา ไม่เกี่ยวว่าเรามีเพื่อนสนิทเป็นต๊อด ตัวเราก็คือตัวเรา มันมีทางเลือกอื่นที่เราจะทำได้ดีมากกว่าที่จะใช้เงินเยอะๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนอื่น เราต้องรู้จักประมาณตน"

แม้ว่ายังไม่ฟันธงเป็น "แฟน" แต่ฝ่ายชายก็เริ่มเผยแล้ว

ว่ากำลังคบหากับนุ่น ดาราสาวแจง "จริงๆ ก็ยังเหมือนเดิม คือเราเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้กัน แต่ว่ามันเป็นเรื่องของอนาคตซึ่งนุ่นก็ตอบไม่ได้ ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ มันอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ เราอย่าปิดกั้นตัวเองด้วยคำว่า "ฉันเป็นเจ้าของเธอ" หรือ "เธอเป็นเจ้าของฉัน" มันไม่เป็นผลดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย"




ดูเหมือนต๊อดจะให้เกียรตินุ่นนะ พาไปเปิดตัวแนะนำให้พ่อแม่รู้จัก

นุ่นหยุดคิดก่อนตอบ "..นุ่นมองว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้ามีคนที่ทำความรู้จักและคุยด้วยก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะรู้จักคนรอบข้างคนใกล้ตัวเขา หรือเขาจะมารู้จักคนรอบข้างใกล้ๆ ตัวเรา เราไม่ได้มองว่าเป็นการเปิดตัว ณ วันนี้ยังคงความเป็นเพื่อน เราปล่อยไปเรื่อยๆ ตามสเต็ปดีกว่า นุ่นยังให้คำตอบไม่ได้เหมือนกัน"

เพราะไม่ชี้ชัดเป็นแฟนกันทั้งที่สนิทกันถึงขนาดนี้

ทำให้หลายคนมองว่าปากแข็ง ดาราสาวไม่วายตั้งกำแพง "ไม่ค่ะ นุ่นเป็นผู้หญิงแล้วเรามีคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องคอยรักษาความรู้สึกของท่าน เราไม่รู้ว่าต่อไปจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า นุ่นว่าแบบนี้ดีแล้ว ดีต่อครอบครัวนุ่นด้วย นุ่นเป็นนักแสดงก็เข้าใจนะว่าคนก็อยากรู้ความเคลื่อนไหวของเรา นุ่นบอกได้เท่าที่บอกได้ เราไม่ปิดกั้นเพราะอายุเราก็ไม่ได้เยอะมาก ต่างคนต่างมีโอกาสได้ไปเจอคนอื่น แต่ถาม ณ วันนี้เราก็แฮปปี้ที่เป็นแบบนี้ ยังไม่ได้ต้องการไขว่คว้าอะไรค่ะ"

ผู้หญิงหลายคนวาดฝันถึงงานแต่งงาน

นุ่นยอมรับ ตัวเองก็เคยฝัน "นุ่นเคยฝันอยากแต่งงานริมทะเล ดูโรแมนติกดี มันมีความเป็นไพรเวต ต้องการแค่เพื่อนสนิทไปไม่กี่คน นุ่นเคยไปงานแต่งงานคนอื่น อย่างงานแต่งงานพี่สาวนุ่น นุ่นก็รู้จักคนไม่หมด เราต้องไปยิ้มต้อนรับทุกคนมันเหนื่อย งานแต่งงานมันควรเป็นงานที่เราสนุกและมีความสุข แต่มันก็คงจะยากเพราะเราเป็นคนมีสังคมค่ะ"

ฝันถึงงานวิวาห์แล้ว เคยวาดฝันเจ้าบ่าวในงานด้วยหรือเปล่า

ว่าต้องเป็นแบบไหน นุ่นหัวเราะเมื่อรู้ว่าตัวเองเกือบหลงกล "ไม่มีเลยค่ะ ถ้าพูดถึงในเรื่องจิตใจ ทุกคนก็คงอยากได้คนดี มีความรับผิดชอบ เป็นผู้นำหัวหน้าครอบครัว"

สุดท้ายถามว่า ณ วันนี้มองความรักเป็นอย่างไร

นุ่นตอบว่า "มันเป็นเรื่องของคนสองคน เมื่อถึงเวลามันจะมีคำตอบให้ตัวเราเองว่ามันคืออะไรและเราพร้อมที่จะเต็มที่กับความรักแค่ไหน เต็มที่ถึงขนาดแต่งงาน หรือขนาดที่เรายังรักงานเลือกงาน แต่ทุกวันนี้นุ่นยังแฮปปี้แบบหลังอยู่ มันไม่ใช่แค่คนเรารักกันและจะอยู่ด้วยกันตลอดไป มันมีหลายองค์ประกอบประกอบกันค่ะ"




ถ้าองค์ประกอบลงตัวเมื่อไหร่ เมื่อนั้นรักของนุ่นคงสมบูรณ์แบบ



ชิ้นโบแดง

"ปอบผีฟ้า" - เป็นละครเรื่องแรก เล่นคู่กับพี่น็อต(นุติ เขมะโยธิน) จากเด็กธรรมดาที่ไม่มีคนรู้จัก กลายเป็นนักแสดงที่คนรู้จัก

"โนห์รา" - เป็นละครเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย เป็นศิลปะพื้นบ้านภาคใต้ เรื่องนี้เล่นคู่กับพี่เขตต์ ฐานทัพ ได้เรตติ้งอันดับ 1 เป็นเวลา 7 อาทิตย์ เป็นละครที่ได้เรตติ้งสูงสุดเท่าที่เคยเล่นมา

"แม่อายสะอื้น" - เป็นละครที่มีเนื้อหาดี ตอนอ่านเรื่องย่อขนลุกเลย มันเศร้าสะเทือนใจ ขอบคุณที่อาตู่(นพพล โกมารชุน) ทำละครเรื่องนี้แล้วให้นุ่นเล่น เรื่องนี้ได้รางวัลถึง 5 รางวัล

"กาษา นาคา" - เป็นละครที่ทำงานเหนื่อยและยากมาก ชอบตรงบทมันแปลก สอนในเรื่องหลักศาสนา เรื่องนี้เล่นเป็นลูกของอาตู่(นพพล โกมารชุน) ทุกทีอาตู่จะกำกับฯแต่เรื่องนี้เล่นด้วยกันค่ะ




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์