ดาวร้ายส่องแสงมะปรางกรี๊ดเป็นตบ

อะไรก็กรี๊ด..อะไรก็ตบ!!

ทำเอาหลายคนชักอยากรู้จัก "ณัฐฐา" มือตบจากละคร "มณีดิน" ว่าเป็นใครมาจากไหนถึงได้แรงดีนัก

วันนี้มีโอกาสดี มาทำความรู้จักกับเธอคนนี้กัน

"ณัฐฐา" คือชื่อในละคร แต่ชื่อจริงของเธอคือ วิรากรานต์ เสณีตันติกุล หรือที่ใครๆ เรียกว่า "มะปราง"

พื้นเพเป็นคนที่ไหน?

มะปราง - "กรุงเทพฯ ค่ะ แต่ช่วงป.3-ป.6 ไปอยู่ภูเก็ตเพราะคุณพ่อไปทำงานที่นั่น หนูจะได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวม้ากมาก...อุ่นจนร้อนเลย หนูเป็นลูกคนสุดท้อง พ่อจะออกแนวหวงห่วง เวลาไปไหนพ่อจะชอบถาม วันนี้ไปไหนมา ใครโทรมา จะจู้จี้จุกจิก

ส่วนแม่นี่ยุบยิบไปหมด หนูเหมือนเป็นไข่ในหินของบ้านเลย เด็กๆ หนูค่อนข้างซน ชอบแกล้งคนอื่น โดยเฉพาะพี่ชาย เพราะหนูเป็นหลานสาวคนแรกและคนเดียว คุณยายจะตามใจ แวดล้อมหนูเป็นเด็กผู้ชายเยอะก็เลยติดนิสัยเด็กผู้ชาย คุณแม่บอกว่าหนูเคยเกือบจะเป็นทอม ตอนนั้นชอบเล่นมวยปล้ำ แม่เริ่มกลัวเลยจับนุ่งกระโปรง"

เข้าวงการได้ยังไง?

มะปราง - "เริ่มจากประกวดสาวแฮ็คส์ปี 2004(อายุ 14 ปี) รุ่นเดียวกับพี่จิ๊บ(ปกฉัตร เทียมชัย) ตอนนั้นเพื่อนแม่บอกว่าให้ลองส่งรูปหนูมาที่บ.แฮ็คส์ แม่เห็นว่าเป็นช่วงปิดเทอมก็เลยลองส่งไป

ปรากฏได้ตำแหน่งชนะเลิศสาวแฮ็คส์รสน้ำผึ้งเลม่อน คือเป็นสาวเปรี้ยวอมหวาน กับการเป็นดาราหนูจะเฉยๆ แต่อยากเป็นนักร้อง หลังได้รางวัลแฮ็คส์

ทางช่อง 3 ก็โทรมาบอกให้เข้าไปดูตัว ตอนนั้นอายุ 15 แล้ว และในที่สุดก็ได้เข้ามาอยู่กลุ่มพาวเวอร์ทรีรุ่นแรก แต่คนจะเข้าใจว่าเป็นรุ่น 2"

น้อยใจมั้ยที่ดูเหมือนไม่ค่อยถูกผลักดัน?

มะปราง - "ไม่น้อยใจเลย ดีใจด้วยซ้ำ เพราะรุ่นแรกดูแก่ไป ถือเป็นความโชคดีของหนู พอรุ่นแรกมีงานหนูก็ได้ไป รุ่น 2 มีงานหนูก็ได้ไป ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองถูกผลักดันน้อย

แต่อาจเป็นเพราะช่วงนั้นถ่ายละคร "แช่มช้อย" ซึ่งใช้เวลานานมาก ยอมรับว่ายังเด็กและดำมาก ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง หลัง "แช่มช้อย" ก็มี "เจ้าสาวบ้านไร่"

ละครเรื่องแรกที่ได้ออนแอร์ แล้วก็มา "น่ารัก", "แรมพิศวาส" และ "มณีดิน" เริ่มแรกเรื่อง "แช่มช้อย" หนูเล่นเป็นตัวเอก เริ่มจะมาเล่นร้ายนิดๆ แบบเด็กๆ เรื่อง "เจ้าสาวบ้านไร่" มาเรื่อง "แรมพิศวาส" ก็ร้ายไม่ชัดเจน

กระทั่ง "มณีดิน" ที่พี่นก(จริยา แอนโฟเน่) เห็นจากเรื่อง "เจ้าสาวบ้านไร่" ก็คิดว่าหนูน่าจะร้ายได้เต็มตัว"

กดดันมั้ยที่พี่นกมั่นใจว่าเราน่าจะเล่นร้ายได้ ?

มะปราง - "กดดันค่ะ เข้าไปวันแรกรู้ว่าต้องเป็นตัวร้าย แต่ไม่รู้ว่าต้องร้ายขนาดนี้ พี่ต่อ(ศุภฌา ครุฑนาค) ผู้กำกับฯ นี่จะบอกว่ามะปรางต้องมากกว่านี้ มากกว่านี้ มากกว่านี้อีก จนหนูถามว่ามากกว่านี้ยังไงคะ เพราะหนูแหกปากจนไม่มีเสียงแล้ว(หัวเราะ) หลังจากนั้นก็เริ่มจับทางถูก"


กรี๊ดมากๆ แบบนี้มีวิธีรักษาเสียงตัวเองมั้ย?

มะปราง - "อยู่ในกองไม่ดื่มน้ำเย็นเลย ดื่มแต่น้ำอุ่นตลอด จริงๆ แล้วถ้าเราเล่นมาจากข้างในมันจะไม่เหนื่อย แต่ตอนแรกจับทางไม่ได้ กรี๊ดๆ ไปเสียงหาย มาตอนหลังรู้แนวก็เริ่มไม่ค่อยเหนื่อยแล้ว"

ตอนนี้เลยแจ้งเกิดกับบทร้ายใน "มณีดิน"?

มะปราง - "กระแสที่ได้รับดีมาก ไปไหนมีแต่คนทัก อย่างตอนที่ขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสก็มีคนชี้หน้าแล้วพูดว่านี่ไงณัฐฐานางร้ายจาก "มณีดิน" หนูก็ยืนจับราวรถไฟนิ่งเลย แต่ในใจปลื้มมากเพราะไม่เคยเจอคนมาทักแบบนี้ ที่ผ่านมาคนคุ้นหน้าแต่จำชื่อไม่ได้

แต่ครั้งนี้ทั้งจำหน้าและจำชื่อตัวละครได้ แล้วมีแบบที่เข้ามาถามเลยนะว่าทำไมถึงร้ายกับนางเอกแบบนี้ ซึ่งฟีดแบ็กส่วนหนึ่งวัดได้จากเพื่อนเลย พอเค้าดูเสร็จก็จะมาบอก ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะติหรือชมมาจากเพื่อนทั้งนั้น แต่เป็นข้อดีที่ทำให้รู้ข้อเสียของตัวเองที่คนอื่นไม่กล้าพูดกัน"


ดูว่าจะมีพัฒนาการของความร้ายมากขึ้น?

มะปราง - "จนถึงวันนี้ก็มากขึ้นเยอะเลย จาก "เจ้าสาวบ้านไร่" เป็นเด็กเอาแต่ใจธรรมดา แต่เรื่อง "มณีดิน" ร้ายกรี๊ดกร๊าดคอแตกเลย แล้วเดี๋ยวเรื่องหน้าคือ "พริกไทยกับใบข้าว" จะร้ายกว่านี้อีก ร้ายแบบผู้ใหญ่ ออกแนวโรคจิตเลย เป็นคนเก็บกด"

เอาดีทางนี้เลยมั้ย?

มะปราง - "น่าจะมาทางนี้แล้ว เพราะผู้ใหญ่คงเห็นว่าพอไปได้ แต่ถ้ามีบทไหนที่เราเล่นได้แล้วคนดูชอบเราก็ยินดีหมด"


เสน่ห์นางร้ายที่ชื่อมะปรางอยู่ตรงไหน?

มะปราง - "ดวงตามั้งคะ ตาจะดุนิดนึง อย่างบางฉากที่ไม่ต้องดุแต่ตาเราไปแล้ว"


เรียนด้วยทำงานด้วย จัดการกับตัวเองยังไง?

มะปราง - "ก็แบ่งเวลาให้ดี จะบอกตารางเรียนไปกับกองละครแล้วเค้าจะดูเวลาให้ไม่กระทบเรียน หนูเองก็พยายามตั้งใจเรียน ซึ่งตอนนี้รอผลเอ็นทรานซ์อยู่ อยากเรียนบริหารหรือไม่ก็รัฐศาสตร์"

คิดยังไงที่เดี๋ยวนี้วัยรุ่นอยากเข้าวงการเพราะอยากดังอยากมีตังค์?

มะปราง - "มันเป็นความคิดที่คนภายนอกมองเข้ามาในวงการว่าทำงานตรงนี้ตังค์เยอะ แต่กว่าจะได้ตังค์มันต้องยอมเสียอย่างนึงเพื่ออีกอย่างนึง ที่สำคัญคือเราต้องมีใจรักการแสดง

อย่างหนูตอนแรกเฉยๆ แต่พอเข้ามาแล้วรู้สึกชอบและรักการแสดงไปเลย มันต้องมีความชอบด้วย ถ้าเข้ามาเพื่อกอบโกยมันฉาบฉวยไปก็ทำให้อยู่ไม่นาน หนูเลยขออยู่เรียบๆ แต่อยู่นานๆ ดีกว่า"


วงการให้อะไรบ้าง?

มะปราง - "วงการให้ประสบการณ์ทำให้โตขึ้น มีความรับผิดชอบ มีสัมมาคารวะ ถ้าไม่อยู่วงการป่านนี้หนูคงยังเล่นเป็นเด็กๆ กับเพื่อนอยู่ ซึ่งเป้าหมายในวงการหนูอยู่ช่อง 3 ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ(หัวเราะ) ถ้ามีโอกาสและไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

อยากอยู่ในวงการไปนานๆ มันสนุกและเข้ากับตัวหนูดี ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวร้าย แค่เป็นบทที่ดีและผู้ใหญ่เห็นว่าเราเหมาะสมกับบทนี้ มีความสามารถพอก็อยากทำงานแสดงไปเรื่อยๆ"

คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือยัง?

มะปราง - "ระดับหนึ่งค่ะ เหมือนเราเพิ่งเกิดมากกว่า คือมีคนรู้จัก จำเราได้ แต่กว่าจะประสบความสำเร็จจริงๆ ต้องอาศัยเวลาที่ยาวนานกว่านี้"

นี่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของการเริ่มต้น หนทางการแสดงของดาวร้ายดวงใหม่ที่ชื่อ "มะปราง" ยังมีให้เดินอีกยาวไกล

ประวัติ

ชื่อเล่น : มะปราง

ชื่อนามสกุล : วิรากรานต์ เสณีตันติกุล

วัน/เดือน/ปีเกิด : 26 ก.ค. 2532

บิดา/มารดา : ชัยพล เสณีตันติกุล-รัชฎา ยศวัฒนา

พี่น้อง : มีพี่ชาย 1 คน "ปัน"ธนวัต เสณีตันติกุล

การศึกษา : อนุบาล-ป.2 ร.ร.สมิทธิโชติ/ ป.3-ป.6 ร.ร.เทศบาลเมืองภูเก็ต/ ม.1-ม.3 ร.ร.เศรษฐบุตรบำเพ็ญ/ ม.4-ม.6 ร.ร.หอวัง