ละคร วิมานเมขลา

เรื่องย่อ


สาวไฮโซ หัวสูงเป็นดาราชื่อดังอย่าง เมขลาหรือ เม เธอเป็นสาวมั่นในสังคมชั้นสูงที่มีความมั่นใจในตัวเองมากจนสุดโต่ง และเป็นสาวสังคมที่มีปาร์ตี้ได้แทบจะทุกวัน ซึ่งชีวิตของเธอสุขสบายเปรมอุราและโชคก็หล่นทับมาอีกเมื่อได้มีมรดกตกทอดที่เขียนไว้ในพินัยกรรมว่าทางตระกูลได้ยกป่าสายน้ำผึ้งให้กับเมขลา จึงทำให้หญิงสาวดีใจเป็นอย่างมาก ซึ่งผืนป่าสายน้ำผึ้งนั้นกว้างขวางและอุดมสมบูรณ์เป็นที่ต้องการของนายทุนผู้มีเงินหนามากนัก เมขลาจึงคิดที่จะขายผืนป่านี้ซะ และอีกเหตุผลนึงก็คือเธอไม่อยากจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่สังคมชนบทอันแสนจะบ้านนอกคอกนา ซึ่งมันคงจะน่าเบื่อน่าดูหากเมขลาต้องไปใช้ชีวิตแบบเรื่อยๆ ก็แหงล่ะ เพราะเธอเป็นสาวสังคมยังไงล่ะ ชีวิตมันต้องมีสีสันตลอดเวลาสิ เมื่อความตั้งใจของเมขลาคือการขายทิ้งป่าสายน้ำผึ้ง หญิงสาวจึงมุ่งหน้าไปยังผืนป่าที่อยู่ในพื้นที่ชนบทด้วยทางรถไฟที่เธออยากลองนั่งสักครั้งในชีวิต และในระหว่างการเดินทางนั่นเอง ทำให้เมขลาได้พบกับครูปริม หญิงสาวสวยรูปงาม ที่มีจิตใจดีเช่นเดียวกันกับหน้าตา ซึ่งปริมตั้งใจที่จะไปรับหน้าที่เป็นครูอาสาที่ป่าสายน้ำผึ้งเช่นกัน นั่นหมายความว่าทั้งสองคนกำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่เดียวกัน แต่ในระหว่างนั้นเองเมขลาได้อยากลองนึกเล่นอะไรสนุกๆขึ้นมา ด้วยการสับเปลี่ยนให้ครูปริมใส่ชุดของเมขลา ส่วนเมขลาก็ใส่ชุดของครูปริม ซึ่งครูปริมก็แอบ งง กับความคิดแผลงๆของเมขลาเล็กน้อย แต่หญิงสาวก็ยอมทำตามแต่โดยดี และในทันใดที่มาถึงจุดหมายปลายทาง ก็พบว่าทั้งคู่รู้จักผู้จัดการที่จะมารับพวกเธอนั่นเอง ดังนั้นแล้วจึงมีผู้จัดการคนเดียวที่รู้ว่าครูปริมและเมขลาแอบเปลี่ยนชุดกันและกัน และผู้จัดการยังโกรธเคืองเมขลาที่คิดจะขายผืนป่าสายน้ำผึ้งให้กับพวกนายทุน และในระหว่างนั้นเองที่กำลังจะเดินทางเข้าสู่ป่าสายน้ำผึ้ง แต่แล้วจู่ๆในระหว่างที่กำลังข้ามสะพานที่มีความสูงอันน่าหวาดเสียว ความโชคร้ายได้มาเยือนเมื่อสายสะพานขาด ! จึงทำให้รถของผู้จัดการตกลงไปยังเบื้องล่างของหุบเขา และในอุบัติเหตุครั้งนี้สร้างความน่าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันได้ทำลายชีวิตของครูปริม ผู้มีอุดมการณ์อันหนักแน่น

เมื่อเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ขึ้น ประกอบกับเมขลาที่สวมรอยเป็นครูปริม ส่วนครูปริมตัวจริงที่สวมรอยเป็นเมขลานั้นได้ความจำเสื่อมจำเรื่องราวอะไรไม่ได้สักอย่าง ประกอบกับผู้จัดการได้วางแผนเพื่อไม่ให้เมขลาตัวจริงขายสมบัติผืนป่าสายน้ำผึ้งแห่งนี้ จึงไปป่าวประกาศให้ทุกคนได้ทราบกันว่าครูปริมที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้จะมาช่วยสอนเด็กๆเรียนหนังสือ ส่วนเมขลาความจำเสื่อม จึงทำให้เมขลาที่สวมรอยเป็นครูปริมจำใจยอมรับกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เพราะถึงพูดไปอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อว่าเธอคือเมขลาตัวจริง อีกทั้งผู้จัดการคนเดียวเท่านั้นที่รู้ความจริงนี้ จากนิสัยเดิมของเมขลาที่เป็นคนเย่อหยิ่งและไม่แคร์ใคร จึงทำให้ผู้จัดการใช้โอกาสนี้กลั่นแกล้งหญิงสาวต่างๆนาๆ เมขลาถูกใช้งานอย่างหนักและบ่อยครั้งจนถึงกับมีไข้และไม่สบายไป แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่ยังมีคนคอยดุแลและห่วงใยในตัวเธอนั่นก็คือดอกปีปที่คอยดูแลป่าสายน้ำผึ้งอีกทางนึง เมื่อได้มารับบทหนักเป็นครูอาสาแบบช่วยได้ไม่ได้ แต่เธอก็ได้ตั้งใจทำหน้าที่การเป็นครูให้กับเด็กๆได้อย่างสุดความสามารถ กลายเป็นคุณครูของเด็กๆ ซึ่งมีทั้งเด็กที่ยอมรับในตัวเธอและอีกส่วนหนึ่งยังไม่ยอมรับในตัวเมขลา แต่หญิงสาวก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นได้เห็นถึงความตั้งใจและความสามารของเธอ จนเป็นที่ยอมรับแก่ทุกคนในที่สุด ซึ่งการที่เมขลาได้ใกล้ชิดกับความเป็นธรรมชาติ ที่ถึงแม้ว่าจะอยู่ในชนบทก็ตาม แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปและสภาพแวดล้อมธรรมชาติรอบตัวที่สวยงาม ทำให้หญิงสาวได้เรียนรู้คุณค่าของชีวิตและความสำคัญของผืนป่าว่ามันมีความหมายต่อมนุษย์มากมายเพียงใด รวมถึงการใช้ชีวิตของมนุษย์ไม่ให้เบียดเบียนธรรมชาติ จากการชีวิตในผืนป่าชนบทแห่งนี้ทำให้ความคิดสาวทันสมัยแบบสุดโต่งที่นิยมวัตถุอย่างเธอ ตระหนักถึงคุณค่าของมนุษย์ที่แท้จริง จึงทำให้เธอกลายเป็นที่ยอมรับและขวัญใจของชาวบ้านรวมถึงคนงานทั้งป่า มีลูกศิษย์ที่น่ารักที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของเธอเป็นอย่างดี ดูๆแล้วเหมือนกับว่าชีวิตของเธอกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ก็ต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้เมขลาต้องเดือดเนื้อร้อนใจอีกจนได้

เรื่องราวที่ทำให้เมขลาต้องเดือดเนื้อร้อนใจนั่นก็คือความลับที่ว่าเธอปลอมตัวมาเป็นครูปริม ก็จะเป็นใครล่ะที่แพร่งพรายความลับนี้ เพราะมีเพียงเมขลา ครูปริม และผู้จัดการเท่านั้น มีกันสามคนที่รู้เรื่องนี้ ในขณะที่ครูปริมความจำเสื่อม ดังนั้นแล้วจะเป็นใครไปไม่ได้ที่ทำให้ความลับแตกคนๆนั้นก็คือ ผู้จัดการ ! อีกทั้งเป็นเพราะว่า ศนิ เพื่อนสนิทของเมขลาได้เดินทางมาที่ป่าสายน้ำผึ้งโดยไม่ได้มีการบอกกล่าวใครเลยแม้แต่น้อย และเมขลาก็ไม่คาดคิดด้วยแหล่ะว่าศนิจะมาที่นี่ได้ ซึ่ง ศนิ แต่เดิมเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเดิมของครูปริม จากนั้นศนิจึงได้ย้ายมารับหน้าที่เป็นครูอาสาที่ป่าสายน้ำผึ้ง และทันทีที่พบกับเมขลา เพื่อนรักที่คิดว่าตายจากไปแล้ว ศนิแทบตกใจเมื่อมาที่ป่าสายน้ำผึ้งและได้เจอเมขลาตัวเป็นๆ ศนิที่ไม่รู้เรื่องความลับอะไรจึงเข้าไปทักทายกอดกันและเอ่ยชื่อเมขลาออกมา เรื่องนี้จึงได้ประกาศต่อหน้าทุกคน ทำให้ชาวบ้าน คนงาน รวมถึงเด็กนักเรียนเริ่มสับสนว่าผู้หญิงอย่างเมขลาคนนี้เป็นใครกันแน่ ? แต่เมขลาก็ยังไม่ปักใจเชื่อในทันที จนกระทั่งไปพบบัตรข้าราชการของครูปริมจึงทำให้เมขลา โกรธผู้จัดการเป็นอย่างมาก เมขลาจึงเดินทางกลับกรุงเทพในทันที เมื่อมาถึงกรุงเทพแม้ว่าจะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียง และสังคมไฮโซตามแบบที่เป็นตัวตนของเมขลา แต่ว่าหลังกลับมาจากป่าสายน้ำผึ้งแล้ว มันทำให้ชีวิตของเมขลาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเธอเลิกทำตัวฟุ้งเฟ้อ ไม่สุรุ่ยสุร่ายเหมือนแต่ก่อน การเข้าสังคมก็ไม่ออกไปเที่ยวกลางคืน แถมยังหันมาอยู่กับธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเมขลาที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือนั้น สร้างความแปลกใจให้กับคนในบ้านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคุณน้า และคนใช้ รวมถึงว่าที่คู่หมั้นหนุ่มสุดหล่อของเมขลานามว่า แจ๊คกี้ ที่ชอบเกาะติดและคอยแต่จะผลาญเงินของเมขลาไปวันๆ จึงทำให้เมขลาคิดได้และรู้ว่าแจ๊คกี้เป็นผู้ชายแมงดาที่จ้องแต่จะเกาะผู้หญิงกิน อีกทั้งเขาไม่ได้รักที่ตัวตนของเมขลาเลยสักนิด แต่รักที่เงินทองของเมขลาซะมากกว่า เพราะเมขลามีทรัพย์สมบัติมหาศาลที่ตายไปทั้งชาติก็ยังผลาญไม่หมด จึงทำให้เมขลาเริ่มหมดเยื่อใยที่มีให้กันต่อแจ๊คกี้อย่างเด็ดขาด

ทางด้านป่าสายน้ำผึ้ง หลังจากที่เมขลาโกรธตะบึนตะบันต่อผู้จัดการจนหนีกลับกรุงเทพแล้ว ความผิดพลาดในครั้งนี้จึงทำให้ผู้จัดการเสียใจอย่างมากที่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความผิดของตนเอง จึงได้แต่กินเหล้าทั้งวันไม่เป็นอันทำการทำงานอะไร และได้จมอยู่กับความเสียใจปลีกวิเวกตนเองไปนอนที่เพิงเก่าๆในป่าสายน้ำผึ้ง ที่ในยามค่ำคืนเต็มไปแมลงร้าย และยุงที่จ้องแต่จะดูดเลือดคน และผู้จัดการได้ล้มป่วยในที่สุด จนกระทั่งเมขลาได้เดินทางกลับมายังป่าสายน้ำผึ้งอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้เธอไม่ได้มาสวมรอยเป็นครูปริมอีกต่อไปแล้ว เพราะเธอมาในแบบที่เป็นเธอ นั่นก็คือ คุณเมขลา เจ้าของป่าสายน้ำผึ้งอันกว้างขวาง เมื่อดอกปีปพบเมขลาก็ได้ต่อว่าเมขลาต่างๆมากมายที่ใจร้ายใจดำ นอกจากจะโกหกคนในหมู่บ้านแล้ว ยังทอดทิ้งพวกเขาไปอีก เมขลาจึงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก อีกทั้งเมื่อรู้ข่าวผู้จัดการล้มป่วยและอาการหนักมากจึงได้รีบรุดไปหาผู้จัดการ แต่ด้วยความโกรธที่ยังมีอยู่บวกกับความน้อยใจจึงทำให้กลายเป็นว่าเมขลาทะเลาะกับผู้จัดการอย่างรุนแรง จนทำให้ผู้จัดการอาการทรุดล้มป่วยหนักเข้าไปอีก และในที่สุดผู้จัดการได้เป็นลมล้มหมดสติไปในทันที เมขลาจึงได้รีบพาผู้จัดการไปโรงพยาบาลในทันที และได้ทราบว่าอาการป่วยของผู้จัดการนั้นสาเหตุมาจากโรคมาลาเรียและหากอาการกำเริบหนักอาจถึงขั้นที่ทำให้เสียชีวิตได้ เมขลาไม่อยากเสียผู้จัดการไป เธอจึงเริ่มลดมานะทิฐิลงและลดความโกรธลงไปได้ และหันมาเอาใจใส่ดูแลผู้จัดการจนกระทั่งอาการเริ่มหายเป็นปกติ ผู้จัดการอาการดีขึ้นมากและสามารถออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้ว และทั้งคู่จึงได้ปรับความเข้าใจกันด้วยดี ส่วนเรื่องป่าสายน้ำผึ้งเมขลาก็ได้ตัดสินใจเป็นอย่างดีแล้ว ว่าเธอจะไม่ขายผืนป่านี้โดยเด็ดขาด เพราะเธอเห็นความสำคัญแล้วว่าผืนป่าแห่งนี้นอกจากจะมีคุณค่าต่อมนุษย์แล้วยังมีคุณค่าต่อโลกใบนี้มากเพียงไร และที่สำคัญเลยก็คือมันเป็นสถานที่ที่บ่มเพาะความรักของเธอและผู้จัดการ ที่ผ่านอุปสรรคต่างๆด้วยกันมามากมาย ถึงแม้ว่าในบางครั้งผู้จัดการจะรังแกเธอบางก็ตาม แต่ลึกๆแล้วในใจของเขายังคงรักและหวังต่อเมขลาไม่ต่างกัน แทบไม่น่าเชื่อว่าสาวสังคมไฮโซ วัตถุนิยมอย่างเมขลาจะพลิกชีวิตเป็นอีกด้านนึงได้ ซึ่งเมขลาพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่และไม่อยากที่จะตะเกียกตะกาย ใฝ่สูงอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะในบางครั้งแม้ว่าจะมีเงินทองมากมายแต่ก็ไม่ได้การันตีความสุขเสมอไป

และในเวลาต่อมาผู้จัดการและเมขลาจึงได้มีข่าวดีคือทั้งคู่ประกาศแต่งงานกัน ในสถานที่ท่ามกลางธรรมชาติ ป่าไม้ และขุนเขาอันสวยงามของป่าสายน้ำผึ้งแห่งนี้ มีแขกเหรื่อที่เป็นมิตรจากคนในหมู่บ้าน คนงาน และเด็กนักเรียนมาร้องเพลงอวยพรให้กับครูของพวกเขา มันช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจ ซึ่งผู้จัดการและเมขลาจะเก็บไว้ในความทรงจำที่ดีตราบนานเท่านาน


ละคร วิมานเมขลา


ละคร วิมานเมขลา


ละคร วิมานเมขลา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์