ละครไทย 56 แนวบู๊ครองใจ ดราม่าครองจอ

เริ่มจากช่อง 3 ละครเด่นดังที่มีแต่คนพูดถึงกันทั้งบ้านทั้งเมืองเห็นจะเป็น “ทองเนื้อเก้า” โดย บริษัท แอค-อาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด ที่ทุบสถิติละครเรตติ้งสูงสุดของช่อง 3 และถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี ที่พอหมดสัญญาจากช่อง 7 ปุ๊บ ก็ประเดิมการร่วมงานกับช่อง 3 ด้วยบท “ลำยอง” สาวสวยที่ใช้ชีวิตเหลวแหลก จนต้องจากโลกนี้ไปด้วยโรคร้าย ซึ่งก็สร้างกระแส “ลำยองฟีเวอร์” ได้ไม่น้อย ผู้คนต่างพูดถึง “ลำยอง” และลูกยอดกตัญญูอย่าง “วันเฉลิม” กันทั้งเมือง

ส่วนละครชุดที่เตรียมงานกันมานานและเป็นข่าวกันข้ามปีกว่าจะสร้างอย่าง “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” เรื่องราวของคุณชายทั้ง 5 แห่งวังจุฑาเทพนั้น ถึงแม้ใน 2 เรื่องแรกอย่าง “คุณชายธราธร” และ “คุณชายปวรรุจ” จะเปิดตัวได้ไม่แรง แต่กระแสก็ค่อย ๆ กระเตื้องขึ้นมาจนมาถึง “คุณชายพุฒิภัทร” ที่แจ้งเกิดซุป’ตาร์คนใหม่อย่าง เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข ได้อย่างสวยงาม และเรตติ้งมาพุ่งสูงสุดที่ “คุณชายรัชชานนท์” ก่อนจะกลับมาแผ่วปลายที่ “คุณชายรณพีร์” แต่ต่อให้เรตติ้งจะเป็นเช่นไร ช่อง 3 ก็ปั้นพระเอกหน้าใหม่อย่าง เจมส์ มาร์ บอม-ธนิน มนูญศิลป์ มาไว้ใช้งานได้สำเร็จ

นอกจากนี้ละครช่อง 3 ที่มีกระแสติดลมบนคนพูดถึงกันเยอะก็มี“พรพรหมอลเวง” ที่ส่งให้ เบลล่า-ราณี แคมเปญ ขึ้นแท่นเป็นนางเอกเต็มตัว คู่กับพระเอกสุดเกรียน บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ พร้อมกับแจ้งเกิดซุป’ตาร์ตัวน้อย น้องอันดา-กุลฑีรา ยอดช่าง ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่เรตติ้งติดอันดับท็อปเทน ก็เช่น ดาวเรือง แผนร้ายพ่ายรัก มณีสวาท แรงปรารถนา และ นางร้ายสายลับ

มาดูกันที่ช่อง 5 ซึ่งมีผู้ผลิตอย่าง “เอ็กแซ็กท์” ผูกขาดแต่เพียงผู้เดียวนั้น มีละครลงจอ 12 เรื่องด้วยกัน แต่เรื่องที่โดดเด่น และครองแชมป์เรตติ้งสูงสุดคือละครที่สร้างจากวรรณกรรมสุดคลาสสิกอย่าง “คู่กรรม” ที่ได้เดอะสตาร์คนดัง บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว กับคู่ขวัญในจอ หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ ถึงแม้ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ละครออกอากาศจะมีภาพยนตร์ออกฉายด้วย จึงทำให้เกิดการเปรียบเทียบ โกโบริ กันระหว่างจอเงินกับจอแก้ว แต่บี้ก็พิสูจน์ให้แฟนละครได้เห็นว่า เขาก็สามารถเป็นโกโบริได้ ไม่ต่างจากโกโบริบนแผ่นฟิล์ม อย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ เลย

 แต่ด้วยศาสตร์ของหนังและละครที่ต่างกัน มุมมองของผู้กำกับที่ต่างกัน เลยทำให้การตีความในบทประพันธ์นั้นแตกต่างกันไป นอกจากนี้ละครเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจของเอ็กแซ็กท์ ก็ยังมี “แผนรักแผนร้าย”, “บ่วงวันวาร” ที่เป็นการข้ามค่ายของ จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา หลังจากขอคืนสัญญากับ กันตนา ต้นสังกัดเดิม “มารกามเทพ” การจับมือกันสร้างละครระหว่างคุณบอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ และ คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ภายหลังที่เดินออกมาจากการคุมบังเหียนละครของช่อง 7 เรือนเสน่หา และ สุดสายป่าน ซึ่งเรื่องหลังนี้ถือเป็นการประเดิมบทร้ายของ วิว-วรรณรท สนธิไชย ที่ต้องรับบทฝาแฝด ที่ตัวหนึ่งต้องร้าย อีกตัวหนึ่งต้องน่าสงสารไปพร้อม ๆ กัน

ที่น่าสนใจก็คือ “อีสา-รวีช่วงโชติ” ละครรีเมคที่กำลังออกอากาศอยู่ตอนนี้ ถือเป็นละครดีส่งท้ายปีอีกเรื่องที่ นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี กลับมาร่วมงานกับเอ็กแซ็กท์อีกครั้งหลังเคยประกบ ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ใน “ค่าของคน” ทางช่อง 7 มาแล้ว และเป็นการประกาศให้คนทั้งวงการได้ทราบว่า นุ่นคือนักแสดงอิสระ ที่สามารถรับงานได้ทุกค่าย ทุกช่อง

มาถึงช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณนั้น ได้ผลิตละครออกสู่สายตาผู้ชมในหลายช่วงเวลา มากกว่า 30 เรื่องต่อปี แต่ที่ครองใจคนดูได้มากที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้นละครแนวแอ๊คชั่น-ดราม่า ที่ไม่ว่าจะหยิบมาชนกับเรื่องอะไร ต้องยอมรับว่าละครบู๊นั้นกินขาดจริง ๆ

ที่ต้องพูดถึงกันอีกเรื่องก็คือ “มายาสีมุก” ที่เลื่อนขั้นให้ กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล แจ้งเกิดเป็นนางเอกเต็มตัวได้สำเร็จ ประกบคู่กับ วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ พระเอกคนดัง 7 สี เรื่องนี้บินกันไปถ่ายทำไกลถึงเกาหลี เพื่อเก็บภาพสวย ๆ มาฝากแฟน ๆ ละครกันด้วย สำหรับละครบู๊ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือ “เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง” ละครบู๊แฟนตาซี จากกันตนาที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วจากภาคแรก ชื่อของ “เสือหาญ” ยังคงอยู่ในใจของผู้ชมไม่เปลี่ยนแปลง ก็เรตติ้งสูงไม่เบา ด้านละครบู๊ชื่อคล้ายกันอย่าง “เสือสมิง” ผลงานการผลิตของ โคลีเซี่ยม ก็เป็นที่กล่าวถึงไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะโดนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของซีจีไม่น้อย แต่ก็ถือว่าละครแนวนี้ยังครองตลาดได้ในวงกว้าง แม้จะไม่ค่อยถูกใจคนเมือง แต่รอบนอกกินขาด

ใช่ว่าจะมีแต่ละครบู๊เอาใจคอละครต่างจังหวัดเท่านั้น ละครน้ำดีอย่าง “ลูกไม้หลากสี” ก็มีคนพูดถึงเยอะ ถึงแม้จะมีแต่นักแสดงรุ่นใหม่ แต่ด้วยเนื้อหาละครที่สะท้อนสังคมที่ชูความสำคัญของสถาบันครอบครัว มีแง่คิดที่ดีเป็นคำสอนอยู่ตลอดเวลา ก็จัดเป็นละครที่สร้างสรรค์สังคมที่ดีเรื่องหนึ่ง ถือเป็นละครที่ครองใจคนเมืองได้ไม่น้อย

ในรอบปีที่ผ่านมาช่อง 7 ยังปรับกลยุทธ์การผลิตละครเน้นกลุ่มผู้ชมทั่วประเทศโดยมีละครฟอร์มยักษ์ที่ใช้เวลาการสร้างนานอย่าง “ฟ้าจรดทราย” งานสร้างของค่ายดาราวิดีโอ ถึงแม้ว่าจะโดนวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรต่าง ๆ อยู่บ้าง แต่เมื่อหันหน้ามาคุยกันปรับเปลี่ยนในบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อชาวมุสลิมแล้ว ก็ถือว่าเป็นละครที่จะอยู่ในใจของใครอีกหลายคน ส่วนละครน้ำดี “สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย” นั้น ถึงแม้จะต้องชนกับละครกระแสแรงอย่าง “ทองเนื้อเก้า” แล้ว ก็สามารถแข่งกันได้แบบไม่อาย เพราะเนื้อหาที่ดี ภาพสวย เลยเป็นที่พูดถึงมาก ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนดู

เรียกได้ว่าละครทุกเรื่อง ทุกช่อง นั้นก็มีเนื้อหาที่แตกต่างกันไป หลากรส หลากอารมณ์ หลากแนว เชื่อว่าผู้ผลิตทุกค่าย ทุกช่องก็คงจะพัฒนาสร้างสรรค์ผลงานที่ดีไปสู่ผู้ชมอย่างไม่หยุดยั้ง แม้ว่าใครจะมองว่าละครไทยน้ำเน่า แต่ก็แฝงแง่คิดที่ดีไว้เสมอ หากดูละครแล้วย้อนดูตัว เก็บเอาแง่คิดจากละครมาไตร่ตรองดู มันก็จะเป็นกระจกสะท้อนสังคมได้อีกทางหนึ่ง