Rocky Balboa หนังที่คุณห้ามพลาด

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง แนะนำ พรีวิว หนังดัง Rocky Balboa หนังที่คุณห้ามพลาด

บริษัทภาพยนตร์ MGM Pictures ภูมิใจเสนอ

การกลับมาของ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) นักแสดง-ผู้กำกับภาพยนตร์-ผู้เขียนบทภาพยนตร์ในบทที่แจ้งเกิดให้กับเขาบนถนนสายบันเทิง และกลายเป็นตัวละครระดับตำนานของโลกไปแล้ว

บริษัทภาพยนตร์ The Revolution Pictures และ Chartoff / Winkler Production ร่วมนำเสนอบทสุดท้ายของมหากาพย์อายุ 30 ปี

ที่เริ่มปฐมบทเมื่อปี 1976 ด้วย Rocky ภาพยนตร์ชื่อเดียวกันกับพระเอกของเรื่อง ซึ่งกลายเป็นม้ามืดทุบสถิติทำรายได้ถล่มทลายทั่วโลก

และยังคว้ารางวัลออสการ์ (Oscars)
สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture),
สาขากำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Directing),
และสาขาตัดต่อภาพยอดเยี่ยม (Best Editing) จากการเข้าชิงมากถึง 10 สาขา

ภาพยนตร์เรื่อง Rocky Balboa หรือ ร็อคกี้ ราชากำปั้น...ทุบสังเวียน

ก็ไม่ต่างจากภาคก่อนหน้านี้ที่ได้ สตอลโลน มานำแสดงและเขียนบทภาพยนตร์ เขายังกำกับและอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เองด้วย ทั้งยังได้นักแสดงคนคุ้นเคยกลับมารับบทเดิมอย่าง

เบิร์ท ยัง (Burt Young) รับบทพอลลี่ (Paulie) เพื่อนซี้คู่กัดและพี่เขยของร็อคกี้ ที่ร่วมแสดง

Rocky ทั้งหกภาค, และ เพโดร โลเวล (Pedro Lovell) รับบทสไปเดอร์ (Spider) อดีตคู่ชกที่ปัจจุบันมาแกร่วอยู่ในร้านอาหารของร็อคกี้ เพราะเขาไม่รู้จะไปไหน

ภาพยนตร์เรื่อง Rocky Balboa หรือ ร็อคกี้ ราชากำปั้น...ทุบสังเวียน

อำนวยการสร้างภาพยนตร์โดย

ชาร์ลส์ วิงค์เลอร์ (Charles Winkler),
วิลเลี่ยม ชาร์ทต๊อฟ (William Chartoff),
เดวิด วิงค์เลอร์ (David Winkler),
เควิน คิง (Kevin King),
และ กาย รี้ดเดล (Guy Reidel)

โดยมีคู่หูผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Rocky

เออร์วิน วิงค์เลอร์ (Irwin Winkler)
กับ โรเบิร์ต ชาร์ทต๊อฟ (Robert Chartoff)

เป็นผู้บริหารงานอำนวยการสร้างภาพยนตร์ พร้อมด้วยคณะผู้สร้างภาพยนตร์แถวหน้าอย่าง

คล้าร์ก แม็ทธิส (Clark Mathis) เป็นผู้กำกับภาพ,
ฟรังโก้ คาร์โบน (Franco Carbone) เป็นผู้ออกแบบสร้างสรรค์ฉาก,
เกร็ทเช่น แพ็ทช์ (Gretchen Patch) เป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย,
ฌอน อัลเบิร์ทสัน (Sean Albertson) เป็นผู้ตัดต่อภาพยนตร์,
และ บิล คอนติ (Bill Conti) ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์ตั้งแต่ภาคแรก กลับมาสร้างตำนานดนตรีประกอบภาพยนตร์ในภาคสุดท้ายนี้ด้วย

เมื่อสามสิบปีก่อน เขาก็เป็นแค่ชายไร้อนาคต

ที่ทำงานให้เจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้รายเล็ก ๆ ในย่านเซ้าธ์ไซด์ของฟิลาเดลเฟีย (South Side of Philadelphia) แล้วจู่ ๆ ชะตาฟ้าลิขิตให้ได้ขึ้นชกกับ อพอลโล่ ครี้ด (Apollo Creed) แชมป์โลกผู้เกรียงไกร นั่นเป็นเสี้ยวนาทีแห่งชีวิตที่มีโอกาสแค่หนึ่งในล้านเลยทีเดียว

ซึ่งเขาก็ต้องการเพียงแค่จะประสบความสำเร็จขั้นสุดยอดเท่านั้น

ความกล้าหาญและความอดทนของเขา ทั้งในการดำเนินชีวิตและบนสังเวียนผืนผ้าใบเป็นตัวอย่างแห่งความหวังให้กับผู้คนนับล้านชีวิต

บัดนี้วันเวลาที่รุ่งโรจน์ถึงขีดสุดของร็อคกี้

บัลโบ B<>(Rocky Balboa - รับบทโดย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน - Sylvester Stallone) ได้ล่วงเลยผ่านไปแล้ว จากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอิตาเลี่ยนจอมแกร่ง (Italian Stallion) ก็เหลือเพียงความทรงจำเด็ด ๆ ไว้เล่าให้ลูกค้าร้านอาหารของเขาฟังทุกค่ำคืน

ร้าน Adrians ที่เขาตั้งชื่อตามชื่อของภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้

วแต่เขาก็ยังไม่อาจตัดใจได้เสียที ในขณะที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน (รับบทโดย ไมโล เวนทิมิเกลีย - Milo Ventimiglia) ก็ไม่ค่อยสุงสิงกับพ่อสักเท่าไหร่

เขาพยายามจะก่อร่างสร้างตัวให้ยืนอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง

จนแทบไม่มีเวลาว่างเอาเสียเลย ทั้งสังขารที่แก่ตัวลงทุกวัน และผลจากการกรำศึกมานับสังเวียนไม่ถ้วน ทำให้ ร็อคกี้ ทุกวันนี้ไม่สง่าผ่าเผยเหมือนเก่า หมัดก็ไม่หนักดังเดิม

เดินไปไหนมาไหนก็ไหล่ห่อจนแทบไม่เหลือเค้าลางแห่งวันที่เคยเกรียงไกร

หากจะมีหลงเหลืออยู่บ้างก็เพียงเรื่องเก่า ๆ เล่าขานไปวัน ๆ แต่ลึกลงไปในใจแล้ว เขาก็ยังคงเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงในใจของเขาแล้ว ร็อคกี้ยังคงเป็นนักสู้อยู่ตลอดเวลา

เมสัน เดอะ ไลน์ ดิ๊กซ่อน (Mason The Line Dixon)

เป็นนักชกเจ้าของตำแหน่งแชมเปี้ยนรุ่นเฮฟวี่เวทที่ได้มาจากการชกกับคู่ต่อสู้ที่ไม่เก่งกาจนัก เขาแทบไม่ได้พิสูจน์ฝีไม้ลายมือในสังเวียน เพราะไม่เคยเจอกับคู่ชกที่กระดูกมวยพอฟัดพอเหวี่ยงเลยสักคน

ดิ๊กซ่อนจึงเป็นนักชกมีศิลปะเชิงมวยเพียบพร้อมแต่ไม่ได้ใจแฟนมวยสักนิดเดียว

นั่นก็เท่ากับไร้อนาคตในวงการกีฬาโดยสิ้นเชิง...

แล้วก็เกิดศึกเสมือนจริงที่อาศัยคอมพิวเตอร์สร้างสถานการณ์ให้เขาได้เปรียบเชิงมวยกับ ร็อคกี้ บัลโบ (Rocky Balboa) สมัยที่นักชกผู้เกรียงไกรยังรุ่งโรจน์ ถ้าจับทั้งคู่มาดวลหมัดกันใครจะเป็นเจ้าสังเวียน

ระหว่าง ดิ๊กซ่อนลีลาแย็บและฟุตเวิร์คสุดเฉียบ กับ ร็อคกี้ใจแกร่ง

แรงไม่มีถอย ผู้จัดการของดิ๊กซ่อนก็คิดได้ว่า นี่จะเป็นวิธีเรียกศรัทธาจากแฟนมวยได้เป็นอย่างดี แล้วผู้คนน่าจะหันมาสนใจการชกชิงแชมป์เฮฟวี่เวทกันอีกครั้ง

จากแนวคิดที่เป็นเพียงเรื่องขำ ๆ คิดกันไปได้

กลายเป็นศึกชิงเจ้าสังเวียนที่ดึงให้ ร็อคกี้ ซึ่งอายุอานามมากกว่า ดิ๊กซ่อน คู่ชกหนุ่ม เกือบ 2 เท่า ได้กลับขึ้นสังเวียนที่เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้โอกาสอีกครั้ง

และเป็นโอกาสหนึ่งในล้านที่จะพิสูจน์ตัวเอง และให้คนที่เขารักได้ประจักษ์ว่า ถึงสังขารจะชราแต่จิตใจกลับแกร่งกว่าเดิม

ขอบคุณข้อมูลและ ภาพสวย ๆ จาก:

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!