เรื่องย่อ ละครทวิภพ



ทวิภพ
 ละครที่คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ เตรียมสร้างใหม่ ทางช่อง 7
ทวิภพ บทประพันธ์เดิม ทมยันตี
ทวิภพ ผลิตโดยค่าย ดีด้า
ทวิภพ ได้นางเอกสวย มากฝีมือ อย่างน้อง แพนเค้ก รับบท มณีจันทร์
ทวิภพ ได้หนุ่มหล่อมาดเข้ม อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์ รับบท เจ้าคุณ
ทวิภพ คว้า Miss Thailand Universe 2010 ปุ๊กลุ๊ก ฝนทิพย์ มารับบท แม่ประยงค์


เรื่องย่อละคร ทวิภพ


บานกระจกแห่งกาลเวลา…กระจกที่ฉายภาพในอดีตได้แวบวาบชั่วครั้งชั่วคราว ยังไม่ปะติดประต่อ ไม่ชัดเจนเหมือนโทรทัศน์เธอปรับคลื่นไม่ได้เปิดไม่ได้ จูนภาพไม่ได้!
ทุกอย่างปรากฏโดยตัวของมันเอง แวบเดียวหาย พร่าเลือน ไร้เสียง…
มณี จันทร์ลูบหน้าอย่างอิดโรย…เธอได้พบกับเจ้าคุณอัครเทพวรากรยืนเด่นอยู่ต่อ หน้าต่อตา แย้มเยื้อน มีชีวิตชีวา แล้วก็เลือนหายไปในวับตาเดียว!
พบแต่จับต้องมิได้!“ฝันน่ะ เราฝัน…”

เมื่อ ‘กาลเวลา’ จะฉายย้อนท้วนหลัง ละอองน้ำจะเริ่มจับมัวแล้วค่อยจาง…ภาพชัด
“ผีหลอก!” มณีจันทร์เริ่มด้วยความหวาดกลัวดุจเด็กๆ เมื่อพบภาพนั้นต่อหน้า
“ผีกระจก”

หาก ภาพที่เคลื่อนไหว มีชีวิตชีวา ไม่แสดงอากัปกิริยาว่าจะรู้เห็น ว่ามีใครเฝ้าดูอยู่ ชีวิตนั้นเคลื่อนไหวเป็นปกติ เธอต่างหากที่รู้สึกเป็นคนแปลกหน้า แอบขโมยเปิดหน้าต่างดูความเป็นไปของบ้านอื่น เธอแน่ใจ เจ้าคุณอัครเทพวรากรยิ้มให้ ‘ใครคนหนึ่ง’
หากมิใช่เธอ ผู้แอบดู!
*******************************
มณี จันทร์ใช้ผ้าสำลีสะอาดนุ่มเช็ดกระจกบานยาวอย่างบรรจง ยิ่งเช็ดยิ่งใส สะท้อนเห็นภาพเธอและสรรพสิ่งภายในห้องชัดเจน ไม่มีทีท่าว่า…กาลเวลาจะเปิดรับเธอ!
กระจกคือกระจกไม่มีวี่แววว่าจะ มีอะไรผิดปกติ หากภาพนั้นปรากฏชัดขึ้นได้อย่างไร มณีจันทร์มองตาไม่กะพริบแต่ครุ่นคิด หากอดีตเป็นคลื่นแสงที่ยังไหลเวียนอยู่รอบตัวเรา กระจกบานนั้นต้องมีอะไรพิเศษสักอย่างจึงรับคลื่นแห่งอดีตได้ข้อสำคัญที่ทำให้เธอหงุดหงิดคือ ทำอย่างไรจะให้กระจกหรือเครื่องรับพิเศษนี้สามารถรับภาพติดติ่กันได้ สามารถเปิดปิดได้มณีจันทร์เฝ้ามอง รอให้ไอฝ้าเป็นหมอกละออง เพราะจากนั้นประตแห่งอดีตกาลจะแย้มเปิดให้เธอได้เห็นเธอเฝ้าเช็ด เฝ้าจอง ท้ายสุดก็กระซิบเรียกเบาๆ
“เจ้าคุณคะ…”ประโยค นั้นหลุดปากออกมาอย่างนุ่มนวล เคยลิ้นดุจราวกับเธอเคยเรียกขานมานานเท่านาน เจ้าคุณคะ…คำนี้ปลอดโปร่ง พาเอาความขัดข้องหมองใจปลิวหายวับไปจากสาวน้อยมาจนถึงบัดนี้ แม้จะมีบุรุษผ่านเข้ามาสักเท่าใด มณีจันทร์มีความรู้สึกเสมอว่าไม่ใช่…หาก…เหตุว่าข้าไซร้ไป่รู้ชายผู้โศภนคนไหน
ยรรยงพงศ์เผ่าเหล่าใคร
อยู่ไหนในถิ่นดินดอน
ทราบเพียงว่าชายนายหนึ่ง
ข้าพึงรักร่วมปัจถรณ์
บัดนี้เธอรู้แล้ว บุรุษที่เธอคอย…คือเจ้าคุณอัครเทพวรากร! ทว่า…เธอจะหมุนอดีตกลับมาได้อย่างไร?
“เจ้าคุณคะ!”
หญิงสาวเรียกดังขึ้น เช็ดถูแรงขึ้น แรงขึ้น…ทว่าไม่มีผล
“เจ้าคุณคะ มณีอยู่นี่ แม่มณีอยู่นี่!”
เธอกางมือทาบกับกระจก แนบหน้าลง
“มณีอยู่ตรงนี้”
เสียงเบาแกมสะอื้น “ทำยังไงเจ้าคุณจะรู้ว่ามณีอยู่ตรงนี้…”
หญิง สาวพลิกตัว ลืมตา เธอเพิ่งรู้ว่าตนเองนอนอยู่บนพรมหน้ากระจกอย่างสบาย บนร่างไม่มีผ้าห่มสักผืนเดียว หากตลอดคืนกลับอุ่นสบาย ราวกับอยู่ในอ้อมกอดของใครคนหนึ่ง
เธอหลับตั้งแต่เมื่อไหร่?
หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง ตามองเงาตนเองในกระจกที่ยังแจ่มชัด พลางสงสัยอะไรคือความจริง อะไรคือความฝัน
หญิงสาวลุกขึ้นเดินผ่านประตูไปสู้ห้องน้ำ ไม่ได้เห็นว่ารอยยิ้มบนภาพเดี่ยวดูเหมือนจะหม่นหมอง
******************************************
ช่อง ที่นั่งมีที่หย่อนเท้าลงใต้โต๊ะตัวเตี้ย จากหน้าต่างจะมองเห็นระเบียงแคบๆ และสวนน้อยกระจุ๋มกระจิ๋ม พนักงานที่ตามตามคุกเข่ารินชาใส่ถ้วยกระเบื้องขนาดจิ๋วให้พลางวางเมนูลง
“ขอ ปลาไข่สักหกตัวนะ แล้วก็โซบะ ข้างเหนียวห่อสาหร่าย… แค่นั้นก่อนเดี๋ยวสั่งใหม่” คนตัวใหญ่ผิวข้าวจัด ไรหนวดเป็นสีเขียวจางๆ เป็นคนเลือกสั่งพลางขยับแว่นไปมาอย่างเคยมือ
“เก่งนี่” หญิงสาวที่มาด้วยจิบชาพลางชม “นึกว่ารู้จักแต่ข้าวผัด”
ประโยค นี้ก่อให้เกิดเสียงหัวเราะ เพราะชีวิตในต่างประเทศของนักเรียนอื่นๆ นั้น มีทั้งเรียน เล่น เที่ยวไปพร้อมๆ กัน หากกับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอ เพื่อนๆ มักนินทาว่า
“มันงกเรียน”
และแม้เมื่อเข้าร้านอาหารเขาก็จะบอกเสียงอ่อยๆ ว่า “ข้าวผัดเหอะ มันง่ายดี”
นั่นอีกเช่นกันทำให้เพื่อนฝูงล้อว่า
“เฮ้ย… ไฟรด์ไรซ์โว้ย”
ลงท้ายเขาก็ไม่เดือดร้อน ที่จะเรียกมิสเตอร์ไฟรด์ไรซ์ ลงท้ายเหลือแค่ไรซ์จนเป็นที่รู้จักกัน
“ตรอง ตามหลักเคมี ฟิสิกส์อะไรของคุณน่ะ โทรทัศน์ไม่มีเครื่องมีไหม?”
“หลักเคมีกับฟิสิกส์มันคนละเรื่องเดียวกัน โทรทัศน์ไม่มีเครื่องก็เหมือนรถไม่มีเครื่อง มีน่ะมี มีแต่โครง วิ่งไม่ได้”
“แล้วกระจกล่ะ รับภาพอะไรได้บ้าง นอกจากภาพสะท้อน?”
“อ้าว ก็รู้อยู่แล้ว ต้องมีแสงตกถึงจะมีแสงสะท้อน ความรู้มัธยมจ้ะ”
“เราสงสัยว่า เราจะเอากฎทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ จะเรียกอะไรดีนะ ภาพอดีตหรือผี จะได้ไหม”
“บาง คราว… ที่ว่าเห็นผีแหละ สมองอันเป็นเครื่องรับสลับซับซ้อนตามธรรมชาติเกิดจูนภาพพอดีกับคลื่น แห่งอดีตเข้า หรือพระบางรูปท่านจูนเครื่องรับของท่านได้ ท่านก็เห็นจริง”
“ต้องทำยังไง?” คำถามกระตือรือร้น
“สมองคนมีไฟฟ้าสถิตนะ ถ้าไฟฟ้าสถิตเรียงขั้วให้ดี จะเป็นแม่เหล็กใหญ่อานุภาพจะมหาศาลเชียวละ”
หญิงสาวลูบหน้าผากตนเองอย่างครุ่นคิด
“ทำหน้ายังกับเคยเห็นผีที่ไหนมา”
มณีจันทร์มองหน้าคู่สนทนา ขยับฝีปาก หากแล้วก็กลับยิ้มเนือยๆ
“คิดจะเป็นเจ้าแม่หรือยังไง ถึงมาไต่ถามหาผี”
“ไม่หรอก” คนพูดสั่นศีรษะ “เพียงสงสัย”
จาก นั้นก็ชวนพูดเสียเรื่องอื่น เพราะ…มีประโยขน์อะไรเล่าที่เธอจะเล่าถึงภาพที่เธอบังเอิญจูนเห็นเข้า คลื่นแห่งอดีตวนอยู่ใกล้ๆ นี่เอง รอเวลาให้เธอเปิดเครื่องรับภาพ หากเธอจะทำฉันใด?
****************************
หญิงสาวหยุดชะงักแค่บันไดเวียนขึ้นไปชั้นบน เพราะเสียงคุณแม่บ้านโผล่หน้าออกมาจากห้องนั่งเล่น พลางรายงานว่า
“เมื่อบ่ายคุณไรวัตมาคอยค่ะ”
“ไม่ได้นัดกันนี่”
“ค่ะ แต่แวะมา ว่าจะโทรมาอีก”
ทันที ที่ก้าวเข้าสู่ห้องนอน หญิงสาวก็เข้าไปยืนอยู่หน้าบานกระจก ระหว่างคลื่นอันซับซ้อนแห่งอดีตและปัจจุบัน เจ้าคุณอัครเทพวรากรไม่ได้อยู่ไกลเธอเลย
กระจกใส เงาของท่านเจ้าคุณยิ้มรับ
ไม่ มีอะไรเกิดขึ้น มณีจันหันกลับ ถอนใจยาว หากแลเลยไปยังโต๊ะที่วางกรอบรูปไว้ด้วยความเคยชิน กรอบรูปทั้งสองคว่ำหน้า เธอคว่ำด้วยมือของเธอเองก่อนออกไป หญิงสาวหับขวับไปทางกระจกบานยาว
เจ้าคุณอัครเทพวรากรยิ้มยังรับเธอ
ภาพในกระจก…มิใช่ภาพสะท้อน!
ละไอฝ้ามัวเริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ มณีจันทร์สะท้านทั้งตัว อดีตกำลังหมุนกลับมา…เธอก้าวไปยืนหน้ากระจก หัวใจเต็มตื้น
ครั้งนี้มิใช่แค่ภาพ
มณีจันทร์รู้สึกถึงแรงดึงดูดอันรุนแรง ดุจยืนอยู่หน้าท่อลมขนาดยักษ์ เธอพยายามเกาะขอบกระจก หากเคว้งคว้าง ท้ายสุด…
ร่างทั้งร่างก็ปลิว เซหลุนๆ!
บรรยากาศ รอบด้านปั่นป่วนด้วยกระแสลมรุนแรงมณีจันทร์กอดเข่า ซุกหัว ม้วนตัวให้กลมที่สุดป้องกันหากมีการปะทะ หาก…นอกจากกระแสลมและแรงดึงดูดอันมหาศาล ก็มิมีสิ่งอื่นใดอีก
เธอลอยผ่านไปในท่อยักษ์อันมืดมิด
หญิง สาวหลับตา เฝ้าสงสัยว่าอะไรเกิดขึ้น และเอไปสู่ ณ ที่ใด… ท้ายสุดลมอันรุนแรงหวีดหวิวราวกับพายุร้ายกระหน่ำก็ค่อยเบาลง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองหล่นลงที่ใดที่หนึ่งอย่างนิ่มนวล
สิ่งแรกที่เธอเห็นคือ กระจกบานยาว!
มณีจันทร์ถอนใจ เกือบโล่งอก หากภาพสะท้อนจากกระจกนั้นแผกไป!
โต๊ะ ไม้ดำขาโค้งสลักลวดลายงดงามรองรับอ่าง และเหยือกสีชมพูปราศจากดอกไม้ที่เคยปักเต็ม ชุดล้างหน้าชุดนั้นน่ะใช่ ที่เธอเคยขอมาจากมารดา หาก…โต๊ะตัวนั้นไม่ใช่
หน้าต่างด้านหลังอันเคย ประดับม่านลูกไม้บางเบารวบสองไข บัดนี้ไม่เหลือลูกไม้ หากเป็นบานหน้าต่างไม้ส่วนบนโค้งประดับกระจกสีน้ำเงินตัวบานเป็นเกล็ด
อีกมุมหนึ่งคือภาพของตั่งมุกขนาดใหญ่ คงจะเป็นที่นอน หากผ้าแพร่คุมไว้ เบื้องบนวางหมอนขวาน ภาพที่ปรากฏนั้นสลัว เพราะย่างเข้ายามเย็น
มณีจันทร์เย็นวาบ ตัวแข็งใสในบัดดล
เธออยู่หน้ากระจกที่มิใช่ห้องเธอ!
หญิงสาวตาค้าง ไม่กล้าเหลือบแลทางใด ร่างทั้งร่างขยับเขยื้อนมิได้
เธอจิกเล็บลงกับแขนตนเองจนรู้สึกเจ็บ ให้แน่ใจว่าเธอตื่นแล้วแน่นอน หญิงสาวสูดลมหายใจยาว รวมความกล้า ลืมตา!
ภาพในกระจกตรงหน้าเป็นเฉกเช่นเดิม…
ระหว่างกระจกบานหนึ่งในห้องนอนของเธอ และกระจกบานนี้ คือช่วงกาลเวลา
เธอมาได้อย่างไร บัดนี้ไม่สำคัญ
หากเธอจะกลับ อย่างไรสำคัญกว่า!
มณีจันทร์มองกระจกบานยาวอย่างหมดปัญญา บางทีภาพในโกที่เธอเคยชินจะปรากฏขึ้นมาบ้างกระมัง
กลิ่นดอกไม้หอมระรวย
ใช่แล้ว…กลิ่นที่เธอเคยชิน
มณี จันทร์ค่อยๆคลานไปยังหน้าต่าง ห้องที่เธออยู่ในขณะนี้คงจะเป็นปีกหนึ่ง เพราะภาพที่เธอเห็นคือ สระน้ำ มีบัวสะพรั่ง และทางเดินเชื่อมยาวคลุมด้วยหลังคา
ใครคนหนึ่งเดินอยู่ช้าๆ
ท่าเดินเคยคุ้น จับตา ราวกับเธอได้เคยพบเห็นมาแสนนาน แม้เธอจะมองไม่เห็นด้วยระยะไกลและความมืดสลัว หากเธอรู้ชัด…
เจ้าคุณอัครเทพวรากร!
ภาพ เงาๆดูเหมือนจะเดินจากปีกตรงกันข้ามมายังปีกด้านที่เธอแอบซ่อนตัวอยู่ ครั้งอาการภาพนั้นชะงักทำท่าคล้ายจะชโงกตัวผ่านลูกกรงแหงนมาทางหน้าต่างราว กับรู้ว่ามีคนแอบดู มณีจันทร์หลบวูบ คลานจากหน้าต่างกลับมาอยู่หน้ากระจก ด้วยสัญชาตญาณว่าเป็นทางที่เธอมา มือเธอสะดุดอะไรบางอย่างบนพรม มณีจันทร์กำไว้
และในบัดดล เธอรับรู้ถึงกระแสลมที่เริ่มพัด
แรงดึงดูดที่ทวีกำลังขึ้น!
หญิง สาวมิได้หวาดกลัวอีกสืบไป เธอกอดเข่า เก็บเท้า หลับตา เธอกำลังกลับไปสู่ จะเรียกฉันใดดี เพราะหากเรียกปัจจุบัน เบื้องนอกนั้น เจ้าคุณอัครเทพวรากรก็อยู่ในโลกปัจจุบันของตนเองเช่นกัน โลกทั้งสองเหลื่อมซ้อนกัน ต่างมีปัจจุบันของตน
หากบัดนี้ทวิภพเชื่อมโยงเข้าหากัน…
ลมพัดอู้ เมื่อสิ้นสุดกระแสลม แวบแรกที่ลืมตา เธอกลับมาสู่ที่เดิม มณีจันทร์คลายมือออก
นาฬิกาพกเรือนกลมวางอยู่กลางมือ!
วัตถุ พยานที่ยืนยันว่าเธอมิได้ฝัน หากเธอได้เดินทางผ่านทวิภพมาจริงๆ… นาฬิกาโลหะฝังลวดลายทองเป็นเส้นงดงาม เมื่อกดสปริงเปิดออก เสียงเพลงดังกรุ๋งกริ๋งกังวาลใส และฝาบนมีภาพเจ้าคุณอัครเทพวรากรยิ้มนิดๆตามองตรงมา ดุจจะต่อว่า
“หล่อนหยิบนาฬิกาฉันมา!”
หญิงสาวใช้มือเสยผมที่ตกลงมาปิดหน้า เลยผ่านไปแตะที่หู ทำให้รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างของเธอหลุดหายไป
แน่แล้ว…ต่างหูข้างนั้นคงจะเหลือไว้ให้เจ้าของห้องดูต่างหน้าอย่างแน่นอน



ทวิภพ รีเมค...2553 
(ภาพยนตร์บันเทิง)

            "ทวิภพ" เป็น อีกหนึ่งบทประพันธ์ของ ทมยันดี ที่ตรึงใจและซาบซึ้งแก่นักอ่านนิยาย จากโลกของตัวอักษรกลั่นมาเป็นภาษาอันแสนสวย ที่ทมยินตีเรียงร้อยผูกเรื่องราวของความรักข้ามภพ ให้อดีตและปัจจุบันเดินขนานไปด้วยกัน และก็มาบรรจบพบกันได้ และสอดแทรกประวัติศาสตร์ ในช่วงที่สำคัญของสยามมาเกี่ยวโยง เพิ่มอรรกรสให้บทประพันธ์เรื่อง "ทวิภพ" สนุกและอิ่มเอมและเข้มข้น มาสู่โลกภาพยนตร์มีนักแสดงมารับบทเป็นตัวละครของ ทมยันตี มาแล้วหลายครั้ง ทั้งภาพยนตร์และละคร

            "ทวิภพ" เป็นภาพยนตร์ครั้งแรก เชิด ทรงศรี กำกับการแสดง ปี 2533 ฉัตรชัย เปล่งพานิช รับบทเป็น หลวงเทพวรากร-จันทร์จิรา จูแจ้ง รับบท เมนี่ หรือ มณีจันทร์ หรือ แม่มณีของหลวงเทพ

            และ อีก 4 ปีต่อมา (ปี 2537) ช่อง 7 สี ให้ ดาราวิดีโอ ดำเนินงานสร้างเป็นโทรทัศน์ครั้งแรก ศรัณยู วงษ์กระจ่าง-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ รับบทเป็น หลวงเทพ และ เมนี่ และในปี 2546-2547 “ทวิภพ” กลับมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง จากการกำกับฯของ สุรพงษ์ พินิจค้า ผู้รับบท หลวงเทพวรากร คือ รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง พระเอกช่อง 7 ในเวลานี้ คู่ นางแบบสาว “ฟลอเรนซ์” วนิดา เฟเวอร์

            และล่าสุด ช่อง 7 สี มอบให้ ดีด้า เป็นบริษัทผลิต "ทวิภพ" มีนางเอกละครฮอตติดจอ แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ เป็น เมนี่, อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์ เป็น หลวงเทพวรากร และเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยพลาดชม "ทวิภพ" เลยสักครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือละคร และครั้งนี้ก็รอชมเพราะชอบเนื้อเรื่องเนื้อหาในแนวนี้ แล้วทมยันตีเขียนอย่างผู้ทรงความรู้เต็มเปี่ยม เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยไม่มีตกหล่น นิยายมิใช่เพียงแค่ประโลมโลก ถ้าเรารู้จักเลือกที่จะอ่าน !

            เนื้อ เรื่องคร่าว ๆ ของ "ทวิภพ" คือเมนี่ ลูกสาวของท่านทูตไปร้านค้าของเก่า เกิดถูกอกถูกใจกระจกโบราณบานใหญ่เธอซื้อมา และกระจกนั้นพาเธอสู่ยุคสมัยรัชกาลที่ 5 และไปนั่งหน้าเจ๋อในห้องของ หลวงเทพ บ้านเรือนไทย ในขณะที่เพื่อน ๆ และคนที่แอบรักเธอก็เริ่มโกลาหลว่าเมนี่ไปไหน เมนี่เดินทางผ่านกระจกไปมาระหว่างภพปัจจุบันของเธอ กลับสู่ยุครัชกาลที่ 5 และมีความผูกพัน

            นอก เหนือพบเนื้อคู่แท้คือหลวงเทพแล้ว เมนี่ยังต้องมาช่วยกอบกู้สถานการณ์ของประเทศสยาม ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงคับขัน ที่ประเทศฝรั่งเศส กับ อังกฤษ ที่อยู่ในยุคล่าอาณานิคมแถบเอเชีย หวังจะให้สยามเป็นแดนกันชน และลงท้ายจะแบ่งแยกประเทศออก โดยเอาแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นแดนปักปันเขต มณีจันทร์ หรือ เมนี่ ซึ่งมีความรู้ด้านภาษาฝรั่งเศส ช่วยแก้เกมในครั้งนี้ได้สำเร็จ ก็เริ่มผูกพัน กับอดีตภพ และความรักที่มีต่อคุณหลวงอัครเทพวรากร มากขึ้นเรื่อย ๆ และท้ายที่สุดเมนี่ต้องตัดสินใจ ฉากจบ ตอนเมนี่มาลาแม่ของเธอในภพปัจจุบัน เพื่อไปใช้ชีวิตกับหลวงเทพ ซาบซึ้งมาก ๆ เชียวล่ะ !!!

ทวิภพ


ทวิภพ


ทวิภพ


ทวิภพ


ทวิภพ


ทวิภพ


ทวิภพ


ทวิภพ


ทวิภพ




ทวิภพ

ทวิภพ ละครทวิภพ  ละครช่อง7

ละครทวิภพ บทประพันธ์โดย : ทมยันตี
ละครทวิภพ บทโทรทัศน์โดย : นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
ละครทวิภพ กำกับการแสดงโดย : มาวิน แดงน้อย และ เพ็ญลักษณ์ อุดมสิน
ละครทวิภพ ผลิตโดย :บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด
ละครทวิภพ ออกอากาศทุกวัน ศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี

 เรื่องย่อทวิภพ

          มณีจันทร์ (เขมนิจ จามิกรณ์) สาวแห่ง พ.ศ. นี้ ผู้ถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ชาติตระกูลและการศึกษา ใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมาแทบตลอด เพราะบิดารับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ และต้องเดินทางตามประเทศต่าง ๆ ในฐานะเอกอัครราชทูต

          เมื่อมณีจันทร์และคุณมาลิดา (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) ผู้เป็นมารดากลับมาเยี่ยมบ้านเกิด มณีจันทร์ฝันซ้ำ ๆ อยู่แต่เรื่องเดียว เธอฝันเห็นเรือนทรงไทยตะคุ่ม ๆ เห็นห้องหนึ่งสลัวราง และในห้องนั้นก็มีเสียงเรียก "แม่มณี...แม่มณีจ๋า" เธอตื่นทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเรียกนั้นนุ่มนวลชวนให้ถวิลหายิ่งนัก

          มณีจันทร์ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังแม้แต่คุณมาลิดา จนกระทั่งวันหนึ่งเธอซื้อกระจกบานหนึ่งมาจากร้านขายของเก่า กระจกบานยาวในกรอบไม้ฉลุสลักลวดลายเก่าจนฝุ่นเขรอะ ลายบางส่วนหักวิ่น "กระจกสมัย รัชการที่ 5" เจ้าคุณวิศาลคดี (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) ชายชราผู้ขายบอกเธอ ที่กระจกมีรอยร้าวเป็นทางจากมุมลงมา มณีจันทร์ใช้ปลายนิ้วเช็ดกระจกเฉพาะตรงหน้า แว่บแรก เธอรู้สึกคุ้นเคยราวกับเคยเห็นคันฉ่องกรอบนั้นมาช้านาน หัวใจเอิบอาบซาบซ่าละม้ายได้ของรักคืนมา

          กระจกบานนั้นถูกตั้งไว้ในห้องนอนของเธอทำมุมกับอ่างล้างหน้าและเหยือกโบราณ ที่มีอยู่เดิม สิ่งอัศจรรย์หลายอย่างเกิดขึ้นกับเธอแม้ยามหลับและยามตื่น เธอรู้สึกถึงความผูกพันแนบแน่นที่มีต่อเจ้าของเสียง "แม่มณี...แม่มณีจ๋า" ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าผู้เรียกเลย วันหนึ่งเธอก็ได้เห็น "เขา" เห็นรูปถ่ายที่บ้านกุลวรางค์ (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า)เพื่อนสนิท มณีจันทร์รู้สึกว่าใช่คนนี้แน่นอนจึงซักไซร้จนได้ความว่าท่านคือ เจ้าคุณอัครเทพวรากร หรือ หลวงเทพ(อรรคพันธ์ นะมาตร์) เอกอัครราชทูตไทยคนแรกประจำสหรัฐอเมริกา และคุณหญิงของท่านชื่อ "คุณมณี" มณีจันทร์จึงขอรูปหลวงเทพจากกุลวรางค์ รูปที่ได้มาเหมือนสายใยที่ร้อยรัดความรู้สึกของมณีจันทร์ ให้แนบแน่นกับผู้ชายในฝันมากขึ้น จนกลายเป็นเส้นที่ขีดขั้นระหว่างเธอกับไรวัต (พิชยดลย์ พึ่งพันธ์) นายทหารหนุ่มแห่งกองทัพบกผู้ถึงพร้อมทั้งชาติตระกูล ทรัพย์สมบัติ และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ไรวัตรักมณีจันทร์มาก แต่รู้สึกว่าการกลับมาเมืองไทยคราวนี้มณีจันทร์แปลกไป เขารู้สึกว่าเธอมีคนอื่น ทำให้เขาร้อนรุ่มใจยิ่งนัก

          กระจกที่ได้มาทำให้มณีจันทร์เกิดเห็นภาพนิมิตหลายครั้งจากเงาสะท้อน แต่เธอก็บอกใครไม่ได้ เธอจึงไปคุยกับดร.ตรอง (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) นักฟิสิกส์เพื่อนสนิทอีกคน ดร.ตรอง ยืนยันความเป็นไปได้ของการมองเห็นภาพในอดีต ทำให้มณีจันทร์มั่นใจวาสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอไม่ใช่เรื่องเหลวไหล

          มณีจันทร์แน่ใจว่า กระจกเป็นสื่อจากเธอถึงเจ้าคุณอัครเทพวรากรในอดีต และรับภาพจากอดีตมาถึงเธอ ทุกวันเธอจดจ่ออยู่กับการหาหนทางให้ติดต่อกับภาพในอดีตนั้นได้ เพราะเธอรู้สึกว่าผู้ที่อยู่ไกลโพ้นในอดีตก็หวนหาเธออยู่เช่น กัน และด้วยกระแสจิตแห่งความผูกพันธ์ที่รุนแรง ทำให้กระจกเกิดพลานุภาพดึงมณีจันทร์หลุดเข้าไปสู่ห้วงแห่งกาลเวลาย้อนกลับไป สู่อดีต สู่ชายที่เธอเฝ้าใฝ่หามาตลอด

          ความผูกพันและใฝ่หากันค่อย ๆ สานตัวเป็นความรักที่อ่อนหวาน โดยทั้งสองฝ่ายไม่ต้องเอ่ยปากบอกรักกัน ซึ่งขณะนั้นเจ้าคุณอัครเทพวรากร ซึ่งขณะนั้นเป็นแค่เพียง หลวงอัครเทพวรากร ไม่เคยคิดถามหาหัวนอนปลายเท้าของดรุณีแรกรุ่นวัย ที่กำเนิดผู้ผุดขึ้นกลางเรือนชานผู้นี้เลย และยิ่งกว่านั้น ยังคิดปกป้องดูแลหนทางแห่งการ ไป-มา ของเธอให้สะดวกราบรื่นโดยไม่ให้ใครรู้เห็นอีกด้วย แต่ความก็แตกจนได้ เมื่อบ่าวไพร่สังเกตในความแปลกของนายจนเล่าลืออื้ออึงว่า นายเลี้ยงผี เมื่อม้วน (วชิรา เพิ่มสุริยา) บ่าวสาวได้ประจันหน้ากับผู้มาเยือนในห้องนอนของหลวงเทพ และในที่สุดคุณหญิงแสร์ (ดวงดาว จารุจินดา) มารดาผู้เฉลียวฉลาดของหลวงเทพ ได้ประจักษ์ด้วยตาตนเองว่ามีสาวน้อยนางหนึ่งมาเยือนบุตรชายของท่านโดยผ่าน ทางกระจก ความเชื่อปรัมปราทำให้คุณหญิงสรุปว่าสาวน้อยนั้นมาจาก "เมืองลับแล"

          ความน่ารักและอิริยาอาการและการพูดจาของมณีจันทร์ ผูกใจคุณหญิงและบ่าวไพร่ทั้งบ้านไว้ได้อีก  ทุกคนรอคอยการมาเยี่ยมเยือนของเธอ และอาลัยทุกครั้งที่เธอกลับสู่ถิ่นฐานของตน การได้มาเยือนอดีตทำให้ มณีจันทร์ใฝ่ใจที่จะค้นคว้าช่วงเวลาที่เธอมาเยือนมากขึ้น และเมื่อยิ่งรู้ว่าปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ ในตอนนั้นคือ การที่ฝรั่งเศสคุกคามจะเอาดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นของไทยไปครอบครอง ปัญหานี้หลวงเทพต้องร่วมแก้ด้วย มณีจันทร์จึงยิ่งใฝ่ที่จะหาทางช่วยประเทศให้พ้นจากการล่าอาณานิคม

          มณีจันทร์ใช้ความรู้ความสามารถทั้งหมดที่มี ช่วยงานหลวงเทพในงานของบ้านเมืองเท่าที่เธอจะช่วยได้ และเธอก็ได้แสดงความฉลาดเฉลียวสูงสุดให้ปรากฏ ในงานเลี้ยงทูตานุทูตข้าราชการชาวต่างประเทศ หลวงเทพปักใจว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่เขาจะเลือกเป็นคู่ครองแทน แม่ประยงค์ (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) สาวน้อยผู้งดงามอ่อนหวาน และวางตัวอยู่ในกรอบข่ายของขนบประเพณีทุกกระเบียดนิ้ว ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายหมายไว้ให้แก่กัน

          หากแต่คุณหลวงจะมั่นใจได้อย่างไรว่า สาวน้อยผู้มาเยือนทางกระจกนั้นจะอยู่กับเขาได้ตลอดไป กระจกบานนั้นไม่เคยให้ความแน่นอนในการมาและไปของเธอ ไม่เคยให้ความมั่นใจว่า เธอจะอยู่ในภพของเขาได้นานเท่าที่เขาต้องการอยากให้อยู่ เขาต้องยอมจำนนกับกระจกบานนี้หรือไม่ หากคนสองคนหลวงเทพและมณีจันทร์จะประคองรักแท้ระหว่างกันให้ดำเนินต่อไปได้ คงต้องมีใครสละอะไรเพื่อรักแท้นั้นแน่นอน...

          ติดตามชม ละครทวิภพ ละครพีเรียดฟอร์มยักษ์สุดคลาสสิก ได้ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครทวิภพ  เริ่มตอนแรกวันจันทร์ ที่ 1 สิงหาคม 2554 

 รายชื่อนักแสดงนำใน ละครทวิภพ

 อรรคพันธ์  นะมาตร์  แสดงเป็น   หลวงเทพ / หลวงอัครเทพวรากร  ในละคร ทวิภพ
 เขมนิจ  จามิกรณ์  แสดงเป็น  มณีจันทร์  ในละคร ทวิภพ
 พิชยดนย์  พึ่งพันธ์  แสดงเป็น  ไรวัต  ในละคร ทวิภพ
 กาญจน์เกล้า  ด้วยเศียรเกล้า  แสดงเป็น  กุลวรางค์  ในละคร ทวิภพ
 เทพหัสดิน  ณ  อยุธยา  แสดงเป็น  ดร.ตรอง  ในละคร ทวิภพ
 ฝนทิพย์  วัชรตระกูล  แสดงเป็น  ประยงค์  ในละคร ทวิภพ
 อานัส  ฬาพานิช  แสดงเป็น  หลวงเจนพาณิช  ในละคร ทวิภพ
 ดวงดาว  จารุจินดา  แสดงเป็น  คุณหญิงแสร์  ในละคร ทวิภพ
 ปภัสรา  เตชะไพบูลย์  แสดงเป็น  มาลิดา  ในละคร ทวิภพ
 ทรงสิทธิ์  รุ่งนพคุณศรี  แสดงเป็น  เจ้าคุณวิศาลคดี  ในละคร ทวิภพ
 ปนัดดา  โกมารทัต  แสดงเป็น  คุณหญิงสรเดช  ในละคร ทวิภพ
 เอลิเวอร์ บีเวอร์  แสดงเป็น  จอร์น  ในละคร ทวิภพ
 ปรีดา  ตันเต็มทรัพย์  แสดงเป็น  ปิแอร์  ในละคร ทวิภพ
 วชิรา  เพิ่มสุริยา  แสดงเป็น  นุ่ม/ม้วน  ในละคร ทวิภพ
 เอกรินทร์  อารีรักษ์  แสดงเป็น  ขาบ  ในละคร ทวิภพ
 กมลพรรณ  ทานตะวิรยะ  แสดงเป็น  อิ่ม  ในละคร ทวิภพ 


zonezeed


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์