เซเว่นกับก้าวแรกสู่สากล

เพิ่งจะผ่านหูผ่านตาแฟนชาวไทยไปได้ไม่นานสำหรับ

ดารานักร้องหนุ่มเกาหลี ชอยดองวุค หรือที่เรารู้จักกันดีในนามว่า "เซเว่น" หลังจากที่ลองชิมลางกับละครเรื่องแรกในบทบาทของเจ้าชายลี ฮู ใน รักวุ่นวายของเจ้าชายส้มหล่นเสร็จปุ๊บ ยอดชายนายเซเว่น ก็รีบพุ่งเป้าหมายกลับไปที่งานเพลงตามเดิม โดยเริ่มจากการทัวร์คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นให้เสร็จสิ้น ก่อนจะบินตรงไปยังอเมริกาเพื่อซุ่มซ้อมทำอัลบั้มโกอินเตอร์ต่อทันที

หลายปีแล้วที่นักร้องหนุ่มหน้าใสนัยย์ตาตี่ ได้ฉวัดเฉวียนอยู่ในวงการเพลงกิมจิ

จากทีแรกที่เห็นเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดา ก็กลับกลายมาเป็นชายหนุ่มมากเสน่ห์ในปัจจุบัน ช่วงเวลาที่ผ่านพ้นไปกับการพัฒนาทีละน้อยของศิลปินหนุ่มเกาหลีผู้นี้ ช่วยสร้างความนิยมและทำให้ชื่อของเขา ยิ่งใหญ่ขึ้นไปทุกทีๆ ไม่ใช่เฉพาะแต่ในประเทศบ้านเกิด หากแต่ความโด่งดังกำลังกระจายขยายภูมิภาคไปยังอีกฟากโลกอย่างตลาดอเมริกาอีกด้วย

หลังจากเสร็จสิ้นการทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น

เซเว่นก็จำต้องแพ็คกระเป๋าลาจากแผ่นดินแม่และแดนซากุระที่ตัวเองคุ้นเคย เพื่อโกอินเตอร์ต่อไปยังเมืองมะกันทันที แม้ว่าจะเพิ่งออกซิงเกิ้ลที่ 6 ในญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า Ari no mama และ Believe เพื่อขอบคุณในความรักของแฟนๆไปได้หมาดๆ ก็ตาม 

หนทางการก้าวสู่สากลของหนุ่มผู้นี้ เริ่มตั้งแต่การฟอร์มทีมโปรดักชั่นระดับมืออาชีพขึ้นมา 

โดยทีมงานที่มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์อัลบั้มของเซเว่นนี้

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดของภารกิจการโกอินเตอร์ของหนุ่มหน้ามนคนนี้ 

คือภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง  จากหนุ่มน้อยเจ้าสำอาง หน้าตาใสกิ๊ง ก็ถูกปรับเปลี่ยนให้ดูสมชายชาตรียิ่งขึ้น โดยการเพิ่มน้ำหนัก เพิ่มกล้าม และหั่นผมให้สั้นเกรียนเปลี่ยนลุคไปถนัดตา  วิถีชีวิตเองก็ดูจะเปลี่ยนเป็นเพลย์บอยนิดๆ ด้วยเช่นกัน  เมื่อเวลาว่างของพ่อหนุ่มเขา มักจะพักผ่อนด้วยการไปปาร์ตี้ และแน่นอนว่า ด้วยหน้าตา บุคลิกที่ดูดีเกินมาตรฐานชายธรรมดา ก็สามารถเตะตาบรรดาแหม่มสาวผมทองได้ไม่แพ้กัน และนั่นก็เป็นสัญญาณที่ดี บ่งบอกว่านักร้องคนนี้ได้มาถูกทางแล้ว

นอกจากนั้นเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเรื่องชื่อแบบซูเปอร์สตาร์หนุ่มอย่าง นายเรน  

ทางต้นสังกัด วายจี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์  จึงได้ทำการจดลิขสิทธิ์การค้าในชื่อของ เซเว่น Se7en แล้วเรียบร้อย และล่าสุดก็มีการทำโปรเจคท์นานาชาติสำหรับแฟนๆ ทั่วโลกเพื่อร่วมส่งกำลังใจให้พ่อหนุ่มคนนี้ได้ ผ่านทางบริษัทออแกไนเซอร์ผู้ดูแลการจัดคอนเสิร์ตในอเมริกาของ เซเว่นโดยตรง