สื่อดังเปิดเผย!! ที่มาว่าตำรวจตรวจสอบพบว่า ท็อป เสพกัญชาได้อย่างไร!!

เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2016 สำนักงานอัยการเขตซูวอนพบ 37 คน ที่ต้องสงสัยละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมยาเสพติด ซึ่งเป็นผลจากการควบคุมการทำผิดกฎหมายยาเสพติด 100 วัน ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ในปีเดียวกัน

ใน 37 คนนั้น มีนายยัง ที่มีชื่อเสียงจากการเป็นสไตลิสต์ของ YG อยู่ด้วย โดยสำนักงานอัยการได้ยึดบ้านของนายยังและตรวจพบสิ่งของเปื้อนโคเคน ส่วนการตรวจปัสสาวะและเส้นผมก็ได้ผลออกมาเป็นบวกด้วย

สำนักงานอัยการเขตซูวอนได้ฟ้องร้องนายยังโดยไม่กักตัว โดยเขาต้องสงสัยเรื่องการเสพโคเคนที่ LA ในเดือนเมษายน ปี 2014 และเสพกัญชาที่โตเกียว ในเดือนมีนาคม ปี 2016 ซึ่งเขาทำหน้าที่เป็นสไตลิสต์ของ 2NE1 และเป็นที่รู้จักเรื่องที่สนิทสนมกับ Big Bang ด้วย

ในรายการสืบสวนของสำนักงานอัยการเขตซูวอนในตอนนั้นมีไอดอลอยู่ด้วย แต่คดียาเสพติดไม่สามารถดำเนินคดีได้จากรายงานเพียงอย่างเดียว ซึ่งจำเป็นต้องมีข้อมูลพิสูจน์สภาพการณ์ด้วย ทำให้การสืบสวนไม่คืบหน้า

"การที่บอกว่าเรามีข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ได้ทำให้เราสามารถดึงเส้นผมออกมาได้โดยไม่พิจารณา ซึ่งจะต้องมีข้อมูลพิสูจน์ที่จะสนับสนุนความเชื่อถือของรายงานหรือการให้ปากคำก่อน" (ผู้เกี่ยวข้องในการสืบสวนยาเสพติด)

ท็อป (T.O.P) วง Big Bang (ชื่อจริง ชเวซึงฮยอน) ถูกตั้งข้อหาต้องสงสัยในการละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมยาเสพติด โดยต้องสงสัยเรื่องการเสพกัญชากับ A เด็กฝึกหัดของต้นสังกัดที่บ้านที่ฮันนัมดง ยงซันกู ในเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว

ท็อปถูกจับได้จากตรงไหนกันนะ?

ตำรวจได้ควบคุมการทำผิดกฎหมายยาเสพติดเมื่อต้นปี และพบจุดต้องสงสัยเกี่ยวกับ A ที่ใฝ่ฝันเป็นนักร้อง จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทันทีพร้อมกับจับกุมตัว และเริ่มการตรวจสอบ

ชื่อของท็อปถูกเปิดเผยออกมาอย่างคาดไม่ถึงในขั้นตอนการตรวจสอบ A แต่ไม่ได้มีความหมายใดๆ ในขั้นตอนการสอบสวนยาเสพติด และไม่สามารถสอบสวนเพราะความสงสัยได้

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ผู้เกี่ยวข้องกับตำรวจได้กล่าวกับ Dispatch ว่า "เราไม่สามารถพึ่งการรายงานเพียงอย่างเดียวได้ โดยจะต้องแยกแยะความเชื่อถือ ตรวจสอบความเป็นไปได้ที่เข้ากันและต้องมีรูปที่ได้พบกัน"

"เราไม่สามารถเริ่มต้นการสืบสวนได้โดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน เพราะมีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน"

หลักฐานสำคัญที่ทำให้ตำรวจสามารถสอบสวนท็อปได้ก็คือข้าวของของ A โดยตำรวจได้ยึดข้าวของของ A และเข้าสู่กระบวนพิสูจน์ตรวจสอบ ซึ่งก็พบความสัมพันธ์ระหว่าง A กับท็อป และพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้วย

ตำรวจได้ระดมพลไปบยอกเจโร คยองกีโด ในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา และเก็บเส้นขนของท็อปจากสภาพการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสพกัญชาได้สำเร็จ พร้อมกับส่งให้ National Forensic Service (หรือ NFS) และผลการตรวจก็ได้ผลออกมาเป็นบวก

แต่ท็อปไม่ยอมรับง่ายๆ เขายอมรับว่าได้พบกับ A ที่บ้านที่ฮันนัมดง ในเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว จริง แต่ปฏิเสธเกี่ยวกับการเสพกัญชา โดยชี้แจงว่า "เข้าใจว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า"

ตำรวจได้ยื่นข้อมูลพื้นฐานที่ได้มาล่วงหน้า ทำให้ท็อปต้องจำนนต่อหลักฐานสภาพการณ์ต่างๆ ส่วนผลการตรวจสอบ NFS ที่ทำให้เขาเสียเปรียบและไร้หนทางหลุดรอด

ตำรวจได้ส่งตัว A ในสภาพที่กักตัวให้สำนักงานอัยการ ส่วนท็อปได้ถูกส่งตัวให้สำนักงานอัยการโดยไม่กักตัว ซึ่งอ้างอิงจากผู้เกี่ยวข้องจากสำนักงานอัยการ ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการยุติการฟ้องร้อง

ซึ่งเรื่องนี้ก็สามารถเปรียบเทียบในกรณีตัวอย่างของจีดราก้อนได้เช่นกัน

จีดราก้อนถูกตั้งข้อหาต้องสงสัยเสพกัญชาในปี 2011 ซึ่งเขาได้คัดค้านการสอบปากคำของตำรวจว่า "เสพ(กัญชา)ที่แฟนคลับญี่ปุ่นให้มาเพราะเข้าใจว่าเป็นบุหรี่" ซึ่งหมายถึงเขาไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วคือกัญชา

ในตอนนั้น ตำรวจได้ยุติการฟ้องร้องโดย "ตัดสินว่าการสูบบุหรี่ของควอนจียงไม่มีการทำผิดซ้ำซาก" ซึ่งเรื่องนี้ก็คล้ายกับประเด็นของท็อปที่ยืนยันว่า "เข้าใจว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า"


สื่อดังเปิดเผย!! ที่มาว่าตำรวจตรวจสอบพบว่า ท็อป เสพกัญชาได้อย่างไร!!


สื่อดังเปิดเผย!! ที่มาว่าตำรวจตรวจสอบพบว่า ท็อป เสพกัญชาได้อย่างไร!!


สื่อดังเปิดเผย!! ที่มาว่าตำรวจตรวจสอบพบว่า ท็อป เสพกัญชาได้อย่างไร!!


สื่อดังเปิดเผย!! ที่มาว่าตำรวจตรวจสอบพบว่า ท็อป เสพกัญชาได้อย่างไร!!


สื่อดังเปิดเผย!! ที่มาว่าตำรวจตรวจสอบพบว่า ท็อป เสพกัญชาได้อย่างไร!!

ที่มา : Nate


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์